เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่องเป็นประธานการประชุมทั่วประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง

(VOVWORLD) -เช้าวันที่ 22 เมษายน ณ สำนักงานใหญ่ของพรรค กรมการเมืองและคณะเลขาธิการกลางพรรคได้จัดการประชุมทั่วประเทศโดยตรงและผ่านระบบทางไกลเกี่ยวกับการปฏิบัติมติที่ 13 ว่าด้วยการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและรักษาความมั่นคงด้านกลาโหมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง โดยมีท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เข้าร่วมและกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นอกจากนี้ ยังมีประธานประเทศ เหงียนซวนฟุ๊ก นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง และประธานสภาแห่งชาติ เวืองดิ่งเหวะ เข้าร่วมด้วย
เลขาธิการใหญ่พรรคฯ เหงียนฟู้จ่องเป็นประธานการประชุมทั่วประเทศเกี่ยวกับการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง - ảnh 1ท่าน เหงียนฟู้จ่อง เลขาธิการใหญ่พรรคฯ กล่าวปราศรัยในการประชุม (VNA)

ที่ประชุมได้เผยแพร่เนื้อหาของมติที่ 13 ให้ทั้งระบบการเมืองและทั่วประเทศ โดยเฉพาะในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงให้มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งและสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในระดับสูง ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม ท่าน เหงียนฟู้จ่อง ได้เผยว่า การที่กรมการเมืองได้ประกาศมติครั้งนี้ก็เพื่อสามารถปฏิบัติแนวทางของพรรคฯ โดยเฉพาะมติของการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคฯ สมัยที่ 13 เกี่ยวกับการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำของให้ดีขึ้น เพราะนี่เป็นเรื่องที่มีความหมายเชิงยุทธศาสตร์ต่อทั้งภูมิภาคและประเทศ มติฉบับใหม่ถูกประกาศก็เพื่อสร้างก้าวกระโดดในการส่งเสริมบทบาท สถานะที่สำคัญพิเศษและการใช้ศักยภาพและจุดแข็งในการพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในระยะต่อไป โดยในมติฉบับนี้ได้ระบุเป้าหมายทั่วไปและมาตรฐานที่ต้องบรรลุภายในปี 2030 เช่น การพัฒนาเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงให้เป็นเขตเชิงนิเวศ อารยธรรมและยั่งยืน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเขตแม่น้ำ เป็นศูนย์กลางด้านเศรษฐกิจการเกษตรที่ยั่งยืน คล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากของประเทศ ภูมิภาคและโลก ถึงปี 2045 เขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงต้องพัฒนาเป็นเขตที่พัฒนาอย่างรอบด้าน ทั้งในเชิงนิเวศ มีอารยธรรมและยั่งยืน เต็มไปด้วยเอกลักษณ์วัฒนธรรมของเขตแม่น้ำ ระดับการพัฒนาอยู่ในระดับปานกลางของประเทศ มีโครงสร้างพื้นฐานด้านเศรษฐกิจสังคมที่พร้อมเพรียง ทันสมัยและปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ เศรษฐกิจพัฒนาอย่างคล่องตัวและมีประสิทธิภาพ ความมั่นคงด้านกลาโหมยังคงได้รับการปกป้อง องค์กรพรรคและระบบการเมืองมีความโปร่งใส เข้มแข็งและกลุ่มมหาสามัคคีชนในชาติได้รับการเสริมสร้าง เป็นต้น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด