ภาพการประชุม

ในการนี้ นายกรัฐมนตรี ฝ่ามมิงชิ้ง ได้ย้ำว่า การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการฟื้นฟูระบบนิเวศคือประเด็นที่ต้องให้ความสนใจเป็นพิเศษในนโยบายพัฒนาของทุกประเทศ อีกทั้งต้องพัฒนาวิทยาศาสตร์และระดมเงินทุนเพื่อเป็นสร้างแรงกระตุ้นให้แก่การเปลี่ยนแปลงรูปแบบการพัฒนาเศรษฐกิจหมุนเวียนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ถือประชาชนเป็นศูนย์กลางและไม่ปล่อยให้ใครถูกทิ้งไว้ข้างหลัง

“ทุกประเทศต้องให้คำมั่นเกี่ยวกับการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกอย่างเข้มแข็งมากขึ้น สอดคล้องกับสถานการณ์และศักยภาพของแต่ละประเทศ ผมเรียกร้องให้ประเทศต่างๆมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียมกันในการรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ รวมถึงการควบคุมไม่ให้อุณหภูมิของโลกเพิ่มขึ้น สำหรับเวียดนาม แม้เป็นประเทศกำลังพัฒนาและเริ่มกระบวนการพัฒนาเป็นประเทศอุตสาหกรรมในช่วง 30ปีที่ผ่านมา แต่ก็มีจุดแข็งด้านพลังงานทางเลือก โดยจะสร้างสรรค์และปฏิบัติมาตรการลดการปล่อยก๊าซที่ก่อให้เกิดปฏิกิริยาเรือนกระจกอย่างเข้มแข็งมากขึ้นภายใต้ความร่วมมือและการช่วยเหลือด้านการเงินและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากประชาคมโลก โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาเพื่อบรรลุเป้าหมายลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ให้อยู่ที่ 0% ภายในปี 2050 ตามข้อตกลงปารีส”