การประชุมคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (VGP)

ในการประชุมคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เมื่อเช้าวันที่ 6 พฤษภาคม สมาชิกของคณะกรรมการฯได้เห็นพ้องกันว่า ต้องบังคับให้ใส่หน้ากากอนามัยในขณะที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะและในสถานที่สาธารณะที่มีคนพลุกพล่าน ไม่จำเป็นใส่หน้ากากอนามัยในห้องเรียน แต่ให้ใส่ในช่วงเวลาพัก เวลาเล่นในพื้นที่กลางแจ้งและเมื่อต้องมีการสัมผัสใกล้ชิดกันเท่านั้น

บรรดาผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า โรงเรียนไม่ใช่เป็นสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่โรงพยาบาล ตลาดและระบบขนส่งสาธารณะเป็นจุดที่ต้องให้ความสนใจถึงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด บนพื้นฐานความเห็นของบรรดาผู้เชี่ยวชาญ รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม หัวหน้าคณะกรรมการชี้นำแห่งชาติเกี่ยวกับการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้ย้ำว่า สามารถควบคุมการแพร่ระบาดภายในประเทศได้เป็นอย่างดีแล้ว แต่สถานการณ์การแพร่ระบาดในต่างประเทศยังคงไม่น่าไว้วางใจ หลักการในการป้องกันการแพร่ระบาดในปัจจุบันคือควมคุมการแพร่ระบาดจากภายนอกอย่างเข้มงวดเพื่อผ่อนปรนภายใน รองนายกรัฐมนตรี หวูดึ๊กดาม ได้ย้ำว่า “หน่วยงานต่างๆตั้งแต่กองทัพ ตำรวจ สาธารณสุขไปจนถึงหน่วยงานประยุกต์ใช้เทคโนโลยีต้องไม่ประมาท ต้องเพิ่มความเข้มงวด โดยเฉพาะผลักดันการใช้เทคโนโลยีซึ่งถือเป็นเงื่อนไข 2 ข้อเพื่อผ่อนปรนมาตรการภายในประเทศ ระวังการแพร่ระบาดจากภายนอก ประเด็นที่ 2 คือผลักดันการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี ซึ่งถ้าพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ก็จะสามารถใช้เทคโนโลยีภายในประเทศเพื่อระบุแหล่งที่มาเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดได้อย่างทันท่วงที พวกเราส่งเสริมให้ประชาชนทุกคนจำกัดการออกจากบ้าน และต้องใส่หน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะและในขณะที่ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ”

ที่ประชุมเสนอยังไม่อนุญาตให้เปิดร้านคาราโอเคะ บาร์และจัดงานเทศกาล ส่วนบริการอื่นๆจะจะเปิดตามปกติแต่ต้องรักษาการเว้นระยะหว่างอย่างน้อย 1 เมตร.