ทั้งนี้ จนถึงเวลา 18.00 น. ของวันที่ 17 มิถุนายน เวียดนามมีผู้ติดเชื้อสะสม 335 รายโดยมีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดี 325 ราย และเป็นวันที่ 62 ติดต่อกันที่เวียดนามไม่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในประเทศ โดยผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดทุกรายเป็นผู้ที่ต่างเดินทางกลับจากต่างประเทศ ซึ่งได้รับการแยกตัวทันทีเมื่อเดินทางถึงเวียดนาม

ในวันเดียวกัน ศูนย์สาธารณสุขป้องกันจังหวัดบ่าเหรียะหวุงเต่าได้ประสานกับสำนักงานที่เกี่ยวข้องทำการรับและแยกตัวพลเมืองเวียดนาม 264 คนที่กลับจากตะวันออกกลางในเขตแยกตัว 2 แห่งของจังหวัดเป็นเวลา 14 วัน และหลังจากนั้น กลุ่มคนเหล่านี้ก็จะต้องทำการกักตัวอยู่ที่บ้านอีก 14 วัน ตามรายงานของศูนย์ฯ จนถึงวันที่ 17 มิถุนายน จังหวัดบ่าเรียะหวุงเต่ากำลังดูแลผู้ที่ถูกแยกตัวจำนวน 405 ราย นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ทางจังหวัดฯได้ทำการดูแลผู้ที่ถูกแยกตัวรวม 905 รายโดยมีผู้ติดเชื้อ 1 ราย.

ในขณะเดียวกัน ตามรายงานของเว็บไซต์ worldometers.info จนถึงเวลา 18.00 น.ของวันที่ 17 มิถุนายน ทั่วโลกมีผู้ติดเชื้อโรคโควิด-19 กว่า 8.2 ล้านราย ผู้เสียชีวิตกว่า 446,000 รายและมีผู้ที่ได้รับการรักษาจนหายดีกว่า 4.3 ล้านราย

ที่ยุโรป สถานการณ์การแพร่ระบาดได้เริ่มดีขึ้น ทำให้หลายประเทศเริ่มผ่อนปรนมาตรการป้องกันการแพร่ระบาด เปิดชายแดนและฟื้นฟูกิจกรรมด้านเศรษฐกิจ ส่วนในทวีปอเมริกา โดยเฉพาะสหรัฐและบราซิล สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง เมื่อวันที่ 16 มิถุนายน  องค์การอนามัยภาคพื้นอเมริกาหรือ PAHO เตือนว่า ทวีปอเมริกาอาจมีผู้ติดเชื้อถึง 4 ล้านราย โดยสหรัฐและบราซิลจะเป็น 2 ประเทศที่มีผู้ติดเชื้อมากที่สุด ในขณะเดียวกัน เอเชียกำลังต้องเผชิญกับการแพร่ระบาดระลอกที่ 2 หลังจากจีน สาธารณรัฐเกหลี อิหร่านและอินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อรายใหม่หลายคน

โดยที่ประเทศจีน ตามรายงานของเช้าวันที่ 17 มิถุนายน จีนได้พบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีก 44 รายเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน โดยเป็นผู้ที่กลับจากต่างประเทศอยู่ที่ 11 รายและผู้ติดเชื้อภายในประเทศ 33 ราย ซึ่งเป็นผู้ติดเชื้อในกรุงปักกิ่ง 31 ราย ทำให้ขณะนี้ หลังผ่านมาแล้ว 6 วัน ปักกิ่งมีผู้ติดเชื้อสะสม 134 รายซึ่งคาดการณ์ว่าติดเชื้อจากตลาดซินฟาตี้ ส่วนทางการปักกิ่งได้ประกาศใช้นโยบายป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวดอีกครั้งหลังจากเพิ่งประกาศยกเลิกไปเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน.