ภาพการแถลงข่าว

คาดว่า จะมี 27 คณะจากประเทศสมาชิกอาเซียนและประเทศหุ้นส่วนจาก 4 ทวีป รวมทั้งประเทศที่เข้าร่วมฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือเออาร์เอฟเข้าร่วม นายกรัฐมนตรี เหงียนซวนฟุกจะเข้าร่วมและกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม

ในการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเมื่อบ่ายวันที่ 7 กันยายน ณ กรุงฮานอย นาย เหงียนก๊วกหยุง รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้ยืนยันว่า เวียดนามส่งเสริมบทบาทประธานอาเซียนบนเจตนารมณ์แห่งการ “ความเป็นหนึ่งเดียวและพร้อมปรับตัว” พร้อมค้ำประกันให้แก่การประชุมเอเอ็มเอ็ม-53 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องให้ประสบความสำเร็จ

“เอเอ็มเอ็ม 53 และการประชุมต่างๆที่เกี่ยวข้องคือการประชุมสำคัญที่สุดของปีประธานอาเซียน การประชุมมีขึ้นในสภาวการณ์ที่ภูมิภาคและโลกกำลังผันผวนอย่างซับซ้อนเนื่องจากการแข่งขันเชิงยุทธศาสตร์ที่รุนแรงระหว่างประเทศใหญ่ๆ ความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นในจุดร้อนต่างๆ และการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตเศรษฐกิจ สังคมของประเทศสมาชิกอาเซียน ในสภาวการณ์ดังกล่าว ถึงแม้กิจกรรมของอาเซียนได้รับผลกระทบเป็นอย่างมากจากการแพร่ระบาด แต่เวียดนามกำลังพยายามปฏิบัติหน้าที่ประธานอาเซียน 2020 ให้ประสบความสำเร็จในระดับสูงสุด เสนอข้อคิดริเริ่มหลายข้อ ธำรงและผลักดันความร่วมมือในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาด ตลอดจนการสร้างสรรค์ประชาคม ผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วน เสริมสร้างบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียน”

คาดว่า ที่ประชุมเอเอ็มเอ็ม 53 จะอนุมัติแถลงการณ์ร่วมและเอกสารเกือบ 40 ฉบับ โดยเน้นถึงคำมั่นของอาเซียนในการผลักดันประชาคมอาเซียน การเชื่อมโยงเศรษฐกิจ ความร่วมมือกับหุ้นส่วนสนทนาต่างๆในโครงสร้างภูมิภาค โดยบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนเป็นหลัก ขยายความร่วมมือในด้านที่มีผลประโยชน์ร่วมกันเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆที่กำลังเกิดขึ้น ตลอดจนปัญหาที่เกี่ยวข้องถึงสันติภาพ ความมั่นคงและเสถียรภาพ.