เวียดนามมีสถานะพิเศษและเป็นปัจจัยที่สำคัญมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพในอาเซียน

(VOVWORLD) -ในกรอบกิจกรรมต่างๆในโอกาสเป็นประธานการประชุมหารือของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติในระหว่างวันที่ 9 -10  มกราคม ณ สำนักงานใหญ่ของสหประชาชาติ นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามได้เป็นประธานในการพบปะหารือในช่วงอาหารเที่ยงของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ  พบปะทวิภาคีกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติหรือ UNDP  ผู้อำนวยการองค์การเพื่อสตรีแห่งสหประชาชาติหรือ  UN Women รัฐมนตรีต่างประเทศนิการากัวและติมอร์เลสเต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศยูเครนและอดีตประธานาธิบดีไอร์แลนด์

เวียดนามมีสถานะพิเศษและเป็นปัจจัยที่สำคัญมีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพในอาเซียน - ảnh 1นาย ฝามบิ่งมิง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเวียดนามและเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ อันโตนิโอ กูเตอร์เรส 

ในการพบปะหารือระหว่างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกับเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติ  รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้ยืนยันว่า การธำรงการประสานงานอย่างใกล้ชิดระหว่างคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติกับคณะเลขาธิการได้ช่วยให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอัพเดทข้อมูลอย่างทันการณ์และในทุกด้านเพื่อวางมาตรการลดความตึงเครียด ป้องกันการปะทะ แก้ไขปัญหาการพิพาทอย่างสันติ มีส่วนร่วมต่อการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาคและโลก ส่วนเลขาธิการใหญ่สหประชาชาติได้เผยว่า เวียดนามมีบทบาทที่สำคัญนในการมีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาค พร้อมทั้ง ยืนยันถึงการแก้ไขปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกอย่างสันติ สอดคล้องกับกฎหมายสากล

ส่วนในการพบปะกับผู้อำนวยการ  UNDP  และUN Women รองนายกรัฐมนตรี ฝามบิ่งมิงได้เสนอให้สองสำนักงานดังกล่าวประสานงานและให้คำปรึกษาด้านยุทธศาสตร์ โดยเฉพาะ การปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจ การรับมือการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน การบริหารจัดการและใช้แหล่งน้ำของแม่น้ำโขงอย่างยันยืน การส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศและการเพิ่มอำนาจให้แก่สตรีในเวลาที่จะถึง

  ส่วนในการพบปะกับรัฐมนตรีต่างประเทศนิการากัวและติมอร์เลสเต ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องที่จะผลักดันความร่วมมือในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก รวมทั้ง สหประชาชาติ ผลักดันการสนทนาด้านการเมืองและพิจารณาการเจรจากรอบข้อตกลงเกี่ยวกับการค้าและการลงทุนเพื่อสร้างกรอบทางนิตินัยให้แก่ความร่วมมือทวิภาคี.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด