ในการนี้ นาย เหงวียนซวนฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้เผยว่า ภายหลัง5ปีที่กลายเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ สิงคโปร์มีโครงการลงทุนกว่า2000โครงการในเวียดนาม รวมยอดเงินลงทุนกว่า4หมื่น3พันล้านดอลลาร์สหรัฐ มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างสองประเทศบรรลุเกือบ8.5พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่วนเวียดนามมีโครงการลงทุนเกือบ100โครงการในสิงคโปร์ รวมยอดเงินลงทุนกว่า200ล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้ง ยืนยันว่า รัฐบาลเวียดนามตั้งใจที่จะพัฒนาเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วในเวลาที่จะถึงผ่านการผลักดันการปรับปรุงบรรยากาศการลงทุนและประกอบธุรกิจ เพิ่มอัตราการขยายตัวบนพื้นฐานของการเพิ่มผลผลิต การเปลี่ยนแปลงใหม่อย่างมีความคิดสร้างสรรค์ เป็นฝ่ายรุกในการใช้โอกาสของการปฏิวัติอุตสาหกรรม4.0  ในอีกสิบปีข้างหน้า เวียดนามมีความประสงค์ว่า อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจจะบรรลุกว่าร้อยละ6.5ต่อปี

“เวียดนามกำลังพยายามสร้างสรรค์เศรษฐกิจแห่ง start up ที่มีความคิดสร้างสรรค์ ความเป็นฝ่ายรุกของเศรษฐกิจ นโยบายพัฒนาทางอินเตอร์เน็ตและการยกระดับประสิทธิภาพการผลิตและการประกอบธุรกิจ ซึ่งสร้างโอกาสใหญ่ให้แก่บรรดานักลงทุนที่ประกอบธุรกิจในเวียดนาม  เวียดนามส่งเสริมให้กองทุนต่างๆให้ความช่วยเหลือสถานประกอบกาทำธุรกิจstart up ที่มีความคิดสร้างสรรค์และมีศักยภาพ รัฐบาลเวียดนามให้คำมั่นที่จะช่วยเหลือและอำนวยความสะดวกให้แก่ความคิดริเริ่มในการทำธุรกิจstart up  คุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาในกรอบของกฎหมายเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ทางปัญญาที่สภาแห่งชาติเวียดนามได้อนุมัติ ปฏิบัติคำมั่นเกี่ยวกับการคุ้มครองลิขสิทธิ์ทางปัญญาในกรอบของข้อตกลงเอฟทีเอที่เวียดนามได้ลงนาม”

ท่านนายกรัฐมนตรีเวียดนามยังแสดงความประสงค์ว่า หุ้นส่วนสิงคโปร์จะแลกเปลี่ยนประสบการณ์และผลสำเร็จในการทำธุรกิจstart up ให้แก่เวียดนามและเวียดนามยินดีต้อนรับบรรดานักลงทุนสิงคโปร์ที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม

ในวันเดียวกัน ภายใต้การเป็นสักขีพยานของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม เครือบริษัทการบินเวียดนามหรือเวียดนามแอร์ไลน์และบริษัทSingapore Technologies Aerospace ได้ลงนามบันทึกช่วยจำเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนการซ่อมบำรุงเครื่องบินและสัญญาการให้บริการอุปกรณ์การบินให้แก่ทีมเครื่องบินแอร์บัสเอ321ของเวียดนามแอร์ไลน์

ในกรอบการเยือนสิงคโปร์ นายกรัฐมนตรี เหงวียนซวนฟุกยังเข้าร่วมงานแสดงอาหารและโรงแรมเอเชียปี2018

ส่วนในการพบปะกับบรรดานักวิชาการสิงคโปร์เพื่อรับฟังการแนะนำเกี่ยวกับประสบการณ์ในการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี4.0ในการสร้างรัฐบาลเพื่อการพัฒนาในเชิงสร้างสรรค์ ซึ่งนายกฯได้แสดงความปรารถนาว่าบรรดาผู้เชี่ยวชาญสิงคโปร์จะสนับสนุนเวียดนามในการพัฒนาในด้านนี้ โดยเวียดนามกำหนดเมืองอัจฉริยะนำร่อง 3 เมืองคือฮานอย ดานังและนครโฮจิมินห์เข้าร่วมเครือข่ายเมืองอัฉริยะที่สิงคโปร์เสนอด้วยความปรารถนาว่าจะสร้างผลประโยชน์ที่เป็นรูปธรรมให้แก่ประชาชน  นายกฯได้กล่าวย้ำว่า เวียดนามมีความประสงค์ที่จะได้รับฟังและแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับนักวิชาการสิงคโปร์เกี่ยวกับภารกิจการสร้างสรรค์พัฒนาประเทศและพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการด้านเทคโนโลยีสิงคโปร์เข้าลงทุนในเวียดนามและสนับสนุนสถานประกอบการstart upเวียดนาม.