ประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมินเข้าร่วมการประชุมครบองค์ของรัฐสภาระหว่างประเทศเพื่อความเมตตาและสันติภาพหรือ IPTP ครั้งที่ 11

ประธานสภาแห่งชาติเจิ่นแทงเหมินได้ให้ข้อสังเกตว่า อารยธรรม วิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและความก้าวหน้านับวันพัฒนาใขณะที่ความขัดแย้งและวิกฤตครั้งรุนแรงก็เกิดขึ้นในพื้นที่ต่างๆทั่วโลกหลังสงครามเย็น พร้อมทั้งย้ำว่า สันติภาพไม่ใช่แค่การยุติสงครามเท่านั้น หากรวมไปถึงการให้ความเคารพ ควมรักใคร่และการช่วยเหลือระหว่างประเทศ เป็นความเห็นอกเห็นใจต่อมนุษย์ไม่ว่าจะมีความแตกต่างทั้งผิวสี ศาสนาและเชื้อชาติ "จากการผ่านสงครามช่วงชิงเอกราชประชาชาติ รวมประเทศเป็นเอกภาพ เวียดนามเข้าใจคุณค่าของสันติภาพ เสถียรภาพและมิตรภาพเพื่อให้ประชาชนทุกคนได้รับประโยชน์จากเอกราช เสรีภาพ มีความอยู่ดีกินดีและมีความสุข เราตระหนักได้ดีว่า สันติภาพและการพัฒนาประเทศเวียดนามมีความเชื่อมโยงกับภูมิภาคและโลก ซึ่งเวียดนามสนับสนุนความคิดริเริ่มที่มีส่วนร่วมต่อสันติภาพและเสถียรภาพในภูมิภาคและโลก การส่งเสริมการแก้ไขการปะทะและการพิพาทระหว่างประเทศด้วยสันติวิธี"

ประธานสภาแ่หงชาติ เจิ่นแทงเหมิน เผยว่า เพื่อสร้างสรรค์สันติภาพ ต้องลดช่องว่างการพัฒนาระหว่างประเทศต่างๆ ส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ครอบคลุม แก้ไขปัญหาความยากจน ความเสมอภาค ให้ความเคารพกฎหมายสากล ส่งเสริมลัทธิพหุภาคี โดยเฉพาะบทบาทเป็นศูนย์กลางของสหประชาชาติ 

ก่อนหน้านั้น ประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมินและหัวหน้าคณะผู้แทนประเทศต่างๆได้เข้าเยี่ยมคารวะสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา นาง ควน สุดารี ประธานรัฐสภากัมพูชาและประธานIPTP ครั้งที่ 11 และนาย ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา

บ่ายวันเดียวกันประธานสภาแห่งชาติ เจิ่นแทงเหมินพร้อมคณะผู้แทนเวียดนามได้เดินทางกลับถึงกรุงฮานอย เสร็จสิ้นภารกิจการเยือนกัมพูชาและเข้าร่วมการประชุมระหว่างประเทศต่างๆตั้งแต่วันที่ 21 - 24 พฤศจิกายนด้วยผลสำเร็จอย่างงดงาม.