การเจรจาระหว่างสองฝ่าย

ในการเจรจาในวันที่ 30 กันยายน ณ กรุงฮานอย ทั้งสองฝ่ายได้ย้ำถึงความมุ่งมั่นสร้างสรรค์วิสัยทัศน์ใหม่ให้แก่ความสัมพันธ์เวียดนาม-อังกฤษใน 10 ปีข้างหน้า พยายามผลักดันความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่

สำหรับด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะส่งเสริม อำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการและนักลงทุนของสองประเทศขยายความร่วมมือ โดยเฉพาะในด้านเทคโนโลยีขั้นสูง เทคโนโลยีสารสนเทศ ปิโตรเลียม การเงิน ธนาคาร การประกันภัยและการพัฒนาพลังงานหมุนเวียน เป็นต้น อีกทั้งหารือเกี่ยวกับแนวทางผลักดันความร่วมมือในด้านสำคัญๆ เช่นความมั่นคง กลาโหม การพัฒนาการศึกษาและฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนระดับประชาชน

นาย ฝ่ามบิ่งมิงห์และนาย Dominic Raab ได้เห็นพ้องผลักดันความสัมพันธ์ ร่วมมือระหว่างอังกฤษกับอาเซียน ประสานงานเพื่อเตรียมจัดการประชุมครั้งที่ 26 ทุกฝ่ายเข้าร่วมกรอบอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศหรือ COP 26 ณ อังกฤษในปี 2021 สนับสนุนลัทธิพหุภาคี ความเป็นระเบียบเรียบร้อยในภูมิภาคและโลกบนพื้นฐานกฎหมาย ประสานงานในการรับมือความท้าทายต่างๆ เช่นความมั่นคงทางทะเล การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศและการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ย้ำถึงการรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความมั่นคง ความปลอดภัยในการเดินเรือและการบิน แก้ไขการพิพาทผ่านมาตรการที่สันติ ไม่ใช้หรือข่มขู่ที่จะใช้ความรุนแรง ให้ความเคารพกฎหมายสากล สนับสนุนแถลงการณ์ของประธานการประชุมผู้นำอาเซียน 36 และแถลงการณ์ร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน 53 และยืนยันว่า UNCLOS คือกรอบทางนิตินัยเพื่อปรับปรุงทุกกิจกรรมทางทะเลและมหาสมุทร

โอกาสนี้ทั้งสองฝ่ายได้ออก “แถลงการณ์ร่วมเกี่ยวกับความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อังกฤษ การกำหนดแนวทางพัฒนาในอีก 10 ปีข้างหน้า”

บ่ายวันที่ 30 กันยายน ในฐานะประธานอาเซียน 2020 รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีต่างประเทศ ฝ่ามบิ่งมิงห์ ได้เป็นประธานการประชุม Troika กับรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียนและอังกฤษผ่านวิดีโอคอนเฟอนเรนซ์ โดยรัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ Dominic Raabได้ยืนยันการสนับสนุนบทบาทเป็นศูนย์กลางของอาเซียนและแจ้งเกี่ยวกับวงเงินช่วยเหลือมูลค่า 50ล้านปอนด์เพื่อสนับสนุนอาเซียนรับมือการระบาดของโควิด-19.