เวียดนามและลาวเสร็จสิ้นงานด้านการปักปันหลักพรมแดนทางบก

(VOVworld) –  การเสร็จสิ้นงานด้านการปักหลักพรมแดนทางบกเป็นสัญลักษณ์ของสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานด้วยความสมานฉันท์และชื่อสัตย์ของเวียดนามและ ลาว  
เวียดนามและลาวเสร็จสิ้นงานด้านการปักปันหลักพรมแดนทางบก - ảnh 1
ท่านเหงวียนเติ๋นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและท่านทองสิง ธรรมวงค์ นายกรัฐมนตรีลาที่หลักพรมแดนใหญ่เลขที่๔๖๐(Photo:VNA )

(VOVworld) –  เช้าวันที่๙เดือนนี้ ที่จุดผ่านแดนแทงถุย จังหวัดเหงะอานของเวียดนามและน้ำออนแขวงบอลิคำไซ ประเทศลาว ท่านเหงวียนเติ๋นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามและท่านทองสิง ธรรมวงค์ นายกรัฐมนตรีลาวได้ให้เกียรติมาร่วมพิธีฉลองการเสร็จสิ้นงานด้านการปักหลักพรมแดนทางบกเวียดนาม ลาวและเปิดหลักพรมแดนใหญ่เลขที่๔๖๐            ในการกล่าวปราศรัยในพิธี ท่านเหงวียนเติ๋นหยุง นายกรัฐมนตรีเวียดนามได้ย้ำว่า การปรับปรุงเพิ่มความถี่หลักพรมแดนเวียดนามลาว ได้รับความสนใจและชี้นำจากพรรค รัฐและรัฐบาลทั้งสองประเทศอยู่เสมอ การเสร็จสิ้นงานด้านการปักหลักพรมแดนทางบกเป็นสัญลักษณ์ของสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานด้วยความสมานฉันท์และชื่อสัตย์ของเวียดนามและ ลาว  อำนวยความสะดวกให้แก่การบริหารและพิทักษ์รักษาแนวชายแดน ผลักดันความร่วมมือทางการค้า การลงทุนและการแลกเปลี่ยนด้านเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและการท่องเที่ยวของประชาชนตามเขตชายแดน มีส่วนร่วมเสริมสร้างความมั่นคงทางการเมือง ความเป็นระเบียบเรียบร้อยทางสังคม ผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างทั้งสองประเทศ พิธีเปิดหลักพรมแดนเลขที่460 ถือเป็นการเสร็จสิ้นโครงการเพิ่มความถี่และปรับปรุงหลักพรมแดนทางบก เป็นชัยชนะของทั้งสองประเทศในการสร้างสรรค์เขตแดนแห่งสันติภาพ มีเสถียรภาพและร่วมมือเพื่อการพัฒนา ซึ่งจะช่วยสร้างเงื่อนไขที่สะดวกโดยตรงให้แก่ท้องถิ่นสองแห่งคือจ.เหงะอานและแขวงบอลิคำไซ รวมทั้งเปิดโอกาสแห่งความร่วมมือใหม่เพื่อผลักดันเศรษฐกิจการค้าการลงทุนระหว่างนักธุรกิจของสองประเทศรวมทั้งนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในเขตนี้ 
นายกรัฐมนตรีลาว นายทองสิง ธรรมวงค์ได้ยืนยันถึงความตั้งใจของรัฐบาลและประชาชนลาวที่จะประสานกับรัฐบาลและประชาชนเวียดนามในการสร้างสรรค์แนวชายแดนเวียดนามลาวเป็นแนวชายแดนแห่งมิตรภาพฉันท์พี่น้อง มีสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและร่วมกันพัฒนาตลอดกาลโดยเรียกร้องให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทางการปกครองท้องถิ่น กองกำลังติดอาวุธและประชาชนของทั้งสองประเทศมีส่วนร่วมพิทักษ์รักษาหลักพรมแดน ให้ความเคารพต่ออธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนของกันและกันและช่วยเหลือกันในทุกด้านเพื่อความเจริญรุ่งเรืองของทั้งสองประเทศ  นายกฯลาวทองสิงธรรมวงศ์ได้ยืนยันว่า ในโอกาสที่สำคัญนี้ ผมขอเรียกร้องให้กระทรวงหน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆรวมทั้งกองกำลังติดอาวุธและพี่น้องประชาชนทั้งสองประเทศจงร่วมแรงร่วมใจในการรักษาเขตแดนและหลักพรมแดนให้มั่นคง ให้ความเคารพอธิปไตยและช่วยเหลือกันในทุกด้านเพื่อความเจริญไพบูรณ์ของทั้งสองประเทศ
นายกรัฐมนตรีทั้งสองท่านยังเสนอด้วยว่า ในเวลาที่จะถึงนี้ กระทรวง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของทั้งสองประเทศจะประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นต่อไปเพื่อทำงานในส่วนที่เหลือของโครงการปรับปรุงเพิ่มความถี่หลักพรมแดนเวียดนามลาวให้แล้วเสร็จในปี๒๐๑๔ตามข้อตกลงของผู้นำระดับสูงของทั้งสองประเทศโอกาสนี้ ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเวียดนาม ท่านฝ่ามบิ่งมินห์ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศเวียดนาม หัวหน้าคณะกรรมการชี้นำของรัฐเกี่ยวกับการปักปันหลักพรมแดนทางบกเผยว่า หลัง๕ปีของการปฏิบัติ จนถึงปัจจุบัน เวียดนามและลาวได้ปักปันเขตแดนใน๗๙๓จุด รวมหลักพรมแดน๘๓๕หลักและปักหลักเพิ่มอีกกว่า๒๐หลัก เสร็จสิ้นงานด้านการปักหลักพรมแดนทางบก รัฐมนตรีฝ่ามบิ่งมินห์กล่าวว่า“กิจกรรมนี้มีความหมายสำคัญทางการเมืองที่ยิ่งใหญ่ แสดงให้เห็นถึงความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ ความไว้วางใจและความเข้าใจซึ่งกันและกันระหว่างสองพรรค สองรัฐและประชาชนของทั้งสองประเทศ เป็นสัญญลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาของสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านาน ความสมานฉันท์และความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศบนหลักการให้ความเคารพเอกราช อธิปไตย บูรณภาพแห่งดินแดนและผลประโยชน์อันชอบธรรมระหว่างกัน มีความเสมอภาค ประสานผลประโยชน์ซึ่งกันและกันเพื่อแนวชายแดนที่ มีสันติภาพ เสถียรภาพ ร่วมมือและร่วมกันพัฒนาและเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนทั้งสองประเทศ  ผมมีความเชื่อมั่นว่า จากความพยายามของสองพรรค สองรัฐและประชาชนทั้งสองประเทศ โครงการปรับปรุงเพิ่มความถี่หลักพรมแดนเวียดนามลาวที่กำหนดจะแล้วเสร็จในปี๒๐๑๔จะมีส่วนร่วมที่สำคัญในการสร้างสรรค์แนวชายแดนด้วยสันติภาพ เสถียรภาพ มิตรภาพ และความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาวและตอบสนองความปรารถนาของประชาชนทั้งสองประเทศ”            แนวชายแดนเวียดนามลาวมีความยาว๒,๐๖๗กิโลเกมตรผ่านจังหวัดและนคร๑๐แห่งอยู่ทางทิศตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนามและแขวง๑๐แห่งของลาว ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในเอกสารกฎหมายสำคัญเกี่ยวกับพรมแดนหลายฉบับ โดยเฉพาะ สนธิสัญญาว่าด้วยการกำหนดพรมแดนแห่งชาติ เมื่อวันที่๑๘กรกฎาคมปี๑๙๗๗ สร้างพื้นฐานทางการเมืองและนิตินัยให้แก่การแก้ไขปัญหาพรมแดนระหว่างสองประเทศ หลังจากนั้น แนวชายแดนเวียดนามลาวได้รับการกำหนดโดยปักปันหลักพรมแดน และได้ระบุในสนธิสัญญาเกี่ยวกับการกำหนด และพิธีสารเกี่ยวกับการปักปันหลักพรมแดนและเอกสารกฎหมายที่เกี่ยวข้องที่ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามกัน และได้ระบุชัดในแผนที่พรมแดนแห่งชาติเวียดนามลาวตามอัตรา๑ส่วน๕๐,๐๐๐ที่พิมพ์จำหน่าย เมื่อปี๒๐๐๓  เพื่อสร้างสรรค์ระบบหลักพรมแดนแห่งชาติที่ทันสมัยและมีแบบแผน สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริงของแต่ละประเทศ ตอบสนองความต้องการในการบริหารและพิทักษ์รักษาพรมแดนในสถานการณ์ใหม่ ตั้งแต่ปี๒๐๐๘เป็นต้นมา  ทั้งสองประเทศได้ประสานกันในการปฏิบัติโครงการปรับปรุงเพิ่มความถี่หลักพรมแดนเวียดนามลาว ซึ่งไฮไลท์ของโครงการนี้ คือ เพิ่มความถี่ของการปักหลักพรมแดน ปักหลักใหม่เพื่อทำความถูกต้องของแนวพรมแดนโดยไม่ต้องปักปันเขตแดนใหม่ พร้อมทั้งปรับปรุงเอกสารกฎหมายเกี่ยวกับแนวพรมแดนเวียดนามลาวให้มีความสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น
ในวันเดียวกันนายกฯทั้งสองประเทศได้เดินทางไปเยือนโรงงานบางแห่งในพื้นที่จ.เหงะอานและเข้าร่วมพิธีเปิดโรงงานผลิตนมสดทีเอช ที่อ.เหงียด่าน ซึ่งเป็นผลเบื้องต้นของโครงการเลี้ยงโคนมแบบอุตสาหกรรมและผลิตนมที่ทันสมัยรวมเงินทุน1.2พันล้านเหรียญสหรัฐของกลุ่มบริษัททีเอช ซึ่งหลังจากเปิดดำเนินการจะสามารถสร้างงานให้แก่แรงงานจำนวนมากพร้อมทั้งสนองผลิตภัณฑ์นมที่มีคุณภาพให้แก่ตลาด มีส่วนร่วมยกระดับบทบาทสถานะของอุตสาหกรรมผลิตนมเวียดนาม ต่อจากนั้น ผู้นำทั้งสองประเทศได้ไปเยือนโครงการปลูกและพัฒนายาวพาราในต.แทงดึ๊ก อ.เเทงเจือง จ.เหงะอาน./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด