เวียดนามและอินเดียตั้งใจส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้น

(VOVworld) – “จากผลประโยชน์และศักยภาพความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี๒๐๐๗ วัตถุประสงค์การเยือนอินเดียครั้งนี้ของผมคือเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเจรจาระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีมานโมฮาน ซิงห์ดำเนินไปในบรรยากาศที่เปิดเผย ไว้วางใจและจริงจัง”

(VOVworld) – เลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามท่านเหงวียนฟู๊จ่องเจรจากับนายกรัฐมนตรีอินเดียมานโมฮัน ซิงห์

เวียดนามและอินเดียตั้งใจส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้น - ảnh 1
ในกรอบการเยือนอินเดีย วันที่๒๐เดือนนี้ ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามได้มีการเจรจากับท่านมานโมฮัน ซิงห์นายกรัฐมนตรีอินเดียโดยยืนยันว่า เวียดนามให้ความสำคัญต่อการธำรงและพัฒนาสัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานและความร่วมมือยุทธศาสตร์กับอินเดีย    ผู้นำทั้งสองท่านได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นและเห็นพ้องกันในมาตรการขั้นพื้นฐานและเป็นรูปธรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือใน๕ด้านสำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ซึ่งตามนั้น ทั้งสองฝ่ายจะแลกเปลี่ยนคณะผู้แทนทุกระดับ ธำรงและส่งเสริมประสิทธิภาพของกลไกความร่วมมือทวิภาคีที่มีอยู่ในด้านการทูต กลาโหม และความมั่นคงซึ่งถือเป็นเสาหลักที่สำคัญของความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ผลักดันเพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการค้ามีพัฒนาการใหม่สมกับศักยภาพและความ สัมพันธ์ทางการเมืองอันดีงาม ธำรงและขยายความร่วมมือในการสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลี่ยมในเขตอธิปไตยของเวียดนามในทะเลตะวันออก
ในการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน ทั้งสองฝ่ายเห็นว่า ประเทศต่างๆและประชาคมระหว่างประเทศควรพยายามเพื่อค้ำประกันสันติภาพ อธิปไตย และความมั่นคงให้แก่ทุกประเทศ รักษาบรรยากาศที่สันติภาพ มีเสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาของเอเชีย แปซิฟิก ปัญหาการพิพาทในทะเลตะวันออกต้องได้รับการแก้ไขผ่านมาตรการสันติภาพ ตามหลักการของกฎหมายสากลรวมทั้งอนุสัญญาของสหประชาชาติเกี่ยวกับกฎหมายทางทะเลปี๑๙๘๒ รักษาความมั่นคง ความปลอดภัยและเสรีภาพในการเดินเรือทะเล ทั้งสองฝ่ายให้คำมั่นว่า จะประสานงานกันอย่างแน่นแฟ้นในด้านจุดยืนและการปฏิบัติในฟอรั่มภูมิภาคและโลก  นายกรัฐมนตรีอินเดียมานโมฮัน ซิงห์ยืนยันว่า อินเดียให้การสนับสนุนเวียดนามลงสมัครเข้าเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี๒๐๒๐ถึงปี๒๐๒๑ ส่วนฝ่ายเวียดนามก็ให้การสนับสนุนอินเดียเข้าร่วมกลไกต่างๆที่อาเซียนเป็นศูนย์กลางเพื่อมีส่วนร่วมรักษาสันติภาพ เสถียรภาพ ความร่วมมือและการพัฒนาในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเอเชียใต้
เวียดนามและอินเดียตั้งใจส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้น - ảnh 2
ท่านเหงวียนฟู้จ่องเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและนายกรัฐมนตรีอินเดียมานโมฮัน ซิงห์เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามข้อตกลงขนส่งการบิน(Photo:VOV )
หลังจากที่การเจรจาเสร็จสิ้นลง ผู้นำทั้งสองท่านได้จัดการแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเพื่อประกาศผลการเจรจา เลขาธิการใหญ่เหงียนฟู้จ่องเผยว่า“จากผลประโยชน์และศักยภาพความร่วมมืออันยิ่งใหญ่ ทั้งสองประเทศได้สถาปนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เมื่อปี๒๐๐๗ วัตถุประสงค์การเยือนอินเดียครั้งนี้ของผมคือเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น การเจรจาระหว่างผมกับนายกรัฐมนตรีมานโมฮาน ซิงห์ดำเนินไปในบรรยากาศที่เปิดเผย ไว้วางใจและจริงจัง”
ส่วนนายกรัฐมนตรีมานโมฮาน ซิงห์กล่าวว่า “พวกเรามีความประสงค์ที่จะผลักดันความสัมพันธ์ในหลายด้านทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคี  ปัจจุบัน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศที่มีเศรษฐกิจพัฒนาที่สุดในเอเชียแปซิฟิกและอินเดียขอแสดงความยินดีต่อการพัฒนานี้ของเวียดนาม และถือเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ที่น่าไว้วางใจและสำคัญ ความสัมพันธ์กับเวียดนามเป็นเสาหลักที่สำคัญในนโยบายมุ่งสู่ตะวันออกของพวกเรา”
ผู้นำทั้งสองท่านได้เป็นสักขีพยานในพิธีลงนามเอกสารร่วมมือ๘ฉบับในด้านการบิน แลกเปลี่ยนข้อมูลลับ ความร่วมมือทางการเงิน การสำรวจและขุดเจาะปิโตรเลี่ยมในเวียดนาม อินเดียและประเทศที่๓ และการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังความร้อนลองฟู้หมายเลข๒

* แถลงการณ์ร่วมเวียดนาม–อินเดีย

ในโอกาสการเยือนอินเดียของเลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ่อง เวียดนามและอินเดียได้ออกแถลงการณ์ร่วมโดยระบุว่า เวียดนามและอินเดียจะผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการเมืองระดับสูงผ่านการผลักดันการเยือนและพบปะทวิภาคีนอกรอบกิจกรรมภูมิภาคและพหุภาคี แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับวงเงินสินเชื่อ๑๐๐ล้านเหรียญสหรัฐในด้านกลาโหม ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันว่า จะอำนวยความสะดวกเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าต่างตอบแทนให้อยู่ที่๑หมื่น๕พันล้านเหรียญสหรัฐภายในปี๒๐๒๐ ผลักดันการลงทุน ปฏิบัติข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน อินเดียในด้านการบริการและการลงทุน และข้อตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจในทุกด้านในภูมิภาคหรือRCEP เพื่อช่วยเหลืออินเดียผสมผสานเข้ากับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ขยายการพบปะมิตรภาพประชาชนและความร่วมมือด้านวัฒนธรรม โบราณคดี สาธารณสุขชุมชน และขยายความร่วมมือในฟอรั่มระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยเฉพาะ ในอาเซียน การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออกหรือ EAS  ฟอรั่มภูมิภาคอาเซียนหรือARF  ขยายความร่วมมือทวิภาคีด้านเทคโนโลยีอวกาศ การบริหารและใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ยับยั้งและรับมือกับภัยธรรมชาติ พยากรณ์อากาศ วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีทางทะเล และแสวงหาความร่วมมือด้านใหม่ๆ

*เลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ่องพบปะกับผู้นำท่านอื่นๆของอินเดีย

ในวันเดียวกัน เลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ่องได้พบปะกับประธานาธิบดีประณับ มุกเคอร์จี ในการนี้ ท่านประณับ มุกเคอร์จี ได้ยืนยันว่า อินเดียให้ความสำคัญต่อการธำรงและผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในหลายด้านกับเวียดนาม ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า ในเวลาที่จะถึง ทั้งสองประเทศจะพยายามผลักดันความร่วมมือใน ด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนเพื่อส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาอย่างลึกซึ้งและมีประสิทธิภาพอย่างจริงจัง

บ่ายวันเดียวกัน เลขาธิการใหญ่เหงวียนฟู้จ่องได้พบปะกับรองนายกรัฐมนตรีและประธานวุฒิสภาฮามิด อานซารีโดยยืนยันว่า เวียดนามพร้อมที่จะอำนวยความสะดวกให้นักธุรกิจอินเดียลงทุนในเวียดนาม  เกี่ยวกับความร่วมมือด้านนิติบัญญัติ ผู้นำทั้งสองท่านได้เห็นพ้องกันว่า จะขยายกิจกรรมมิตรภาพ ให้ความสำคัญต่อการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และข้อมูลข่าวสารระหว่างรัฐสภาของทั้งสองประเทศ

เวียดนามและอินเดียตั้งใจส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ให้พัฒนาลึกซึ้งยิ่งขึ้น - ảnh 3
พบปะหารือกับประธานสภาล่างอินเดีย
ในการพบปะหารือกับประธานสภาล่างอินเดีย ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคได้เผยว่า รัฐสภาเวียดนามกำลังอยู่ในระหว่างการปฏิบัติกระบวนการเปลี่ยนแปลงใหม่ดังนั้นให้ความสำคัญต่อการกระชับความสัมพันธ์และเรียนรู้ประสบการณ์ของรัฐสภาประเทศต่างๆรวมทั้งอินเดีย ซึ่งผู้นำทั้งสองประเทศต่างเห็นพ้องกันว่าจะกระชับความร่วมมือในกรอบของรัฐสภาทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี ตามกำหนดการ ภายหลังการพบปะกับบรรดาผู้นำพรรคการเมืองต่างๆและผู้บริหารสมาพันธ์อุตสาหกครรมการค้าของอินเดีย ท่านเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามเดินทางไปเยือนนครมุมไบ./.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด