ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกมีการพูดคุยผ่านทางโทรศัพท์กับประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด(Photo: TTXVN)

 ในการนี้ ผู้นำทั้งสองท่านได้ย้ำว่า ต้องผลักดันการประสานงาน การแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19และการเข้าถึงวัคซีนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมทั้งประเมินว่า ความร่วมมือในหลายด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ-การค้าบรรลุผลงานที่น่ายินดี เห็นพ้องที่จะผลักดันการพบปะสังสรรค์ในทุกระดับ ปฏิบัติกลไกความร่วมมือทวิภาคีอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้ง การปฏิบัติโครงการปฏิบัติงานในช่วงปี 2019 -2023 เพื่อพัฒนาความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์และวิสัยทัศน์ความร่วมมือด้านกลาโหมในช่วงปี 2017 -2022

เพื่อผลักดันการฟื้นฟูและการพัฒนาเศรษฐกิจหลังวิกฤตโควิด -19 ผู้นำทั้งสองท่านได้ให้คำมั่นที่จะกำชับให้สำนักงานที่เกี่ยวข้องประสานงานเพื่อผลักดันการแลกเปลี่ยนทางการค้า พยายามเพิ่มมุลค่าการค้าต่างตอบแทนขึ้นเป็น 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้การสนับสนุนกิจกรรมการแลกเปลี่ยนทางการค้า การลงทุนและการเชื่อมโยง โดยเฉพาะการส่งออกและนำเข้าผลิตภัณฑ์การเกษตรและข้าว ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องที่จะผลักดันการเจรจาเกี่ยวกับการกำหนดเขตเศรษฐกิจจำเพาะในส่วนที่ทับซ้อนกัน แก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นบนเจตนารมณ์แห่งมิตรภาพและหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ผู้นำทั้งสองท่านยังหารือเกี่ยวกับปัญหาระดับภูมิภาคและโลกที่ให้ความสนใจร่วมกัน รวมทั้งปัญหาทะเลตะวันออกและสถานการณ์ในเมียนมาร์ เห็นพ้องที่จะประสานงานอย่างใกล้ชิดในฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก ประธานประเทศ เหงวียนซวนฟุกได้แสดงความยินดีต่อการที่อินโดนีเซียขึ้นดำรงตำแหน่งประธานกลุ่มจี 20 ในปี 2022 และแสดงความเชื่อมั่นว่า  อินโดนีเซียจะมีส่วนช่วยส่งเสริมบทบาทการเป็นศูนย์กลางของอาเซียน.