การประชุมของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ (Photo: THX/TTXVN)

ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม ประเทศต่างๆได้แสดงความวิตกกังวลต่อผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 ต่อชาวปาเลสไตน์ พร้อมทั้ง ย้ำถึงปัญหาที่ได้รับความสนใจเป็นอันดับต้นๆของประชาคมโลกและฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องในปัจจุบันคือร่วมกันรับมือการแพร่ระบาด หลีกเลี่ยงปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียวและการใช้ความรุนแรง ประเทศต่างๆได้ยืนยันว่า ต้องฟื้นฟูการเจรจาระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อแสวงหามาตรการในระยะยาวและรอบด้านบนพื้นฐานของมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติ สอดคล้องกับมติที่เกี่ยวข้องของสหประชาชาติ พร้อมทั้ง ชื่นชมความพยายามในการประสานงานของสหประชาชาติในการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมให้แก่ประชาชนปาเลสไตน์ เช่น ลดความตึงเครียดและผลักดันการสนทนาระหว่างฝ่ายต่างๆที่เกี่ยวข้อง

เอกอัครราชทูต ดั๋งดิ่งกวี๊  หัวหน้าคณะผู้แทนเวียดนามประจำสหประชาชาติได้แสดงความวิตกกังวลต่อการปะทะระหว่างอิสราเอลกับปาเลสไตน์ พร้อมทั้ง แสดงความยินดีต่อการประสานงานระหว่างทั้งสองฝ่ายเพื่อรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อย่างมีประสิทธิภาพ เรียกร้องให้ประชาคมโลกส่งเสริมการช่วยเหลือประชาชนปาเลสไตน์และความพยายามของสหประชาชาติ อีกทั้ง แสดงความวิตกกังวลต่อแผนการปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียว อีกทั้ง ยืนยันถึงจุดยืนที่เสมอต้นเสมอปลายของเวียดนามคือให้การสนับสนุนความพยายามเพื่อบรรลุมาตรการแก้ไขปัญหาของปาเลสไตน์ในทุกด้านในระยะยาวบนหลักการที่ประชาคมโลกรับรองและสอดคล้องกับมติต่างๆของสหประชาชาติ

          ในการกล่าวปราศรัยต่อที่ประชุม นาย Nickolay Mladenov  ทูตพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับภูมิภาคตะวันออกกลางได้เตือนว่า อิสราเอลต้องยกเลิกแผนการผนวกส่วนหนึ่งของเขตเวสแบงค์เข้าเป็นดินแดนของตน ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมาย ส่งผลกระทบต่อการเจรจาและทำลายมาตรการ 2 รัฐอยู่ร่วมกันอย่างสันติที่ประชาคมโลกให้การสนับสนุน พร้อมทั้ง เร่งรัดให้ผู้นำทั้งสองประเทศใช้โอกาสเพื่อมุ่งสู่การรักษาสันติภาพและไม่มีปฏิบัติการเพียงฝ่ายเดียว

          ในวันเดียวกัน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหภาพยุโรปหรืออียูได้ประท้วงอิสราเอลที่ผนวกส่วนหนึ่งของเขตเวสแบงค์เข้าเป็นดินแดนของตน ซึ่งเป็นการกระทำที่ละเมิดกฎหมายสากลและอียูจะเฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกช้ชิดและมีปฏิบัติการที่เหมาะสม.