ในประเด็นเกี่ยวกับราคาน้ำมันและการผลิตจัดสรรค์น้ำมัน รัฐมนตรีเหงวียนห่งเยียนย้ำว่า ความผันผวนของตลาดน้ำมันโลกเมื่อเร็วๆนี้สะท้อนให้เห็นว่าถ้าไม่มีแนวทางรับมือเชิงยุทธศาสตร์นี่จะเป็นปัญหาที่ประสบอุปสรรคมากมายในอนาคต ปัจจุบันเวียดนามมีโรงกลั่นน้ำมันใหญ่2แห่งคือโรงกลั่นน้ำมันยุงก๊วดและโรงกลั่นปิโตรเคมีงีเซิน ซึ่งสามารถตอบสนองความต้องการร้อยละ70ของประเทศ ส่วนรองนายกรัฐมนตรีเลวันแถ่งได้กล่าวย้ำว่า แนวทางการบริหารชี้นำของรัฐบาลในเรื่องนี้คือค้ำประกันแหล่งจัดสรรน้ำมันเพื่อการผลิตและการดำรงชีวิต ราคาต้องดำเนินไปตามกลไกตลาดและอยู่ในกรอบการควบคุมของรัฐ   แนวทางการชี้นำคือต้องเป็นฝ่ายรุกในการเตรียมแหล่งสำรองน้ำมันที่ผลิตในประเทศได้อย่างแน่นอน รัฐบาลยังได้หารือกับบริษัทปิโตรเลี่ยมเพื่อสร้างโรงกลั่นน้ำมันในเมืองหวุงเต่าอย่างเร่งด่วนซึ่งมีปริมาณสำรองตามแผน10ล้านตัน โดยภายใน 10 เดือน ต้องเสร็จสิ้นขั้นตอนการลงทุน หากมีอีก 10 ล้านตันบวกกับแหล่งการผลิตในปัจจุบัน เวียดนามมี 23 ล้านตัน นี่เป็นหนึ่งในแนวทางระยะยาวที่ต้องดำเนินการต่อไป ประการที่สองคือการเพิ่มการผลิตน้ำมันดิบ .

ในการตอบคำถามเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นาย เจิ่นห่งฮา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้เน้นย้ำถึงบทบาทการบริหารชี้นำของรัฐในการป้องกันการขึ้นราคาที่ดิน และไม่ปล่อยให้เกิดปัญหาที่ดินที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามแผนถูกระบุในการประมูล ในด้านนโยบาย ต้องควบคุมโครงการลงทุนที่มีความเป็นไปได้จริง เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม ในอนาคตข้างหน้า ขยะมูลฝอยจะได้รับการบำบัดในทิศทางของการรีไซเคิลอย่างมีประสิทธิภาพ ในการกล่าวสรุปการตั้งกระทู้ถามประธานสภาแห่งชาติเวืองดิ่งเหวะยืนยันว่า  “การตั้งกระทู้ถามนัดแรกของคณะกรรมาธิการสามัญสภาแห่งชาติได้ดำเนินการอย่างจริงจังและดึงดูดความสนใจของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ซึ่งสะท้อนให้เห็นการเลือกประเด็นที่ถูกต้องและมีลักษณะในเชิงยุทธศาสตร์ระยะยาว บรรดารัฐมนตรีที่ตอบกระทู้ถามสามารถทำหน้าที่ได้อย่างมีประชาธิปไตยและมีความรับผิดชอบตอบสนองความต้องการของการตั้งกระทู้ถามซึ่งสะท้อนให้เป็นความเข้าใจและเกาะติดประเด็นที่อยู่ในความรับผิดชอบของตนเพื่อตอบปัญหาต่างๆตามข้อเสนอของผู้แทนสภาแห่งชาติ.”./.