การอนุรักษ์อาชีพเป่าแก้วในตำบลท้งเยิ๊ต กรุงฮานอย

(VOVWORLD) - ตำบลท้งเยิ๊ต ในอำเภอเถื่องติ๊น กรุงฮานอย ตั้งอยู่ริมทำนบแม่น้ำแดง มีชื่อเสียงด้านอาชีพเป่าแก้วแบบดั้งเดิม จากอาชีพพื้นเมืองที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้บวกกับทักษะฝีมือที่ยอดเยี่ยม ชาวท้องถิ่นที่นี่ได้พัฒนาและสร้างผลิตภัณฑ์แก้วใหม่ๆ ที่มีเอกลักษณ์และซับซ้อนเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค
การอนุรักษ์อาชีพเป่าแก้วในตำบลท้งเยิ๊ต กรุงฮานอย - ảnh 1ภายใต้แสงแดดเกือบ 40 องศาเซลเซียส คนงานในโรงงานเล็กๆ ในหมู่บ้านยาฟลอง ตำบลท้งเยิ๊ต นาย ดั่งวันเถาะ กำลังตั้งใจทุ่มเททำงาน (vovgiaothong.vn)

ภายใต้แสงแดดเกือบ 40 องศาเซลเซียส คนงานในโรงงานเล็กๆ ในหมู่บ้านยาฟลอง ตำบลท้งเยิ๊ต นาย ดั่งวันเถาะ กำลังตั้งใจทุ่มเททำงานโดยใช้เครื่องพ่นไฟเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์แก้วแบบดั้งเดิม นาย เถาะ ได้สานต่ออาชีพเป่าแก้วของคุณพ่อตั้งแต่เป็นเด็ก โดยปัจจุบัน เขาได้ประกอบอาชีพนี้มาเป็นเวลาเกือบ 40 ปีแล้ว

“ผมยังจำได้ว่า เมื่ออายุ 6-7 ขวบได้เห็นคุณพ่อประกอบอาชีพเป่าแก้ว ตอนอายุ 13 ขวบ ผมเริ่มประกอบอาชีพนี้ เมื่อก่อน อาชีพเป่าแก้วใช้เทคนิคดั้งเดิมคือใช้น้ำมันและไอน้ำเพื่อทำเครื่องแก้ว ส่วนปัจจุบันใช้แก๊สและออกซิเจน เมื่อก่อน เราทำเครื่องแก้วเพื่อใช้บรรจุยาเป็นหลัก  แต่ตอนนี้ เราได้พัฒนาทักษะฝีมือเพื่อให้ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลาย โดยแต่ละครอบครัวจะมีผลิตภัณฑ์อย่างหน่อยหนึ่งอย่างที่เป็นจุดเด่นของตน”

เพื่อสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและมีคุณภาพ ช่างเป่าแก้วต้องใช้ความละเอียดรอบคอบตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมวัตถุดิบ หลอดแก้วต้องปราศจากสิ่งสกปรกและจำแนกตามสีต่างๆ เช่น สีเหลืองและสีขาว กระบวนการผลิตอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะของผลิตภัณฑ์ เช่น การเป่า การกด การดึงและการกลิ้ง ขั้นตอนการผลิตจะเริ่มต้นด้วยการหลอมแก้ว จากนั้นช่างเป่าแก้วจะทำการหมุนเนื้อแก้วที่กำลังหลอมและเป่าให้ได้รูปทรงตามความต้องการ  เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่น่าพอใจและสวยงาม ช่างเป่าแก้วต้องทำงานท่ามกลางเตาหลอมที่อุณหภูมิสูงถึง 1,000 องศาเซลเซียสไม่ว่าจะเป็นในฤดูหนาวหรือฤดูร้อน นาย ดั่งวันเถาะ เผยต่อไปว่า

“อุณหภูมิของเตาหลอมขึ้นอยู่กับผลิตภัณฑ์แต่ละชนิด เช่น หลอดไฟใช้อุณหภูมิประมาณ 600-700 องศาเซลเซียส ส่วนผลิตภัณฑ์อื่นๆ เช่น โคมไฟหรือแจกันดอกไม้ ต้องใช้อุณหภูมิประมาณ 800- 900 องศาเซลเซียส  สำหรับอาชีพนี้ ต้องมีความเข้าใจผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นเพื่อปรับระดับความร้อนให้เหมาะสมกับแต่ละผลิตภัณฑ์”

การอนุรักษ์อาชีพเป่าแก้วในตำบลท้งเยิ๊ต กรุงฮานอย - ảnh 2ช่างเป่าแก้วต้องมีทักษะฝีมือดีแล้ว ต้องมีความอดทนและมีสมาธิสูง (vovgiaothong.vn)

ช่างเป่าแก้วต้องมีทักษะฝีมือดีแล้ว ต้องมีความอดทนและมีสมาธิสูง เนื่องจากนี่เป็นอาชีพที่ค่อนข้างอันตราย เพราะช่างเป่าแก้วต้องทำงานกับเตาหลอม ซึ่งความผิดพลาดเพีบงเล็กน้อยก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ดังนั้น ผู้ที่รักอาชีพนี้อย่างแท้จริงจึงล้วนแต่เป็นผู้ที่มีประสบการณ์มาอย่างยาวนาน นาย ดั่งวันเถาะ และนาง ตะถิหง่า ช่างเป่าแก้วในตำบลท้งเยิ๊ต เผยว่า

สิ่งที่ยากที่สุดคือทุกครั้งที่นั่งทำงานช่วงหน้าร้อนจะลำบากและรู้สึกเหนื่อยมาก แต่ผมก็บอกตัวเองว่าประกอบอาชีพนี้มาเกือบ 40 ปีแล้ว ต้องมุ่งมั่นตั้งใจทำงานและไม่หยุดอยู่แค่นี้”

ต้องอนุรักษ์อาชีพที่บรรพบุรุษได้ทิ้งไว้ ไม่ปล่อยให้สูญหายไป เราต้องปรับปรุงคุณภาพของผลิตภัณฑ์อยู่เสมอเพื่อให้ผลิตภัณฑ์ได้มาตรฐานและมีคุณภาพสูง”

เมื่อก่อน การผลิตจะทำแบบดั้งเดิมทำให้คุณภาพของผลิตภัณฑ์ขึ้นอยู่กับประสบการณ์และทักษะฝีมือของช่าง ปัจจุบัน เพื่อค้ำประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์และตอบสนองความต้องการของตลาด หลายครอบครัวในตำบลท้งเยิ๊ตได้ลงทุนจัดหาเครื่องจักรที่ทันสมัยมาใช้ นาย เลืองวันฉาย เจ้าของโรงงานผลิตเครื่องแก้วในตำบลท้งเยิ๊ต เผยว่า

“เราใช้เครื่องจักรแทนแรงงานตั้งแต่ปี 2018 เครื่องจักรทั้งหมดนำเข้าจากต่างประเทศและผลิตตามคำสั่งซื้อ การใช้เครื่องจักรกำลังการผลิตเพิ่มมากขึ้น ค้ำประกันคุณภาพและราคาขายก็ถูกลง”

การประยุกต์ใช้เครื่องจักรที่ทันสมัยได้ช่วยให้ครัวเรือนมีกำลังการผลิตเพิ่มหลายเท่าโดยไม่ต้องใช้แรงงานมากเกินไป แต่อย่างไรก็ตาม เครื่องจักรสามารถทำได้เฉพาะผลิตภัณฑ์ธรรมดาทั้วไปเท่านั้น ส่วนสำหรับผลิตภัณฑ์ที่มีความซับซ้อนยังคงต้องอาศัยฝีมือของช่างเป่าแก้วที่มากประสบการณ์ นาย เลืองวันฉาย เผยต่อไปว่า

“ฝีมือของช่างเป่าแก้วเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด เพราะเมื่อก่อนตอนยังไม่มีเครื่องจักร เราต้องทำด้วยมือ สำหรับอาชีพแบบดั้งเดิม ฝีมือของช่างศิลป์เป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด”

ผ่านความผันผวนของกาลเวลา อาชีพเป่าแก้วยังคงได้รับการสือทอดจากรุ่นสู่รุ่น นาย เลืองต๊วนเหงีย เกิดและเติบโตในผืนแผ่นดินท้งเยิ๊ต เป็นรุ่นที่ 3 ในครอบครัวที่ประกอบอาชีพเป่าแก้ว และยังคงเรียนรู้อาชีพนี้จากคุณพ่อของเขาทุกวันด้วยความประสงค์ที่จะสานต่อและพัฒนาอาชีพพื้นเมืองของบ้านเกิด

“ตอนผมเริ่มประกอบอาชีพนี้ก็ประสบความยากลำบากมากมาย เนื่องจากมือยังไม่ชำนาญทำให้ผลิตภัณฑ์ออกมาไม่สวย ต้องเรียนรู้อย่างต่อเนื่อง ในอนาคต ผมอยากทำเครื่องแก้วสำหรับการตกแต่ง และผลิตหลอดแก้วสำหรับหน่วยงานสาธารณสุข”

อาชีพเป่าแก้วเป็นอาชีพดั้งเดิมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ช่างเป่าแก้วในตำบลท้งเยิ๊ตถือเป็นศิลปินที่รังสรรค์ผลงานด้วยความขยันหมั่นเพียรและความอดทน เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์เครื่องแก้วที่มีความซับซ้อนและสวยงาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด