(VOVworld) – ตำบลลองฮึงในอำเภอหมีตู๊คือหนึ่งใน 22 ตำบลที่ได้รับเลือกให้ปฏิบัติการสร้างสรรค์ชนบทใหม่เป็นการนำร่องของจังหวัดซอกจัง หลังจากปฏิบัติโครงการนี้มาเป็นเวลา 4 ปี จนถึงขณะนี้ ลองฮึงได้กลายเป็นตำบลที่บรรลุมาตรฐานเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่แห่งแรกของจังหวัด ซึ่งผลสำเร็จของตำบลลองฮึงมาจากการที่ทางการท้องถิ่นได้เป็นฝ่ายรุกและมีวิธีการปฏิบัติที่ดีซึ่งสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์สูงในหมู่ประชาชน

ตำบลลองฮึงในอำเภอหมีตู๊คือหนึงใน 22 ตำบลที่ได้รับเลือกให้ปฏิบัติการสร้างสรรค์ชนบทใหม่เป็นการนำร่องของจังหวัดซอกจัง

ในผลสำเร็จของการเปลี่ยนแปลงและพัฒนาเป็นตำบลที่บรรลุมาตรฐานในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ของตำบลลองฮึงต้องกล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างเศรษฐกิจตามแนวทางผลิตเชิงพาณิชย์ซึ่งเพื่อปฏิบัติเป้าหมายนี้ ตำบลลองฮึงได้เกาะติดมาตรฐานต่างๆในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ เช่น การพัฒนาทุ่งนาขนาดใหญ่และการวางผังการผลิตตามเขต พร้อมทั้งร่วมมือกับสถานประกอบการ เพิ่มมูลค่าการผลิตในพื้นที่ การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพันธุ์พืชและสัตว์อย่างเหมาะสมบนพื้นที่ที่ถูกน้ำเค็มซึมเข้ามาได้ช่วยให้เกษตรกรผลักดันการผลิตและประกอบธุรกิจอย่างเข้มแข็ง มีส่วนร่วมยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ในท้องถิ่นให้ดีขึ้น นาย เหงียนวันเล่ย หนึ่งในผู้สร้างฐานะเก่งที่มีชื่อเสียงจากการปลูกไม้ผลบนพื้นที่ที่เคยปลูกต้นอ้อยที่ให้ผลผลิตต่ำได้เผยว่า จากการปลูกไม้ผล เช่น ส้ม ส้มเขียวหวานและส้มโอทำให้เขามีรายได้กว่า 400 ล้านด่งต่อเฮกต้าร์“เมื่อก่อน ผมปลูกต้นอ้อยมาเป็นเวลา 5-6 ปีแต่มีรายได้ไม่มากนัก หลังจากเห็นว่าพื้นที่ เตินแถ่งเหมาะสมกับการปลูกไม้ผล ผมจึงเปลี่ยนมาปลูกไม้ผลซึ่งให้ผลผลิตสูง สร้างชีวิตที่อิ่มหนำผาสุกให้แก่ครอบครัว อีกทั้งช่วยสร้างงานทำในท้องถิ่น”
จนถึงขณะนี้ ลองฮึงได้ปรับเปลี่ยนพื้นที่กว่า 500 เฮกต้าที่ให้ผลผลิตต่ำมาเป็นการปลูกไม้ผลที่ให้มูลค่าทางเศรษฐกิจสูงกว่าและรูปแบบเลี้ยงปลาในสระดอกบัวซึ่งสร้างรายได้นับร้อยล้าน        ด่งต่อปี ทางท้องถิ่นยังสร้างเขตผลิตข้าวและต้นอ้อยที่มีน้ำใช้ตลอด นอกจากนั้น การประยุกต์ใช้วิทยาศาสตร์เทคโนโลยี การเพิ่มผลผลิตและรายได้หรือพัฒนาการจำหน่ายผลิตภัณฑ์ให้เป็นไปอย่างสะดวกและยั่งยืนก็ได้รับความสนใจเป็นพิเศษผ่านการจัดตั้งสหกรณ์และสโมสรหรือกลุ่มผลิตเพื่อจำหน่ายผลิตภัณฑ์
ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนที่ได้รับการยกระดับให้ดีขึ้นก็ถือเป็นแรงจูงใจเพื่อสร้างความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์ในสังคมในการร่วมแรงร่วมใจสร้างสรรค์ชนบทใหม่โดยหลายครอบครัวได้บริจาคที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานชนบทใหม่รวมเงินลงทุนถึง 5 หมื่นล้านด่ง นาย เลวันชั้ง ผู้เดินหน้าในการบริจาคที่ดินเพื่อก่อสร้างกิจการชนบทใหม่ในท้องถิ่นได้แสดงความเห็นว่า“ผ่านขบวนการรณรงค์สร้างสรรค์ชนบทใหม่ ครอบครัวเกษตรกรได้บริจาคที่ดินเพื่อก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐาน เช่นไฟฟ้า ถนนหนทาง โรงเรียนและสถานีอนามัย นี่คือทั้งสิทธิผลประโยชน์ของตนและชาวบ้าน เรามีพลังที่สามารถพัฒนาบ้านเกิดให้เจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น”
ควบคู่กับการเสร็จสิ้นการปฏิบัติ 19 มาตรฐานเกี่ยวกับการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านในตำบลลองฮึงได้พัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งโดยในปีนี้ รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรในท้องถิ่นบรรลุ 37 ล้านด่ง อัตราครอบครัวยากจนลดลงเกือบร้อยละ 7 จำนวจครอบครัวที่มีรายได้ปานกลางและร่ำรวยนับวันเพิ่มมากขึ้น หมู่บ้าน 10 แห่งของตำบลได้บรรลุมาตรฐานหมู่บ้านวัฒนธรรม ถนนหนทางของทุกซอกทุกซอยได้รับการก่อสร้างอย่างกว้างขวาง ระบบชลประทานได้รับการก่อสร้างอย่างสมบูรณ์ ชาวบ้านทุกคนมีไฟฟ้าและน้ำสะอาดใช้ ในตลอด 4ปีของการปฏิบัติการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ทางตำบลได้ระดมเงินทุนเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 แสน 1 หมื่น 6 พันล้านด่งซึ่งในนั้น 5 หมื่นล้านด่งมาจากการสนับสนุนของประชาชนและสมทบแรงงานนับพันวัน นาย เหงียนหุยดึ๊ก รองเลขาธิการพรรคสาขาตำบลลองฮึงได้เผยว่า“กระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่คือต้องทำเช่นไรเพื่อปรับปรุงชีวิตทั้งด้านวัตถุและจิตใจให้แก่ประชาชนซึ่งสิ่งนี้มีความสัมพันธ์กับการพัฒนาเศรษฐกิจ ดังนั้นก็จะส่งผลถึงขนบธรรมเนียมการผลิตและจิตสำนึกแบบดั้งเดิมของประชาชน ดังนั้น ถ้าอยากปรับปรุงสิ่งนี้ ทางท้องถิ่นก็ประสบความยากลำบากมาก แต่ผ่านผลงานที่ได้บรรลุได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ประชาชนก็ได้สนับสนุนและเห็นด้วย”
ปัจจุบัน ลองฮึงได้มีโฉมใหม่ด้วยถนนลาดยางและถนนคอนกรีตหลายสาย บ้านเรือนที่ได้รับการก่อสร้างอย่างมั่นคง กิจการสาธารณูปโภคและชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนได้พัฒนามากขึ้น แต่ผู้บริหารของตำบลและประชาชนในตำบลลองฮึงต่างตระหนักว่า นี่คือผลสำเสร็จเบื้องต้นเท่านั้น ดังนั้น ในเวลาที่จะถึงลองฮึงจะพัฒนา สร้างสรรค์ตำบลให้พัฒนายิ่งขึ้น ไม่มีครอบครัวยากจน รายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรสูงขึ้นในทุกปีและกลายเป็นตัวอย่างเพื่อให้ท้องถิ่นต่างๆศึกษาและปฏิบัติตาม./.