จุดเด่นในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ที่อำเภอเจืองหมี กรุงฮานอย

(VOVWORLD) - หมู่บ้าน อานเหี่ยน เป็นหนึ่งในเจ็ดหมู่บ้านของตำบล หว่างเหยี่ยว อำเภอ เจืองหมี กรุงฮานอย ที่เป็นต้นแบบในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่และกำลังมุ่งสู่การบรรลุมาตรฐานชนบทใหม่ในระดับสูง

ตำบล หว่างเหยี่ยว ได้รับรองเป็นตำบลที่บรรลุมาตรฐานชนบทใหม่เมื่อปี 2015 โดยหมู่บ้าน อานเหี่ยน มีประชากรทั้งหมด 1,484 คน รวม 70 ครัวเรือน เป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ได้รับการยกย่องอย่างสูงจากคณะกรรมการประชนตำบล หว่างเหยี่ยว ในการสร้างสรรค์ชนบนใหม่ด้วยการบริหารที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งมีส่วนช่วยเพิ่มผลผลิตด้านการเกษตรและปศุสัตว์ พร้อมทั้งลดการใช้กำลังแรงงานเกษตรกร ปัจจุบัน พื้นที่เกษตรกรรมของหมู่บ้าน อานเหี่ยน อยู่ที่กว่า 450 ไร่ รวมถึงฟาร์มเกษตร 13 แห่ง ซึ่งได้มีการจัดสรรอย่างชัดเจนและเป็นระบบ พร้อมทั้งสร้างห่วงโซ่การผลิตและอุปทาน เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์เกษตร นาย เหงียน วัน หุ่ง หัวหน้าหมู่บ้าน อานเหี่ยน เผยว่า

“หมู่บ้าน อานเหี่ยน มีการกำหนดและจัดสรรพื้นที่สำหรับการปลูกไม้ผลและข้าวอย่างชัดเจน โดยสวนลำไยและส้มโอบางแห่งที่ให้ผลผลิตสูงสามารถสร้างรายได้มากถึง 500 หรื600 ล้านด่งต่อปี ซึ่งได้กำไรอยู่ที่ร้อยละ 50 ในขณะที่ฟาร์มไก่มีกำไรอยู่ที่ประมาณ 300 ล้านด่งต่อปี ตัวแทนหมู่บ้านได้ทำสัญญากับเจ้าของรถไถและรถเกี่ยวนวดข้าว เพื่อให้เกษตรกรสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้อย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ส่วนฝ่ายเกษตรของหมู่บ้านจะแจ้งให้เกษตรกรทราบเมื่อมีข้าวพันธุ์ใหม่ โดยเมื่อปีที่แล้ว มีการปลูกข้าวพันธุ์ใหม่คุณภาพสูงอย่าง QR15 ในพื้นที่ 50 เฮกตาร์ ซึ่งให้ผลผลิตสูงถึงราว 1 ตันต่อไร่ต่อฤดู”

จุดเด่นในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ที่อำเภอเจืองหมี กรุงฮานอย - ảnh 1ศูนย์ชุมชนและห้องสมุดของหมู่บ้าน อานเหี่ยน

นอกจากนี้ หมู่บ้าน อานเหี่ยน ได้จัดตั้งกลุ่มช่วยเหลือเกษตรกรในการขอกู้เงินจากธนาคารเพื่อดำเนินการผลิตและการประกอบธุรกิจ 3 กลุ่ม โดยแต่ละกลุ่มจะบริหารวงเงินจำนวน 2 พันล้านด่ง นาย ดั่ง ซวน เจี๊ยน รองหัวหน้าหมู่บ้านและยังเป็นหนึ่งในผู้ที่ประสบความสำเร็จในการประกอบธุรกิจของหมู่บ้าน อานเหี่ยน เผยว่า

“ก่อนหน้านี้ แต่ละครัวเรือนมีพื้นที่ในการผลิตสินค้าเกษตรไม่มากและตั้งอยู่อย่างกระจัดกระจาย รวมถึงไม่สามารถใช้งานเครื่องจักรได้เต็มกำลัง แต่หลังจากที่มีการบริหารที่ดินอย่างมีประสิทธิภาพ การใช้เครื่องจักรขนาดใหญ่ทำได้อย่างสะดวกสบายมากขึ้น มีการขยายระบบถนนภายในพื้นที่การเกษตรให้กว้างขึ้นเพื่อให้เครื่องจักรต่างๆ สามารถเข้าถึงพื้นที่เพื่อทำการเก็บเกี่ยวและขนส่งสินค้าเกษตรให้แก่ชาวบ้าน ช่วยเพิ่มผลผลิตและลดการใช้กำลังแรงงาน เมื่อปี 2013 ทางการหมู่บ้านได้มีการปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวที่ให้ผลผลิตต่ำมาเป็นพื้นที่สำหรับทำสวน ขุดบ่อน้ำ และสร้างโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ โดยตัวผมเองได้ขอพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้ 2 เฮกตาร์ เพื่อขุดบ่อเลี้ยงปลา ถมดินทำสวน และสร้างระบบโรงเรือนเลี้ยงสัตว์หลายชนิด ซึ่งสามารถสร้างรายได้ถึงหลายร้อยล้านด่งต่อปี โดยมีกำไรปีละราว 150 ล้านด่ง”

ยิ่งไปกว่านี้ ศาสนสถานต่างๆ และศูนย์ชุมชนของหมู่บ้านก็ได้รับการซ่อมแซมและปรับปรุงอย่างสม่ำเสมอหรือสร้างขึ้นใหม่ รวมถึงการตกแต่งกำแพงริมถนนในหมู่บ้านด้วยภาพวาดศิลปะที่มีสีสันสวยงาม ถนนทุกเส้นเป็นถนนคอนกรีต ขณะที่ระบบรางระบายน้ำมีการนำตะแกรงมาปิดทับ นาย เจิ่น กวาง ฮวี เลขาธิการพรรคสาขาและหัวหน้าแนวร่วมปิตุภูมิสาขาหมู่บ้าน อานเหี่ยน เผยว่า

“พวกเราได้นำการขัดเกลาทางสังคมมาเป็นหลักพื้นฐานในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ ซึ่งแต่ละคนจะมองเห็นตัวเองว่าเป็นส่วนหนึ่งในกระบวนการสร้างสรรค์ชนบนใหม่ดังกล่าว เช่น การบริจาคเงินจำนวนกว่า 1 พันล้านด่งสำหรับการสร้างสุสานฝังศพเป็นการถาวร การบริจาคที่ดินสร้างสนามกีฬาขนาดกว่า 3,000 ตารางเมตร ซึ่งได้ทำการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อปี 2011 รวมถึงการปรับภูมิทัศน์ของถนนสายหลักของหมู่บ้านระยะทางกว่า 300 เมตรด้วยต้นเฟื่องฟ้า”

จุดเด่นในการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ที่อำเภอเจืองหมี กรุงฮานอย - ảnh 2รูปภาพบนกำแพงเกี่ยวกับเรื่องเกษตรกรทำนาปลูกข้าว

ทั้งนี้ หมู่บ้าน อานเหี่ยน ได้ตั้งเป้าหมายว่า จะไม่มีครัวเรือนที่มีฐานะยากจนภายในปี 2022 และรายได้เฉลี่ยต่อหัวประชากรอยู่ที่ 60 ล้านด่งต่อปี เพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดีขึ้นอย่างพร้อมเพรียง นาย เจิ่น กวาง เดี๋ยน ผู้อาวุโสในหมู่บ้าน อานเหี่ยน เผยว่า

“ห้องสมุดที่พวกเราได้สร้างขึ้นมาเมื่อ 5 ปีก่อน มีหนังสือมากกว่า 1,000 เล่ม ทั้งวรรณคดี ศิลปะ กีฬา กฎหมาย การเกษตร การเลี้ยงสัตว์ การดูแลและพัฒนาเด็ก การแพทย์ ฯลฯ ซึ่งคนในหมู่บ้านสามารถมาใช้บริการได้ฟรี และส่วนใหญ่ก็มักยืมกลับไปอ่านที่บ้าน”

ชาวบ้านทุกคนในหมู่บ้าน อานเหี่ยน ร่วมแรงร่วมใจในการพัฒนาชุมชนไปสู่ความมั่งคั่งร่ำรวยอย่างยั่งยืนและสวยงามเพื่อบรรลุเป้าหมายมาตรฐานชนบทใหม่ในระดับสูงภายในปี 2024

Ngọc Anh/VOV5

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด