กล้วยน้ำว้าคือผลไม้ที่นิยมปลูกเนื่องจากปลูกง่าย ทั้งในฤดูแห้งแล้งและฤดูฝน

กล้วยน้ำว้าคือผลไม้ที่นิยมปลูกเนื่องจากปลูกง่าย ทั้งในฤดูแห้งแล้งและฤดูฝนซึ่งปลูกได้ตลอดทั้งปี ปัจจุบันนี้ ที่จังหวัดกว๋างนามมีครอบครัวชนกลุ่มน้อยเผ่าเกอตูนับพันครอบครัวที่กำลังปลูกกล้วยน้ำว้า โดยเฉพาะในอำเภอเขตเขาต่างๆ เช่น ดงยาง นามยางและเตยยาง ในอดีต ชาวบ้านส่วนใหญ่ปลูกกล้วยน้ำว้าแบบรายย่อย แต่ในหลายปีมานี้ จากคำแนะนำของทางการปกครองท้องถิ่นเกี่ยวกับวิธีการปลูกทำให้มีชาวบ้านหลายคนหันมาปลูกมากขึ้น นาย โด๋หิวตุ่ง รองประธานคณะกรรมการประชาชนอำเภอ ดงยาง เผยว่า

“ปัจจุบันนี้ ทางอำเภอฯ กำลังพัฒนาการปลูกกล้วยน้ำว้าในตำบลเจอไง ตำบลซงกน ตำบลหม่ากุน ตำบลบาและตำบลตือ ซึ่งชาวบ้านนิยมเป็นอย่างมาก นอกจากนี้ ทางอำเภอฯ ก็ให้การดูแลเอาใจใส่ผ่านการปฏิบัติโครงการต่างๆ โดยเฉพาะโครงการสร้างกำไรจากสวนจากฟาร์มและโครงการสนับสนุนชาวบ้านเพื่อยกระดับคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ช่วยสร้างชื่อเสียงให้แก่กล้วยน้ำว้าของอำเภอฯ ซึ่งได้รับใบสั่งซื้อจำนวนมากจากซุปเปอร์มาเก็ตและตลาดในจังหวัดกว๋างนามและนครดานัง อีกทั้ง กล้วยน้ำว้าพันธุ์เฉพาะถิ่นของเราก็ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากจากนักท่องเที่ยว ดังนั้น ทางอำเภอฯ จะยกระดับห่วงโซ่การเชื่อมโยงและเพิ่มมูลค่าให้แก่การพัฒนาเศรษฐกิจต่อไป”

ในขณะเดียวกัน สมาคมเกษตรกรจังหวัดกว๋างนามได้สนับสนุนชาวบ้านกู้เงินทุน จัดสรรพันธุ์และเชื่อมโยงกับสำนักงานและสถานประกอบการต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ต่อผู้บริโภค นาย เหงียนอุ๊ด รองนายกสมาคมเกษตรจังหวัดกว๋างนาม เผยว่า

“สำหรับอำเภอเขตเขาต่างๆ ชาวบ้านใช้เงินกู้เพื่อพัฒนารูปแบบเศรษฐกิจที่สร้างรายได้สูง ซึ่งช่วยปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ให้ดีขึ้นและมีหลายรายการได้รับใบรับรองเป็นผลิตภัณฑ์ OCOP ของจังหวัด ในจังหวัดเขตเขาต่างๆ เราช่วยชาวบ้านพัฒนาการผลิตแบบรวมศูนย์และการผลิตที่ปลอดสารพิษ พร้อมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าและงานแสดงสินค้าต่างๆ เพื่อประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์การเกษตรให้แก่ชาวบ้าน เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถเชื่อมโยงกับตลาดภายนอกได้”

การปลูกกล้วยได้ช่วยให้ครอบครัวของนาย อาลังโฮ้ยสามารถหลุดพ้นจากความยากจน

ในปีนี้ กล้วยน้ำว้ามีผลผลิตดีและสามารถขายได้ราคาดี ซึ่งช่วยเพิ่มรายได้และปรับปรุงชีวิตความเป็นอยู่ของชาวบ้านให้ดีขึ้น โดยที่อำเภอดงยาง มีผลผลิตกล้วยน้ำว้า 25 - 30 ตันต่อเฮกตาร์ สร้างรายได้กว่า 2,400 ดอลลาร์สหรัฐต่อเฮกตาร์ นาย อาลังโฮ้ย ชนกลุ่มน้อยเผ่าเกอตูในตำบลหม่ากุน อำเภอด่งยาง ที่ปลูกกล้วยน้ำว้าและกล้วยหอมกว่า 3 เฮกตาร์ ที่สามารถขายได้ในราคาเฉลี่ย 3 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครือ โดยเฉพาะในช่วงตรุษเต๊ตสามารถขายได้ในราคากว่า 10 – 22 ดอลลาร์สหรัฐต่อเครือ ได้เผยว่า การปลูกกล้วยได้ช่วยให้ครอบครัวของเขาสามารถหลุดพ้นจากความยากจนและสร้างบ้านหลังใหม่ได้

“กล้วยขายได้ราคาดี ช่วยให้ชีวิตของเรามีความมั่นคง ผมเคยเป็นพ่อค้าขายกล้วย เห็นกำไรจากกล้วยจึงลงทุนปลูกเอง ปัจจุบัน เรามีรายได้กว่า 410 ดอลลาร์สหรัฐ ชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นไม่ลำบากเหมือนช่วงก่อน ผมยังมีความปรารถนาว่า ทางการท้องถิ่นจะช่วยก่อสร้างถนนคอนกรีตเพื่อสามารถขนส่งกล้วยได้ง่ายขึ้น”

ในอำเภอเขตเขาต่างๆ ของจังหวัดกว๋างนาม นับวันมีรูปแบบเศรษฐกิจที่มีประสิทธิภาพสูง อย่างเช่นการปลูกกล้วยน้ำว้า ซึ่งชาวบ้านได้เปลี่ยนมาปลูกแบบรวมศูนย์เพื่อสามารถช่วยเหลือกันฟันฝ่าอุปสรรค พัฒนาฐานะของครอบครัวและเศรษฐกิจของท้องถิ่น.