ชาวบั๊กเซินฝ่าฟันอุปสรรคเพื่อสร้างสรรค์ชนบทใหม่
Le Phuong/VOV5 -  
(VOVworld)-ร่วมกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ต.บั๊กเซินเมืองม้องก๊ายจ.กว๋างนิงก็กำลังดำเนินแผนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างเข้มแข็ง ถึงแม้จะเป็นท้องถิ่นเขตเขาที่ยังประสบอุปสรรค์นานัปการแต่ทางการท้องถิ่นและประชาชนต.บั๊กเซินได้พยายามฝ่าฟันอุปสรรคและรู้จักใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขต่างๆในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาชนบท
(VOVworld)-ร่วมกับท้องถิ่นต่างๆทั่วประเทศ ต.บั๊กเซินเมืองม้องก๊ายจ.กว๋างนิงก็กำลังดำเนินแผนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่อย่างเข้มแข็ง ถึงแม้จะเป็นท้องถิ่นเขตเขาที่ยังประสบอุปสรรค์นานัปการแต่ทางการท้องถิ่นและประชาชนต.บั๊กเซินได้พยายามฝ่าฟันอุปสรรคและรู้จักใช้ประโยชน์จากเงื่อนไขต่างๆในท้องถิ่นเพื่อพัฒนาชนบท
|
การปลูกป่าเป็นหนึ่งในแนวทางที่เอื้อประโยชน์ให้แก่ชาวบ้าน(nongnghiep.vn) |
ต.บั๊กเซินได้รับการก่อตั้งเมื่อปี2003มี400ครอบครัวรวมประชากร1700คนที่อาศัยในหมู่บ้าน4แห่ง ชาวบั๊กเซินส่วนใหญ่เป็นชนเผ่าเย้า ซ้านจี๋ มีชายแดนติดกับจีนยาวกว่า20กิโลเมตรรวมหลักพรมแดน13หลัก จากสถานะเป็นท้องถิ่นชายแดนในเขตเขาที่ยังประสบอุปสรรคในทุกด้าน ชาวบ้านมีอาชีพเกษตรกรรมทำนาขั้นบันไดเป็นหลักดังนั้นจึงเป็นอุปสรรคให้แก่การปฏิบัติโครงการทุ่งนาขนาดใหญ่และนำเครื่องมือการเกษตรที่ทันสมัยเข้าช่วย นอกจากนี้ระบบเหมืองฝายเพื่อใช้ในการผลิตเกษตรก็ไม่สะดวกเหมือนเขตที่ราบซึ่งส่งผลให้ปริมาณการผลิตข้าวอยู่ในระดับต่ำ แต่ท่ามกลางอุปสรรคก็ได้เกิดความคิดใหม่ที่คล่องตัวเพื่อปรับโครงสร้างการเกษตรให้มีความเหมาะสมด้วยการพัฒนาพื้นที่ภูดอยให้เป็นป่ากระถินณรงค์เพื่อช่วยเพิ่มรายได้ให้แก่ชาวบ้าน ควบคู่กันนั้น ทางการท้องถิ่นยังเปิดการฝึกอบรมวิชาชีพการเกษตรให้แก่ประชาชนช่วยปรับเปลี่ยนแนวคิดและจิตสำนึกในการปลูกพืชที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจสูง นายอย่างอาซฺงชาวบั๊กเซินเผยว่า
ในช่วงแรกๆชาวบ้านรู้จักแต่การปรับปรุงพื้นที่ดินที่ถูกทิ้งร้างต่อจากนั้นก็เริ่มรู้จักปลูกป่ากระถินณรงค์เพราะเป็นต้นไม้ที่เหมาะกับสภาพดินและให้ผลภายใน7-8ปีโดยมีพ่อค้ามาซื้อทั้งป่าเลยราคาราว40-50ล้านด่งแล้วแต่จำนวนต้น
นับตั้งแต่มีโครงการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ทางการท้องถิ่นได้แนะนำให้ประชาชนปรับเปลี่ยนโครงสร้างพืชและสัตว์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ในท้องถิ่น เช่นสุกรม้องก๊ายเป็นพันธุ์ที่มีเนื้อหอมอร่อยและได้รับความนิยมจากผู้บริโภคและมีมูลค่าสูงทางเศรษฐกิจ พร้อมทั้งยังทดลองเลี้ยงและผสมพันธุ์กับหมูป่าหลางเซิน ครอบครัวนาง โห่ทิไว เป็นครอบครัวที่ได้รับมอบหน้าที่ทดลองเลี้ยงสุกรพันธุ์ใหม่บอกว่าตอนแรกเธอเลี้ยงหมูป่าหลางเซิน10ตัวเมื่อเห็นว่ามีประสิทธิภาพก็ขยายฝูงสุกรเป็น30ตัวพร้อมทั้งถ่ายทอดประสบการณ์ให้ชาวบ้านและช่วยกันพัฒนาการเลี้ยงสุกรในหมู่บ้าน เธอเผยว่า ยอดเงินทุนสำหรับการพัฒนาการผลิตคือประมาณ200ล้านด่งหากเลี้ยงสุกร30ตัวตั้งแต่1-2ปีขายได้ราคา3แสน5หมื่นด่งต่อกีโลกรัมคิดเฉลี่ยก็มีรายได้100ล้านด่งจากสุกรนอกจากนั้นเรายังทำการผลิตอย่างอื่นด้วย
|
ชาวบ้านช่วยกันพัฒนาการเลี้ยงหมูป่าในหมู่บ้าน (hanoimoi.com.vn)
|
ต.บั๊กเซินมีแนวชายแดนติดกับจีนค่อนข้างยาวดังนั้นงานด้านการรักษาความมั่นคงและความเป็นระเบียบเรียบร้อยก็เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทางการท้องถิ่นให้ความสนใจในอันดับต้นๆเพื่อมุ่งบรรลุเป้าหมายการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ นายเหงวียนวันหว่าน ประธานคณะกรรมการประชาชนต.บั๊กเซินเผยว่าเราสามารถยืนยันได้ว่านับตั้งแต่ได้รับการจัดตั้งเมื่อปี2003 แม้จะเป็นท้องถิ่นชายแดนติดกับจีนแต่ความมั่นคงยังคงได้รับรักษาเป็นอย่างดีประชาชนก็มีความมั่นใจในการทำมาหากินพัฒนาเศรษฐกิจ
จากความพยายามของทางการและประชาชนชีวิตของชาวบ้านได้รับการยกระดับให้ดีขึ้น ในจำนวนมาตรฐาน19ข้อของแผนการพัฒนาชนบทางต.สามารถบรรลุมาตรฐาน8ข้อ จากผลงานเบื้องต้น กระบวนการเจ้าหน้าที่รุ่นใหม่ได้พยายามประชาสัมพันธ์แนวทางนโยบายช่วยให้ประชาชนเข้าใจอย่างถ่องแท้ว่า ในกระบวนการสร้างสรรค์ชนบทใหม่ชาวบ้านคือปัจจัยสำคัญและเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดเพื่อสร้างจิตสำนึกในการร่วมแรงร่วมใจพัฒนาชนบใหม่./.
Le Phuong/VOV5