นักศึกษาอาสาฟู๊เอียนมุ่งสู่ชนบท

(VOVworld) - รอยยิ้มบนใบหน้าและการร่วมแรงรร่วมใจกันคือจุดเด่นของชาวบ้านในตำบลเขตเขา ซวนแหลง อำเภอด่งซวน จังหวัดฟู๊เอียนเมื่อพูดถึงหน่วยนักศึกษาอาสาที่กำลังศึกษาวิชา คุรุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฟู๊เอียนซึ่งเมื่อลงมือทำงานต่างเอาใจใส่อย่างจริง จังและพยายามอย่างสุดความสามารถ ในฤดูร้อนนี้ นักศึกษาเหล่านี้ได้มีช่วงเวลาที่มีความหมาย ณ ที่นี่

(VOVworld) - รอยยิ้มบนใบหน้าและการร่วมแรงรร่วมใจกันคือจุดเด่นของชาวบ้านในตำบลเขตเขาซวนแหลง อำเภอด่งซวน จังหวัดฟู๊เอียนเมื่อพูดถึงหน่วยนักศึกษาอาสาที่กำลังศึกษาวิชา คุรุศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฟู๊เอียนซึ่งเมื่อลงมือทำงานต่างเอาใจใส่อย่างจริงจังและพยายามอย่างสุดความสามารถ ในฤดูร้อนนี้ นักศึกษาเหล่านี้ได้มีช่วงเวลาที่มีความหมาย ณ ที่นี่

นักศึกษาอาสาฟู๊เอียนมุ่งสู่ชนบท - ảnh 1
นักศึกษาอาสาฟู๊เอียนมุ่งสู่ชนบท

ในจำนวนนักศึกษาอาสากว่า 20 คนที่เดินทางมาตำบลซวนแหลงในฤดูร้อนนี้มีหลายคนที่มาที่นี่เป็นครั้งแรกและมีความวิตกกังวลว่า จะทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดีได้หรือไม่ แม้จะมีคำถามมากมายแต่เมื่อมาที่นี่ มิตรไมตรีและน้ำใจของชาวบ้านได้ช่วยให้นักศึกษาอาสาสามารถปรับตัวเข้ากับชีวิตที่นี่ได้อย่างรวดเร็ว คุณ โห่สีห่าว นักศึกษาปีที่ 4 ได้เผยว่าพวเรารู้สึกมีความสุขเพราะได้มีโอกาสเดินทางมาที่นี่เพื่อให้การช่วยเหลือชาวบ้าน งานหลักของพวกเราคือ ก่อสร้างถนนคอนกรีตรวมระยะทาง 120 เมตรและเปิดชั้นเรียนให้แก่เด็กๆ โดยเฉพาะประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม ทำความสะอาดสถานที่สาธารณะ แนะนำให้ชาวบ้านก่อสร้างห้องน้ำ เก็บขยะและทำความสะอาดถนน”
ถึงแม้ได้วางแผนงานที่ต้องทำไว้หลายอย่าง แต่งานหลักของนักศึกษาอาสาเหล่านี้คือให้การศึกษาด้านวัฒนธรรมและสอนหนังสือให้แก่เด็กๆในตำบลซวนแหลงตั้งแต่ระดับอนุบาลจนถึงประถมศึกษา คุณ จิ่งเฟืองลวาน นักศึกษาปีที่ 4 ได้เผยว่ามีเด็กบอกว่า อยากไปโรงเรียนแต่ไม่มีใครดูแลบ้าน ต้องไปเลี้ยงวัว ดิฉันจึงเห็นว่า เด็กๆไม่สามารถไปโรงเรียนเพราะมีฐานะยากจน ผ่านกิจกรรมอาสานี้ พวกเรานำความรู้ไปยังเขตเขาเขตทุรกันดาร ให้กำลังใจเด็กๆฟันฝ่าอุปสรรค์ พวกเขาจึงมีความปลื้มปิติยินดีมากและไปโรงเรียนบ่อยๆ เด็กๆยังพาหน่วยนักศึกษาอาสาไปศึกษาชีวิตที่นี่ซึ่งช่วยให้พวกเรามีความรู้เพื่อปรับตัวเข้ากับสังคมในอนาคต”

นักศึกษาอาสาฟู๊เอียนมุ่งสู่ชนบท - ảnh 2
นักศึกษาอาสาสอนหนังสือให้แก่เด็ๆ

ทุกวัน นักศึกษาอาสาไปสอนหนังสือตอนเช้าและตอนบ่าย ส่วนตอนค่ำก็จัดกิจกรรมนาฏศิลป์ให้แก่เด็กๆที่บริเวณด้านหน้าของหอวัฒนธรรมของตำบลซวนแหลง ในตอนแรก เด็กๆยังรู้สึกอาย ไม่คุ้นเคยแต่หลังจากนั้นก็กล้าฟ้อนรำและร้องเพลงกับนักศึกษาอาสาซึ่งไม่เพียงแต่เด็กๆเท่านั้นที่เข้าร่วมกิจกรรมแต่บรรดาผู้สูงอายุก็มาร่วมกิจกรรมเช่นกัน คุณ เฟืองลวาน นักศึกษาอาสาคนหนึ่งได้เผยว่า การเข้าร่วมกิจกรรมอาสาช่วยให้มีการพัฒนาและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นตอนพวกเรามาที่นี่ ทุกค่ำ เด็กๆก็มาที่นี่เช่นกันจึงสนุกสนานมากเหมือนนำพลังชีวิตมาให้แก่เขตชนบทนี้ เด็กๆมาที่นี่เพื่อเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆและพูดคุยกัน พร้อมทั้งนำอาหาร น้ำดื่มและผลไม้มาให้แก่พวกเรา หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมอาสา พ่อแม่เห็นว่า เรามีความเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น ดิฉันได้เรียนรู้เกี่ยวกับสงคมและมีทักษะการดำรงชีวิตมากขึ้น ถ้ามีโอกาส ดิฉันก็จะอาสาเข้าร่วมกิจกรรมอาสาอย่างแน่นอน”
สำหรับคุณ หวิ่งแทงชุก นักศึกษาปีที่ 3 ที่เข้าร่วมกิจกรรมอาสาครั้งแรกได้แสดงออกถึงความกังวลเพราะเมื่อก่อน เขาเรียนแต่หนังสือเท่านั้นและไม่เคยทำงานหนักแต่เมื่อเข้าร่วมกิจกรรมอาสาที่ต้องทำงานทุกสิ่งทุกอย่างเหมือนทุกคน มุ่งใจสู่ชนบท คุณแทงชุกก็มีความเข้าใจและเห็นอกเห็นใจชาวบ้าน โดยเฉพาะเด็กๆที่ไม่มีโอกาสได้ไปโรงเรียน คุณแทงชุกและเพื่อนๆเดินเคาะประตูทุกบ้านเพื่อเชิญชวนให้เด็กๆมาอ่านหนังสือ กิจกรรมอาสาได้ช่วยให้คุณแทงชุกกลายเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นบทเรียนแรกที่ดิฉันได้รับจากการเข้าร่วมกิจกรรมอาสาคือ การเป็นตัวของตัวเอง จิตใจแห่งความสามัคคีและความอดทน ในอนาคตเมื่อดิฉันได้เป็นครู ดิฉันจะสอนเด็กๆต่อไป การได้ทำความคุ้นเคยกับเด็กๆทำให้ดิฉันมีความมั่นใจยิ่งขึ้นเมื่อสอนเด็กๆในชั้นเรียนในอนาคต”
เมื่อเดินทางถึงซวนแหลง กลุ่มนักศึกษาอาสาของมหาวิทยาลัยฟู๊เอียนยังคงรณรงค์ให้ทางการและประชาชนสนับสนุนเงินทุนเพื่อก่อสร้างกิจการต่างๆ คุณเฟืองลวานได้เผยว่าแม้ไม่มีเงินแต่พวกเรามาที่นี่ด้วยใจเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านก่อสร้างถนนเพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทาง พวกเรากำลังขอเงินช่วยเหลือจากทุกคนเพื่อก่อสร้างประตูโรงเรียประถมศึกษาตอนต้นและก่อสร้างถนนคอนกรีตบริเวณด้านหน้าโรงเรียนเพื่อให้เด็กๆมาโรงเรียนได้สะดวกมากขึ้น”
หลังจากเสร็จสิ้นกิจกรรมอาสา มือของคุณ ลวานและคุณชุกต่างหยาบกร้านและผิวหนังดำขึ้นแต่ทุกคนต่างรู้สึกว่า เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รับรู้ถึงน้ำใจและการช่วยเหลือจุนเจือกันของชาวบ้าน รับรู้ถึงความสุข ความรัก ความสามัคคีไม่ใช่เพื่อผลประโยชน์ของตนเอง หากเพื่อผลประโยชน์ของชุมชน เมื่อเดินทางกลับตัวเมืองและมหาวิทยาลัย นักศึกษาของมหาวิทยาลัยฟู๊เอียนจะไม่มีวันลืมฤดูร้อนที่เต็มไปด้วยความหมายนี้./.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด