นาง H Yới Niê ในหมู่บ้าน Knia ตำบล Ea Tul อำเภอ Cư Mgar

ปีนี้ นาง H Yới Niê ในหมู่บ้าน Knia ตำบล Ea Tul อำเภอ Cư Mgar จังหวัดดั๊กลัก มีอายุ 53 ปี ดวงตาเริ่มมองไม่ชัดและใช้มือไม่ชำนาญเหมือนเมื่อก่อน แต่เธอยังคงใช้เวลาว่างเพื่อทอกระโปรง เสื้อผ้าและผ้าห่มตามใบสั่งซื้อ โดยนอกจากทอผ้าลายพื้นเมืองแล้ว เธอยังสอนอาชีพให้แก่ลูกหลานด้วยความปรารถนาว่า คนรุ่นหลังจะอนุรักษ์และส่งเสริมอาชีพพื้นเมืองของชนเผ่าต่อไป นาง H Yới Niê เผยว่า “เมื่อก่อน ดิฉันไม่รู้จักวิธีทอผ้าลายพื้นเมืองและไม่ได้รับการสืบทอดอาชีพจากคุณแม่ แต่เมื่อรัฐเปิดชั้นเรียนฝึกสอนอาชีพทอผ้าลายพื้นเมือง ดิฉันได้เรียนวิธีการทอผ้าหลายแบบ เช่น เสื้อ กระโปรงและผลิตภัณฑ์อื่นๆ ปัจจุบัน เมื่อมีลูกค้าสั่งซื้อ ดิฉันก็ทอผ้าเลย ดิฉันยังสืบทอดอาชีพให้แก่ลูกและกำชับให้พวกเขาสืบทอดอาชีพให้แก่คนรุ่นหลังต่อไป นี่คือคุณค่าด้านวัฒนธรรมพื้นเมืองของชนเผ่าเอเด ดังนั้นต้องอนุรักษ์ให้คงอยู่และส่งเสริมต่อไป”

เช่นเดียวกับนาง H Yới เมื่อก่อน นาง H Mion Niê ก็ไม่รู้จักการทอผ้าลายพื้นเมือง ในขณะที่เรียนที่วิทยาลัยอาชีวะศึกษาเยาวชนชนเผ่าเตยเงวียน เธอก็ได้เรียนเกี่ยวกับอาชีพทอผ้าลายพื้นเมืองของชนเผ่าเอเด นาง H Mion Niê เผยว่า มีบางทีส่วนงานที่โรงเรียนอนุบาลในหมู่บ้าน Wing ตำบล Ea Kuếh ยุ่งมาก แต่เธอยังคงแบ่งเวลาทอผ้าลายพื้นเมืองเพื่อรักษาเอกลักษณ์วัฒนธรรมพื้นเมืองของชนเผ่าตน “เมื่อก่อน ดิฉันเรียนที่โรงเรียนจึงเห็นว่า ความรู้ยังไม่พอ ดังนั้น เมื่อกลับบ้าน ดิฉันจึงเรียนเพิ่มจากผู้สูงอายุเพราะพวกเขามีประสบการณ์มาก ซึ่งช่วยให้ดิฉันพัฒนาทักษะฝีมือให้ดีขึ้น ดิฉันเห็นว่า ตัวเองนับวันหลงใหลอาชีพนี้มากขึ้น ดังนั้นต้องอนุรักษ์และพยายามเรียนรู้มากขึ้น”

นาง H Mion Niê เผยว่า มีบางที่ ส่วนงานที่โรงเรียนอนุบาลยุ่งมาก แต่เธอยังสงวนเวลาทอผ้าลายพื้นเมือง

ปัจจุบัน สมาคมสตรีในหมู่บ้าน Knia มีสมาชิก 150 คนโดยมีสตรี 20 คนที่รู้จักการทอผ้าลายพื้นเมือง เมื่อก่อน ผลิตภัณฑ์ผ้าลายพื้นเมืองของสตรีในสมาคมฯส่วนใหญ่ตอบสนองความต้องการของครอบครัวและท้องถิ่นเท่านั้น ดังนั้นการจำหน่ายจึงไม่มีความมั่นคงและไม่สร้างรายได้ ดังนั้น สตรีหลายคนจึงไม่ทำอาชีพนี้

เพื่อให้การช่วยเหลือและให้กำลังใจสตรี สมาคมสตรีในหมู่บ้าน Knia ได้ประชาสัมพันธ์ รณรงค์ให้สตรีธำรง ส่งเสริมอาชีพทอผ้าลายพื้นเมือง หาผลิตภัณฑ์และออกแบบผ้าลายพื้นเมืองที่สวยงาม สร้างความหลากหลายและราคาย่อมเยาเพื่อดึงดูดให้มีคนมาซื้อ ควบคู่กันนั้น เมื่ออินเตอร์เน็ตนับวันพัฒนา สตรีชนเผ่าได้ประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ของตนบนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างเข้มแข็ง เช่น Zalo และ Facebook ซึ่งทำให้มีลูกค้ารู้จักผลิตภัณฑ์และสั่งซื้อมากขึ้น ซึ่งช่วยมีรายได้ที่มั่นคง นาง H’Yuil Niê นายกสมาคมสตรีหมู่บ้าน Knia ตำบล  Ea Tul อำเภอ Cư Mgar จังหวัดดั๊กลักเผยว่า “ในฐานะนายกสมาคมสตรีหมู่บ้าน Knia ดิฉันมักจะรวบรวมผลิตภัณฑ์ผ้าทอลายพื้นเมืองที่สตรีทอไปขาย ในยุค 4.0 เราใช้ข้อดีของเครือข่ายสังคมออนไลน์ สามารถถ่ายภาพและโพสต์หรือถ่ายทำวิดีโอให้ลูกค้าสั่งซื้อ ซึ่งต่อมาสตรีในอำเภออื่นๆก็เข้าใจเราและชื่นชอบผลิตภัณฑ์ของเรา ดังนั้น พวกเขาสั่งซื้อเยอะมาก”

กิจกรรมอนุรักษ์และส่งเสริมอาชีพทอผ้าลายพื้นเมืองของชนเผ่าเอเดในสมาคมสตรีของหมู่บ้าน Knia ได้มีส่วนร่วมอนุรักษ์อาชีพพื้นเมืองของชนเผ่าเอเด อีกทั้งมีส่วนร่วมพัฒนาเศรษฐกิจสังคม ช่วยให้ท้องถิ่นแก้ไขงานทำและยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่นให้ดีขึ้น./.