จุดผ่านแดน Chalo

นับตั้งแต่ที่การประชุมว่าด้วยความร่วมมือพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างเวียดนามกับลาวครั้งที่ 11 ปี 2018 ได้มีขึ้น ณ จังหวัดกว๋างบิ่งห์ ถึงขณะนี้ ความสัมพันธ์มิตรภาพพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างเวียดนามกับลาวนับวันได้รับการธำนุบำรุง ขยายและเข้าสู่ส่วนลึกมากขึ้น ซึ่งได้ประสบประสิทธิภาพในด้านต่างๆ

ในระยะปี 2018-2021 มูลค่าการนำเข้าและส่งออกสินค้าระหว่างเวียดนามกับลาวได้บรรลุ 4.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเฉลี่ยบรรลุ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 ต่อปี และถึงปี 2021 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุ 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละกว่า 33.3 เมื่อเทียบกับปี 2020 และผ่านเป้าหมายที่วางไว้ของทั้งสองประเทศ

ปัจจุบันนี้ เวียดนามมีโครงการลงทุนในประเทศลาว 214 โครงการ ยอดเงินทุนจดทะเบียนประมาณ 5.33 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เวียดนามอยู่อันดับที่ 3 ในจำนวนประเทศที่ลงทุนในลาว รองจากจีนและไทย โดยครอบคลุมหน่วยงานและเศรษฐกิจหลักเกือบทุกภาคส่วน เช่น การเกษตร พลังงาน การผลิต การจำหน่ายสินค้าที่จำเป็น เช่น ไฟฟ้าและน้ำมัน เป็นต้น ในแขวงที่มีศักยภาพสูงของความร่วมมือและการลงทุน โดยเฉพาะในแขวงต่างๆ ในภาคใต้ของลาว ถึงขณะนี้ ในเขตชายแดนระหว่างเวียดนามกับลาว มีจุดผ่านแดนนานาชาติ 9 จุด จุดผ่านแดนหลัก 6 จุด จุดผ่านแดนย่อย 18 จุด รวมทั้งทางเข้าออก 27 จุด มีการก่อตั้งเขตเศรษฐกิจจุดผ่านแดน 9 แห่งเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่การพัฒนาการค้า การบริการระหว่างจังหวัดชายแดนต่างๆ ของทั้งสองประเทศ

ถึงแม้รัฐบาล กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์ จังหวัดและแขวงชายแดนระหว่างสองประเทศมีนโยบายและกลไกที่ให้สิทธิพิเศษต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่สถานประกอบการของทั้งสองประเทศประกอบธุรกิจ แต่ยังคงประสบอุปสรรคนานัปการ เช่น นโยบายที่ดึงดูดการลงทุนในการผลิต การแปรรูป โครงสร้างพื้นฐาน คมนาคมและโลจิสติกส์ในเขตชายแดนยังคงมีประสิทธิภาพไม่มากนัก โดยเฉพาะในช่วงปี 2020 – 2021 ที่เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 การปฏิบัติข้อตกลงและโครงการร่วมมือระหว่างสองฝ่ายยังคงถูกกำจัด ถึงแม้มีชายแดนติดกับจังหวัดเหงะอาน แทงฮว้าและเซินลาของเวียดนาม แต่ในเวลาที่ผ่านมา การขนส่งสินค้าระหว่างแขวง Houaphan ในภาคเหนือของลาวกับจังหวัดเหล่านี้ของเวียดนามยังคงประสบอุปสรรคต่างๆ ที่ต้องแก้ไข นาย Phosy Bounkham รองผู้อำนวยการสำนักงานอุตสาหกรรมและพาณิชย์แขวง Houaphan ได้เผยว่า

“หนึ่งคือ การส่งออกสินค้าการเกษตรผ่านจุดผ่านแดนต่างๆประสบอุปสรรคมากมาย สองคือ การขาดแคลนกรอบทางนิตินัย นโยบายด้านภาษีและนโยบายด้านการค้า สามคือ การขาดแคลนบุคลากรที่มีทักษะความสามารถในด้านการค้าเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในจุดผ่านแดนได้อย่างทันการณ์”

การประชุมว่าด้วยความร่วมมือพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างเวียดนามกับลาวครั้งที่ 12

ในการประชุมว่าด้วยความร่วมมือพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างเวียดนามกับลาวครั้งที่ 12 ที่มีขึ้น ณ กรุงเวียงจันทน์ เมื่อต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา นาย เหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้รับฟังความคิดเห็นของตัวแทนท้องถิ่นและสถานประกอบการทั้งสองประเทศเกี่ยวกับจุดอ่อนและข้อจำกัดที่ส่งผลให้การพัฒนาการค้าลาว – เวียดนามยังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพที่มี พร้อมทั้งระบุเกี่ยวกับสาเหตุและอุปสรรคที่ต้องแก้ไขในด้านการลงทุน แหล่งงบประมาณ การระดมและดึงดูดการลงทุนเพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในชายแดน นาย เหงียนห่งเยียน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า

“จำเป็นต้องตรวจสอบ จัดทำและปรับปรุงกลไกนโยบายเกี่ยวกับการบริหารและพัฒนาการค้าชายแดนอยู่เสมอให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เป็นจริง เผยแพร่และแนะนำการปฏิบัติเอกสารที่ได้ลงนามต่างๆ ส่งเสริมการประสานงานในหน่วยงานทุกระดับ ท้องถิ่นและสถานประกอบการในด้านที่ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ”

อาจกล่าวได้ว่า ศักยภาพการพัฒนาเขตชายแดนยังคงมีสูงมาก แต่เพื่อให้ความร่วมมือพัฒนาการค้าชายแดนระหว่างสองประเทศบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ กระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์เวียดนามได้กำหนดแนวทางร่วมมือพัฒนาต่างๆ เช่น เน้นการตรวจสอบ วิจัย เสนอกลไกและนโยบายที่ให้สิทธิพิเศษอย่างก้าวกระโดด ปรับปรุงและแก้ไขเอกสารที่ได้ลงนามกัน เสนอมาตรการแก้ไขอุปสรรคในการปฏิบัติข้อตกลงการค้าชายแดนเวียดนาม – ลาว อำนวยความสะดวกให้แก่การเจาะตลาดระหว่างกัน ประสานงานในการต่อสู้และปราบปรามการลักลอบค้าของเถื่อนผ่านแดนและการแโกงการค้า ซึ่งเชื่อว่า ในปีนี้และปีต่อๆไป มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ มีส่วนร่วมกระชับความสัมพันธ์มิตรภาพที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศให้นับวันแน่นแฟ้นมากขึ้น.