ความทรงจำเกี่ยวกับตรุษเต๊ตที่สมรภูมิเชียงขวาง ประเทศลาวในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐ

(VOVWORLD) - “เมื่อชีวิตมีความอิ่มหนำผาสุก เราจะคิดถึงช่วงเวลาที่เต็มไปด้วยความยากลำบากและยากจน” นี่คือความในใจของคุณลุงหว่างด่าว อดีตทหารราบในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกา ในโอกาสฉลองวสันต์ฤดูปีฉลู ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้ไปเยี่ยมและอวรพรปีใหม่คุณลุงด่าว โดยได้ฟังคุณลุงด่าวเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับการฉลองตรุษเต๊ตที่สมรภูมิเชียงขวาง ประเทศลาวในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐอเมริกา
ความทรงจำเกี่ยวกับตรุษเต๊ตที่สมรภูมิเชียงขวาง ประเทศลาวในช่วงสงครามต่อต้านสหรัฐ - ảnh 1คุณลุงด่าวกล่าวปราศรัยในพิธีปิดชั้นอบรมภาษาเวียดนามให้แก่นักศึกษาลาว
 เมื่อเสียงกริ่งประตูดังขึ้น คุณลุงด่าวได้เปิดประตู ทักทายและกล่าวอวยพรปีใหม่ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนาม 75ฤดูใบไม้ผลิที่ผ่านพ้นไปทำให้สีผมของคุณลุงด่าวเปลี่ยนเป็นสีขาวตามกาลเวลา แต่เขายังคงดูว่องไวแข็งแรง พร้อมบุคลิกที่สัมผัสได้ถึงความเป็นมิตรในแบบของทหารลุงโฮ ตอนนั่งดื่มชา เราได้สังเกตเห็นแผ่นปฏิทินเก่าที่มีรอยยับและแว่นตาที่วางบนโต๊ะ ซึ่งคุณลุงด่าวได้เล่าให้ฟังว่า นี่เป็นบันทึกเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เขาได้ฉลองตรุษเต๊ตกับเพื่อนร่วมรบที่สมรภูมิในช่วงปี 1966 – 1973

“ในปีแรกที่ฉลองตรุษเต๊ตที่สนามรบเชียงขวาง ประเทศลาว เราขาดแคลนทุกสิ่งทุกอย่าง รวมทั้งอาหาร โดยการขนส่งอาหารประสบความยากลำบากเนื่องจากต้องขนส่งผ่านภูเขาตายแหม่วที่สูงมากและถนนหมายเลข 7 ซึ่งต้องใช้เวลา 3วัน เราไม่มีขนมแบ๊งจึง หรือ ขนมข้าวต้มมัดใหญ่ทาน มีแต่ “มั้มแกม” ที่เค็มกว่าเกลือ  เรายังจับนกและกระรอกใช้เป็นอาหารด้วย นอกจากนี้ ผู้บัญชาการก็แจกบุหรี่ให้ 2 คนต่อ 1 ซอง ทั้งหน่วยทหารได้รับชา 1 ซองและยาสูบ 1 ซอง ซึ่งกว่าจะมาถึงมือเรากลิ่นก็หายไปหมดแล้ว แต่ถึงกระนั้น เราก็รู้สึกมีความสุขมาก”

นั่นคือความทรงจำเกี่ยวกับการฉลองตรุษเต๊ตปี 1966 ของคุณลุงด่าวและเพื่อนร่วมรบที่สมรภูมิ ซึ่งเป็นตรุษเต๊ตที่ไม่มีขนมแบ๊งจึง หรือ ขนมข้าวต้มมัดใหญ่ ซึ่งเป็นอาหารที่ขาดไม่ได้ในช่วงตรุษเต๊ตของคนเวียดนาม อีกทั้งไม่ได้ชุมนุมพร้อมหน้าพร้อมตากับสมาชิกในครอบครัว แต่สำหรับประชาชนเวียดนาม โดยเฉพาะทหารเวียดนามในช่วงนั้น ในใจได้คิดแต่เพียงเรื่องเดียวคือต้องทุ่มเทแรงกายแรงใจเพื่อทำการต่อสู้ปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดนของประเทศ ตรุษเต๊ตของเวียดนามตรงกับช่วงหน้าแล้งของประเทศลาวและในตอนนั้นก็เป็นช่วงที่เกิดการปะทะอย่างดุเดือดที่เสียงระเบิดดังสนั่นทำให้จนถึงทุกวันนี้เมื่อมีการยิงดอกไม้ไฟในเสี้ยววินาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ก็ทำให้คุณลุงด่าวคิดถึงตอนที่เครื่องบินบี52ทิ้งระเบิดถล่มหน่วยทหารเวียดนาม “ในช่วงตรุษเต๊ตปี 1968 ปี1969และปี1970 เครื่องบินบี52 ได้ทิ้งระเบิดถล่มจุดที่มั่นของทหารเวียดนาม โดยเมื่อปี1968 หน่วยทหารของเราต้องเคลื่อนทัพไปยังทุ่งไหหิน ทหารทุกนายต่างพร้อมสู้รบและได้เตรียมพร้อมทุกสิ่งทุกอย่างให้แก่การฉลองตรุษเต๊ต ก่อนเคลื่อนพลหลายสัปดาห์โดยได้ห่อขนมแบ๊งจึง มีบุหรี่ ชาและเหล้า แต่เครื่องบินบี52 ได้ทิ้งระเบิดในเสี้ยววินาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทำให้เพื่อนสหายบางคนเสียชีวิต”

เรื่องที่เล่านั้นทำให้คนฟังและผู้เล่าต่างรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก โดยเฉพาะเมื่อกล่าวถึงการเสียสละของเพื่อนร่วมรบจนบรรยากาศเงียบไปสักพักแล้วเขาได้เผยต่อไปว่า การฉลองตรุษเต๊ตที่สนามรบก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุขและอบอุ่นมาก โดยตั้งแต่ตรุษเต๊ตปี1967 เราได้มีขนมแบ๊งจึง โดยจิตใจแห่งความเชื่อมั่น ความสุขและความคล่องตัวของทหาร ความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่มาจากทหารของท้องถิ่นต่างๆของเวียดนามและการช่วยเหลือของประชาชนลาวในด้านเสบียงอาหารและวัตถุดิบต่างๆทั้งเนื้อหมู พริกไทย ข้าวเหนียวและน้ำปลา ล้วนสะท้อนให้เห็นอย่างสมบูรณ์ในขนมข้าวต้มมัดใหญ่ที่ทำโดยทหารในสมรภูมิ “ทหารเวียดนามห่อขนมแบ๊งจึงได้อย่างคล่องแคล่ว ต้มแบ๊งจึงด้วยเตาไฟหว่างเกิ่มเพื่อให้เกิดควันน้อยเพื่อความปลอดภัยของฐานทัพ นอกจากนี้ เรายังได้ตกแต่งค่ายทหารด้วยดอกท้อ แต่ในช่วงกลางคืน ต้องไม่จุดไฟ ตอนกินข้าวก็ไม่นั่งกินร่วมกันเพราะต้องแยกกันไปเข้าเวรตามจุดเพื่อรับมือการโจมตีของศัตรู”

คุณลุงด่าวบอกว่า ในการฉลองตรุษเต๊ตหลายครั้งที่สมรภูมิ ตรุษเต๊ตปีจอ 1970 ถือว่าน่าจดจำที่สุด โดยในเสี้ยววินาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทหารทุกนายในหน่วยได้นั่งล้อมรอบเครื่องรับวิทยุเพื่อฟังเสียงบันทึกบทกวีอวยพรตรุษเต๊ตครั้งสุดท้ายเมื่อปี 1969 ของประธานโฮจิมินห์ผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งเป็นการสร้างแรงจูงใจและปลูกเร้าความรักชาติ จิตใจแห่งการต่อสู้อย่างทรหดกล้าหาญและความเชื่อมั่นในชัยชนะของการปฏิวัติและสิ่งนี้ได้นำไปสู่ฤดูใบไม้ผลิแห่งความสุข ตรุษเต๊ตที่อิ่มหนำและประเทศเวียดนามที่เจริญรุ่งเรืองในปัจจุบัน

“การได้ฟังเสียงบันทึกของประธานโฮจิมินห์ที่อ่านบทกวีอวยพรตรุษเต๊ตผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามในเสี้ยววินาทีส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่นั้นทำให้บรรยากาศมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ทำให้เรารู้สึกซาบซึ้งใจและมีความเชื่อมั่นต่อชัยชนะของการต่อสู้เพื่อกู้ชาติ ซึ่งนี่มิใช่สิ่งที่อยู่ไกลเอื้อม แม้กำลังปฏิบัติหน้าที่กลางป่าลึก แต่เมื่อฤดูใบไม้ผลิได้เวียนมาในทุกบ้านและทุกครอบครัว เราก็รู้สึกเหมือนได้อยู่ในบ้านเกิดและทุกคนต่างรักใคร่สามัคคีกัน นี่เป็นช่วงเวลาที่มีค่ามากสำหรับเรา”

อำลาคุณลุงด่าวกับเรื่องราวที่น่าจดจำของทหารอาสาคนหนึ่งที่เคยรับหน้าที่ระหว่างประเทศ แต่เราก็เข้าใจดีว่า ภาพของเหล่าทหารที่นั่งล้อมรอบเครื่องวิทยุเพื่อฟังบทกวีอวยพรตรุษเต๊ตผ่านทางสถานีวิทยุเวียดนามแล้วร่วมดื่มเหล้าจากชามใบเดียวกัน และกล่าวอวยพรกันให้มีสุขภาพแข็งแรงและปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดีในตรุษเต๊ตที่สมรภูมิเชียงขวาง ประเทศลาวนั้นจะยังคงเป็นความทรงจำที่คุณลุงด่าวจดจำอย่างไม่เสื่อมคลาย.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด