นาย อุทัย ศรีสะแหวน

เมื่อสังเกตจากความคล่องแคล่ว ความแข็งแรงและน้ำเสียงที่มีพลังของนาย อุทัย ศรีสะแหวน ผู้จัดรายการวันพฤหัสบดี ความยาว 30 นาทีของสถานีวิทยุแห่งชาติลาว ไม่มีใครคิดว่า เขามีอายุกว่า 80ปีแล้ว เขาเล่าว่าเมื่อหลายสิบปีก่อน เขาเคยเป็นผู้จัดรายการวิทยุของลาวที่ถ้ำหินในป่าเขา ยอกวาน จังหวัดนิงบิ่ง โดยในตอนที่เขากำลังศึกษาในจังหวัดท้ายเงวียน เขาและเพื่อนอีก 3 คนได้รับคำสั่งของท่าน คำไต สีพันดอน ให้เดินทางไปยังกรุงฮานอยเพื่อเข้าร่วมการจัดตั้งทีมงานของวิทยุประเทศลาวสาขาเวียดนามเพื่อสนับสนุนการต่อสู้ของแนวลาวรักชาติ สำหรับนาย อุทัย ศรีสะแหวน ช่วงเวลาฝึกงานที่สถานีวิทยุเวียดนาม แล้วทำงานในสำนักงานสาขาของสถานีวิทยุประเทศลาว คือหน่วยวิทยุ B1 ที่จังหวัดนิงบิ่งเป็นความทรงจำที่ไม่อาจลืมเลือนเกี่ยวกับผู้บริหาร นักข่าวและช่างเทคนิคของสถานีวิทยุเวียดนาม รวมถึงเพื่อนๆชาวเวียดนาม

“ผมได้รู้จักนาย หงิและนาย ลิงจากสถานีวิทยุเวียดนาม นายโห่ย นายเถี่ยวที่ประสานงานกับหน่วยวิทยุ B1 รวมถึงพยาบาลและพนักงานบริษัท Teletip ซึ่งความร่วมมือและความสามัคคีระหว่างเวียดนามกับลาวมีความแน่นแฟ้นเป็นอย่างยิ่ง”

ในช่วงปลายปี 1960 สหรัฐได้แสดงความทะเยอทะยานในการควบคุมคาบสมุทรอินโดจีน พรรคประชาชนปฏิวัติลาวได้มีคำสั่งให้จัดตั้งสถานีวิทยุเพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจการต่อสู้ของประชาชนลาว โดยเมื่อวันที่ 13 สิงหาคมปี 1960 สถานีวิทยุประเทศลาวได้รับการจัดตั้งที่เขตปลดปล่อยภาคเหนือของลาว ซึ่งเพื่อรับมือกับการโจมตีทางอากาศของกองทัพสหรัฐและธำรงการออกอากาศรายการวิทยุ เมื่อปี 1965 สถานีวิทยุประเทศลาวได้แบ่งเป็นสองส่วนงานโดยไปจัดตั้งหน่วยวิทยุ B1 ที่ เขตด๊งดา กรุงฮานอยประเทศเวียดนามเพื่อผลิตและออกอากาศรายการเกี่ยวกับประเทศลาว ส่วนเจ้าหน้าที่นักข่าวในประเทศลาวรับหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากสมรภูมิต่างๆเพื่อส่งไปให้หน่วยวิทยุ B1จัดรายการวิทยุและถึงเดือนพฤษภาคมปี 1966 สถานีวิทยุประเทศลาวได้เริ่มออกอากาศรายการข่าวเป็นภาษาเวียดนามเพื่อตอบสนองความต้องการดังกล่าว อีกทั้งช่วยให้ประชาชนเวียดนามมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการต่อสู้ของประชาชนลาว

เนื่องด้วยสามารถเขียนบทความที่ดีและสามารถพูดภาษาเวียดนามได้อย่างคล่องแคล่วทำให้นาย คำไฟ ศุุภวงไต ได้รับเลือกเป็นผู้ประกาศข่าวรายการวิทยุภาคภาษาเวียดนามของสถานีวิทยุประเทศลาว โดยนาย คำไฟ ศุุภวงไต ได้เผยว่า ถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของสถานีวิทยุเวียดนามทั้งในช่วงที่สถานีวิทยุประเทศลาวตั้งอยู่ที่เขตด๊งดา กรุงฮานอยและในช่วงที่ย้ายไปยังจังหวัดนิงบิ่ง การปฏิบัติหน้าที่ทการปฏิวัติลาวได้มอบหมายให้จะถือว่าเป็นสิ่งที่ยากมาก

“ผู้เชี่ยวชาญเวียดนามได้ช่วยเหลือพวกเราในชีวิตประจำวันและการดำเนินงานของสถานีวิทยุประเทศลาวที่ขาดแคลนบุคลากร ซึ่งถ้าหากไม่ได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของสถานีวิทยุเวียดนาม พวกเราก็ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดีได้”

แม้จะปฏิบัติหน้าที่ผู้ประกาศข่าวรายการวิทยุกองทัพภาคภาษาลาว แต่นาง คำภาพ แก้วมนตรี ก็พร้อมช่วยเหลือรายการวิทยุภาคภาษาเวียดนาม โดยความทรงจำที่เธอไม่อาจลืมเลือนในช่วงที่ทำงานในหน่วยวิทยุ B1ที่ ยอกวาน จังหวัดนิงบิ่คือการได้รับความช่วยเหลือจากท่าน เจิ่นเลิม หัวหน้าคณะกรรมการวิทยุและโทรทัศน์เวียดนามและการได้รับหน้าที่อ่านคำไว้อาลัยประธานโฮจิมินห์ของคณะกรรมการกลางพรรคประชาชนปฏิวัติลาวและเลขาธิการใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์เวียดนาม เลหยวน

“ดิฉันรู้สึกเป็นเกียรติและดีใจเป็นอย่างมากที่มีส่วนร่วมให้กำลังใจทหารและประชาชนลาวในช่วงสงครามที่ดุเดือด เมื่อประธานโฮจิมินห์ได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ เจ้าหน้าที่ทหารทุกนายรู้สึกเสียใจเหมือนเป็นการสูญเสียพ่อแม่ของตนเองจนกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ การได้อ่านคำไว้อาลัยประธานโฮจิมินห์ทั้งเป็นภาษาลาวและภาษาเวียดนามทำให้ดิฉันรู้สึกตื้นตันใจจนบอกไม่ถูก”

นาย คำไฟ ศุุภวงไต

ทั้งนี้ ความช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของสถานีวิทยุเวียดนามทำให้เจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของหน่วยวิทยุ B1 ยกระดับทักษะทางวิชาชีพจนสามารถดำเนินรายการต่างๆของหน่วยวิทยุ B1 ในช่วงที่ย้ายมายังเมืองซำเหนือเมื่อปี 1974 และปฏิบัติหน้าที่สื่อสารและประชาสัมพันธ์การสร้างสรรค์ทางการปกครองการปฏิวัติของสถานีวิทยุเวียงจันทน์หลังจากที่ประเทศลาวได้รับการปลดปล่อยเมื่อปี 1975

60ปีได้ผ่านพ้นไป เจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของหน่วยวิทยุ B1 ส่วนใหญ่มีอายุมากแล้ว แต่ความทรงจำเกี่ยวกับช่วงที่จัดรายการวิทยุในประเทศเวียดนามเป็นสิ่งที่ไม่อาจลืมเลือน โดยทุกคนหวังว่า จะมีโอกาสเดินทางไปเยือนประเทศเวียดนามอีกครั้งเพื่อไปเยี่ยมเจ้าหน้าที่ นักข่าวและช่างเทคนิคของสถานีวิทยุเวียดนามที่เคยช่วยเหลือพวกเขาในการปฏิบัติหน้าที่ที่พรรคและประชาชนลาวได้มอบหมายเพื่อมีส่วนร่วมต่อชัยชนะของภารกิจการต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติเวียดนามและลาว.