ความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เวียดนาม-ลาว นับวันมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

(VOVWORLD) - ในตลอดกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ เศรษฐกิจถือเป็นหนึ่งในด้านที่ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 10 ต่อปีตั้งแต่ช่วงเริ่มการปฏิบัติสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมืออย่างรอบด้านเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1977
 ท่านผู้ฟังค่ะ

หลังจากได้มีการลงนามในสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมืออย่างรอบด้านเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม 1977 เวียดนามและลาวได้มุ่งเข้าสู่ยุคใหม่แห่งประวัติศาสตร์ความสัมพันธ์ของทั้งสองประเทศ โดยในช่วงเวลานั้น แม้สถานการณ์ในภาพรวมยังไม่มีความมั่นคงและความแข็งแกร่งเพียงพอ และเผชิญอุปสรรคในด้านเศรษฐกิจมากมาย แต่เวียดนามยังคงส่งคณะผู้เชี่ยวชาญหลายกลุ่มไปให้ความช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้านอย่างสปป.ลาว เพื่อค้ำประกันเสถียรภาพและความมั่นคงให้กับประชาชนในชีวิตประจำวัน ฟื้นฟูภาคการผลิต และพัฒนาเศรษฐกิจ เป็นต้น จนถึงปัจจุบัน ทั้งสองประเทศได้บรรลุผลสำเร็จมากมายในหลายด้าน โดยเฉพาะในด้านเศรษฐกิจ

ในตลอดกระบวนการสร้างสรรค์และพัฒนาประเทศ เศรษฐกิจถือเป็นหนึ่งในด้านที่ทั้งสองฝ่ายได้ให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆ โดยทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนด้วยอัตราการขยายตัวมากกว่าร้อยละ 10 ต่อปีตั้งแต่ช่วงเริ่มการปฏิบัติสนธิสัญญาดังกล่าว ซึ่งรัฐบาลทั้งสองประเทศได้มีการลงนามข้อตกลงเชิงยุทธศาสตร์อย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพสูงหลายฉบับ รวมถึงข้อตกลงการค้าทวิภาคีเวียดนาม-ลาว เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2015 และข้อตกลงการค้าชายแดนเวียดนาม-ลาว เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2015 นาย คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว ได้เผยว่า

“ข้อตกลงการค้าชายแดนและข้อตกลงการค้าทวิภาคีเวียดนาม-ลาว ได้มีส่วนช่วยที่สำคัญต่อการบรรลุเป้าหมายความร่วมมือที่ครอบคลุมระหว่างทั้งสองประเทศ โดยเฉพาะเป้าหมายความร่วมมือด้านเศรษฐกิจที่รัฐบาลทั้งสองฝ่ายได้วางไว้ในการประชุมคณะกรรมการร่วมมือทวิภาคีครั้งที่ 44 ที่มีขึ้นในกรุงฮานอย เมื่อวันที่ 10 มกราคม 2022 ซึ่งมีระเบียบวาระการประชุมเกี่ยวกับความร่วมมือระยะปี 2021-2025 พร้อมกลยุทธ์ความร่วมมือระยะปี 2021-2030 ของรัฐบาลทั้งสองประเทศ”

ความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ เวียดนาม-ลาว นับวันมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดด - ảnh 1นาย คำแพง ไซสมแพง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว 

ข้อตกลง 2 ฉบับดังกล่าวถือเป็นเครื่องมือในการปฏิบัติตามความคาดหมายของทั้งสองรัฐบาลอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่กลุ่มผู้ประกอบการทั้งสองประเทศในการเข้าถึงสิทธิพิเศษทางภาษีลดลงเหลือ 0 ถึงร้อยละ 50 ให้กับรายการสินค้าร้อยละ 95 ยิ่งไปกว่านั้น บรรดาผู้ประกอบการจะได้รับการลดหย่อนภาษีนำเข้าสำหรับสินค้าที่ผลิตในเวียดนามและลาว ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มและมาตรการกีดกันทางด้านเทคนิคต่างๆ สำหรับสินค้าที่ผลิตในพื้นที่จังหวัดชายแดนของลาวโดยกลุ่มนักลงทุนเวียดนามเมื่อนำเข้ากลับไปเวียดนาม อำนวยความสะดวกมากขึ้นให้แก่กิจกรรมการค้าของผู้ประกอบการทั้งสองประเทศในบริเวณเขตแดน เป็นต้น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว คำแพง ไซสมแพง เผยต่อไปว่า

“จังหวัดต่างๆ ในบริเวณเขตแดนของลาวและเวียดนามได้ใช้ประโยชน์จากข้อตกลงการค้าชายแดนเวียดนาม-ลาว อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้น นี่จึงช่วยส่งเสริมการค้าระหว่างประชาชนและผู้ประกอบการในเขตพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งได้แสดงให้เห็นว่า การปฏิบัติข้อตกลงนั้นได้มีส่วนช่วยทำให้มูลค่าการค้าทวิภาคีมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมั่นคงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ ภายหลังการลงนามและปฏิบัติข้อตกลงด้านเศรษฐกิจหลายฉบับได้กระตุ้นการลงทุนของผู้ประกอบการระหว่างทั้งสองประเทศ ปัจจุบัน เวียดนามอยู่อันดับที่ 3 จาก 54 ประเทศและดินแดนที่มีการลงทุนในลาว ด้วยจำนวนโครงการกว่า 417 โครงการจากผู้ประกอบการทั้งหมด 1,272 ราย พร้อมทุนจดทะเบียนสูงถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งในนั้น มีหลายโครงการได้เริ่มดำเนินกิจการแล้วและมีส่วนร่วมต่อการพัฒนาเศรษฐกิจ-สังคม สร้างรายได้ให้กับแรงงานท้องถิ่นจำนวนหลายหมื่นคน นอกจากนี้ กลุ่มผู้ประกอบการเวียดนามยังให้ความสำคัญต่อการจัดทำโครงการสนับสนุนเพื่อยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนลาว เช่น โรงเรียน โรงพยาบาล หรือระบบชลประทาน เป็นต้น นาย คำจัน วงโพสี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวางแผนและการลงทุนลาว เผยว่า

“เมื่อต้นปี 2022 นี้ ทั้งสองฝ่ายได้เห็นพ้องในการประเมินและวิเคราะห์โอกาสการลงทุนในประเทศลาวให้กับกลุ่มผู้ประกอบการเวียดนามจนถึงปี 2025 วิสัยทัศน์ถึงปี 2030 พร้อมผลักดันงานด้านการลงทุนต่างๆ ที่ได้รับความสนใจจากเหล่าผู้ประกอบการเวียดนามที่มีศักยภาพด้านการเงินและความรู้ความสามารถ ส่งเสริมการลงทุนด้านการเกษตรอินทรีย์ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป ซึ่งเป็นด้านที่มีศักยภาพสูงตามแนวชายแดนลาว-เวียดนาม อีกทั้งมีการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ให้กับผู้ประกอบการทั้งสองประเทศอย่างต่อเนื่อง”

ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญต่อข้อตกลงและนโยบายฉบับต่างๆ เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่บรรดาผู้ประกอบการทั้งสองประเทศเท่านั้น แต่รัฐบาลทั้งสองยังได้มีการจัดการประชุม สัมมนา และฟอรั่มทางวิชาการ ที่มีการเข้าร่วมของกลุ่มผู้ประกอบการเป็นประจำทุกปี โดยทุกคนต่างมีโอกาสได้หารือกันเกี่ยวกับอุปสรรคต่างๆ ที่ตนเองกำลังประสบปัญหา เพื่อให้รัฐบาลทั้งสองประเทศช่วยหาทางออกได้อย่างทันท่วงที

จนถึงไตรมาสแรกของปี 2022 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างเวียดนามกับลาวได้บรรลุกว่า 403 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 19.2 เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งกลุ่มสินค้าส่งออกของเวียดนามไปยังลาวที่มีอัตราการขยายตัวมากที่สุดคือ ปุ๋ย น้ำมัน สายไฟฟ้า เหล็ก เป็นต้น ในการให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนเนื่องในโอกาสปีสามัคคีมิตรภาพเวียดนาม–ลาว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าลาว คำแพง ไซสมแพง กล่าว่า

“แม้ทั้งสองประเทศต้องประสบอุปสรรคมากมายในหลายด้าน โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 ในปี 2021 แต่รัฐบาลทั้งสองประเทศมีการแก้ไขปัญหาต่างๆ ในด้านเศรษฐกิจและสังคมได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ค้ำประกันความปลอดภัยในงานด้านการป้องกันและควบคุมโรคโควิด-19 พร้อมรักษาอัตราการขยายตัวของมูลค่าการค้า ดังนั้น จึงทำให้มูลค่าการค้าต่างตอบแทนระหว่างทั้งสองประเทศในปีนั้นบรรลุกว่า 1.37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้นร้อยละ 33.32 เมื่อเทียบกับช่วงปี 2020 ซึ่งถือเป็นตัวเลขสูงสุดในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา”

ทั้งนี้ เวียดนามและลาวได้ประสบผลสำเร็จมากมายที่น่าประทับใจในด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งตอบสนองความต้องการขั้นพื้นฐานที่ทั้งสองพรรค รัฐ และรัฐบาลได้วางไว้ โดยแน่นอนว่า ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับลาวยังคงมีการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดในอนาคต ด้วยศักยภาพที่มีอยู่ พร้อมสัมพันธไมตรีที่ยิ่งใหญ่ ความสามัคคีพิเศษ และความร่วมมืออย่างรอบด้าน.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด