นักข่าวชาวเขมร แยงแจงดา ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ

(VOVWORLD) - คุณ แยงแจงดา ชาวชนชนเผ่าเขมรอายุ 34 ปีเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจน ในตำบลด่าวเติม อำเภอหมีเซวียน จังหวัดซอกจัง โดยได้พยายามฟันฝ่าอุปสรรคจนเรียนจบจากมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์นครโฮจิมินห์ ต่อมา ได้สมัครเข้าทำงานที่สำนักข่าวเวียดนาม ซึ่งนักข่าวแยงแจงดาไม่เพียงแต่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่างๆอย่างลุล่วงไปด้วยดีเท่านั้น หากยังเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักข่าวอื่นๆปฏิบัติตามอีกด้วย
นักข่าวชาวเขมร แยงแจงดา ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ - ảnh 1คุณ แยงแจงดา รายงานข่าวที่สำนักรัฐบาลกัมูชา
 
 

คุณ แยงแจงดา เกิดและเติบโตในตำบลด่ายเติมที่มีชนเผ่าเขมรมากถึงร้อยละ 85 ตอนเป็นเด็ก คุณ แยงแจงดา ต้องช่วยพ่อแม่ทำไร่ทำนาและรับจ้างทำงานต่าง ๆเพื่อหาเงินซื้อหนังสือตำราเรียน โดยเขาชอบเรียนวรรณกรรมเป็นอย่างมากและมีความฝันที่จะเป็นนักเขียน

เมื่อปี 2006 หลังเรียนจบม.ปลาย คุณแยงแจงดา สามารถสอบเข้าคณะวรรณกรรมของมหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์นครโฮจิมินห์ ซึ่งนอกจากเรียนที่มหาวิทยาลัยฯแล้ว คุณแยงแจงดาก็ยังทำงานเพื่อหารายได้ช่วยเหลือครอบครัว

หลังจากเรียนจบคุณแยงแจงดาได้สมัครเข้าทำงานที่สำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดซอกจัง โดยในช่วงแรก ก็ประสบความยากลำบากในการทำงาน แต่ด้วยความพยายามและการช่วยเหลือจากหัวหน้าสำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดซอกจังก็ช่วยให้คุณแยงแจงดาสามารถพัฒนาทักษะความสามาถและเป็นฝ่ายรุกในการรวบรวมข้อมูล วิเคราะห์และประเมินเหตุการณ์ต่างๆเพื่อรายงานข่าวอย่างถูกต้อง และด้วยความพยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเองก็ทำให้ในเวลาต่อมาคุณแยงแจงดาได้กลายเป็นหนึ่งในนักข่าวยอดเยี่ยมของสำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดซอกจังและทำให้เขาได้รับรางวัลสูงๆในการประกวดรางวัลหนังสือพิมพ์ของสำนักข่าวเวียดนาม โดยเมื่อปี 2018 คุณ แยงแจงดา ได้รับรางวัลเกรดเอจากการประกวดรางวัลการสื่อสารต่างประเทศและรางวัลเกรดบีจากการประกวดรางวัลหนังสือพิมพ์ทั่วประเทศจากผลงาน “การเสียสละเพื่อฟื้นฟูประเทศเพื่อนบ้าน” นาย เจิ่นหงอกเถี่ยน หัวหน้าสำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนามสาขานครเกิ่นเทอและเลขาธิการพรรคสาขาสำนักข่าวเวียดนามเขตแม่น้ำเหาตอนล่างได้เผยว่า หลังจากเข้าทำงานที่สำนักข่าวเวียดนาม นักข่าวแยงแจงดาได้ปฏิบัติทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดี“คุณแยงแจงดาคือหนึ่งในนักข่าวชาวเขมรไม่กี่คนที่มีคุณสมบัติที่ดี มีระเบียบวินัย เป็นสมาชิกพรรครุ่นใหม่ที่ปฏิบัติทุกหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดี โดยเฉพาะในช่วงที่ทำงานในประเทศกัมพูชา ได้รายงานข่าวทั้งรูปแบบโทรทัศน์ เขียนข่าวและถ่ายภาพได้อย่างดีเยี่ยม”

ในการทำงานในสำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดซอกจังในตลอด 6 ปี คุณแยงแจงดาได้รับหน้าที่ไปเป็นผู้สื่อข่าวสำนักข่าวเวียดนาม ณ กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา เป็นเวลา 3ปี นี่เป็นช่วงที่กัมพูชาได้จัดกิจกรรมที่สำคัญๆ เช่น การเลือกตั้งรัฐสภา สภาประชาชนระดับท้องถิ่น รวมทั้งการประชุมและการสัมมนาระดับภูมิภาคและโลก ซึ่งสำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนาม ณ กรุงพนมเปญได้รายงานข่าวเกี่ยวกับกิจกรรมดังกล่าว รวมถึงการเยือนกัมพูชาของผู้นำพรรค รัฐ สภาแห่งชาติเวียดนาม กิจกรรมต่างๆของกระทรวง หน่วยงานและสถานทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาอย่างทันการณ์ มีส่วนร่วมที่เข้มแข็งในการสร้างสรรค์และพัฒนาสัมพันธไมตรี ความสามัคคี ความร่วมมือและการพัฒนาระยะยาวระหว่างเวียดนามกับกัมพูชา

ด้วยผลงานต่างๆในการทำงาน ก่อนเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในประเทศกัมพูชาเมื่อปี 2017 คุณแยงแจงดาได้รับมอบเหรียญอิสริยาภรณ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐบาลกัมพูชาในโอกาสรำลึกครบรอบ 50ปีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างสองประเทศ ซึ่งตรงกับวันที่ 24 มิถุนายน

นักข่าวชาวเขมร แยงแจงดา ได้รับเหรียญอิสริยาภรณ์มิตรภาพและความร่วมมือระหว่างประเทศ - ảnh 2คุณ แยงแจงดา กำลังทำข่าวที่จังหวัดซอกจัง

หลังจากเสร็จสิ้นการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในประเทศกัมพูชา คุณแยงแจงดาได้กลับมาทำงานที่สำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดซอกจังเพื่อรายงานข่าวเศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคมของพรรคสาขา ทางการปกครองและประชาชนในท้องถิ่น

จากผลงานต่างๆที่ได้บรรลุ ในต้นปี 2021 คุณแยงแจงดาได้รับมอบหมายหน้าที่เป็นหัวหน้าสำนักงานตัวแทนสำนักข่าวเวียดนามสาขาจังหวัดบากเลียว คุณแยงแจงดาเผยว่า“ในฐานะเป็นนักข่าว ต้องปฏิบัติหน้าที่ต่างๆที่ได้รับมอบหมายให้ลุล่วงไปด้วยดีและต้องพยายามฝึกฝนหล่อหลอมตนเองเพื่อยกระดับทักษะทางวิชาชีพ พยายามปฏิบัติหน้าที่ใหม่อย่างลุล่วงไปด้วยดี”

นอกจากพยายามปฏิบัติหน้าที่ต่างๆที่ได้รับมอบหมายอย่างลุล่วงไปด้วยดี คุณแยงแจงดายังพร้อมช่วยเหลือนักข่าวมือใหม่ โดยได้รับความชื่มชมจากเพื่อนร่วมงานและเป็นตัวอย่างที่ดีให้นักข่าวคนอื่นๆปฏิบัติตาม.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด