(VOVworld) –  การดำน้ำ ชมปะการัง เยือนหมู่บ้านวัฒนธรรมมารี มารี และพิชิดภูเขาคินาบาลูที่สูง๔.๐๙๕เมตรซึ่งเป็นภูเขาที่ได้ชื่อว่า เป็นชายคาของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสเมื่อมาเยือนนครคินาบาลูทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะบอร์เนียวเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับ๓ของโลก ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียไปทางทิศตะวันออก๑,๖๒๗กิโลเมตรซึ่งเป็นสถานที่ที่ไม่ควรพลาดในการเยือนมาเลเซียในฤดูร้อนนี้

ภูเขาโกตาคินาบาลู(Photo:Vietnam+ )

จากกรุงเทพหรือกรุงจาการ์ต้า นักท่องเที่ยวสามารถบินตรงไปยังเมืองคินาบาลู ส่วนนักท่องเที่ยวจากประเทศอาเซียนอื่นๆต้องแวะพักที่กรุงกัวลาลัมเปอร์๑คืน แล้วต่อเครื่องบินไปยังคินาบาลูโดยใช้เวลาบิน๒ชั่วโมง๓๐นาที คินาบาลูมีพื้นที่๓๕๑ตารางเมตรหรือมีขนาด๒ใน๓ของกรุงกัวลาลัมเปอร์ มีทะเล ภูเขา ต้นไม้ และหาดทรายที่ขาวสะอาดทอดยาว คุณเจืองหงอกแอง นักท่องเที่ยวชาวเวียดนามที่เพิ่งกลับจากการเยือนคินาบาลูกล่าวว่า“ดิฉันคิดว่า ทะเลที่นี่สวยน้อยกว่าทะเลของฟิลิปปินส์แต่มีแนวปะการังและปลาเยอะกว่ามาก  นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำพร้อมกับปลาได้และไม่ต้องไปไกลก็เห็นปลาแล้วโดย ปลาจะว่ายรอบๆตัวเรา นี่เป็นจุดเด่นของเขตทะเลนี้”

ทะเลที่นี่มีปลาเยอะมาก นักท่องเที่ยวสามารถว่ายน้ำพร้อมกับปลาได้

            นักท่องเที่ยวบอกกันว่า ถ้ามาที่นี่แต่ไม่แวะเยือนอุทยานแห่งชาติทางทะเลTunku Abdul Rahman ก็หมายความว่า ยังมาไม่ถึงเมืองคินาบาลู การมาที่นี่ เราสามารถใช้บริการสปี๊ดโบ๊ทที่ใช้เวลาประมาณ๒๐นาที ที่นี่มีเกาะ๕แห่ง มีปะการังและสิ่งที่มีชีวิตใต้ทะเลที่หลากหลายและมีน้ำทะเลที่ใสจนนักท่องเที่ยวสามารถมองเห็นฝูงปลาว่ายน้ำและแนวปะการังได้จากบนเรือ เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ ดำน้ำชมปะการัง เดินทอดน่องบนชายหาด หรือใช้บริการเดินใต้ทะเลSea Walkings คุณเลมินห์ นักท่องเที่ยวเวียดนามที่ใช้บริการSea Walkings เผยว่า“ผมใส่หมวกที่ทั้งใหญ่และหนัก ที่ติดระบบออกซิเจนเดินลงทะเลลึกประมาณ๕เมตร มือสามารถสัมผัสกับปลาที่กำลังว่ายน้ำได้และรู้สึกว่า ถูกปลากัดด้วย น่ากลัวไปหน่อย ผมรู้สึกชอบใจมาก”           

เมื่อมาที่นี่ นักท่องเที่ยวสามารถใช้บริการเดินใต้ทะเลSea Walkings

ก่อนที่โผล่ขึ้นมาบนผิวน้ำ นักดำน้ำจะมอบปะการัง สาหร่ายทะเลและปลา๕สีให้แก่นักท่องเที่ยวเป็นที่ระลึก

            อีกจุดท่องเที่ยวที่น่าสนใจในคินาบาลูที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดไปเยือนคือหมู่บ้านวัฒนธรรมมารี มารีที่อยู่ในเขตป่าที่เงียบสงบห่างจากเมืองคินาบาลูประมาณ๓๕กิโลเมตรโดยที่หมู่บ้านแห่งนี้จัดแสดงบ้านโบราณจำลองของชนเผ่าต่างๆที่อาศัยบนเกาะซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเดินชมบ้านเพื่อศึกษาชีวิตประจำวัน พิธีกรรมและขนบธรรมเนียมประเพณีของแต่ละชนเผ่า รวมทั้งชนเผ่าซาบาฮานที่ชอบเล่าเรื่องราวในอดีตอย่างมีชีวิตชีวา คุณเจืองหงอกแองกล่าวว่า“ในอดีตที่นี่มี๕ชนเผ่ากินคน แต่ปัจจุบัน ชีวิตของพวกเขาพัฒนาศิวิไลซ์มากขึ้น ที่นี่จะเล่าอดีตชีวิตประจำวันของชนเผ่าต่างๆไม่ว่าจะเป็นการล่าสัตว์ การก่อไฟและสร้างบ้านด้วยใยจากเปลือกต้นไม้”

หมู่บ้านวัฒนธรรมมารี มารี

            ที่เมืองคินาบาลูยังมีตลาดจำหน่ายสินค้าศิลปะหัตถกรรมของชาวฟิลิปปินส์อพยพทั้งของที่ระลึก Hand made และไข่มุก คุณซูลิน นักท่องเที่ยวชาวสาธารณรัฐเกาหลีกล่าวว่า“คนขายที่นี่มีอัธยาศัยดี ของที่ขายก็มีราคาย่อมเยาว์แต่ก็ต้องต่อราคาบ้าง  ที่นี่มีทั้งกำไลข้อมือและสร้อยไข่มุก ดิฉันกำลังซื้อกำไลข้อมือเป็นของที่ระลึกให้แก่สมาชิกในครอบครัว”

ดอกRafflessiaหรือดอกบัวผุดซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก(Photo:Vietnam+)

นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวที่ชอบความท้าทายยังอาจลองพิชิตภูเขาคินาบาลูที่สูง๔,๐๙๕เมตรซึ่งเป็นภูเขาที่สูงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ผ่านการซื้อแพ็คเกจทัวร์จากบริษัททัวร์พร้อมคำแนะนำจากมักคุเทศก์ที่มีประสบการณ์โดยที่ภูเขานี้เราจะได้ชื่นชมกับพืชพรรณและสัตว์นานาชนิด รวมทั้งดอกRafflessiaหรือดอกบัวผุดซึ่งเป็นดอกไม้ที่ใหญ่ที่สุดในโลก นักท่องเที่ยวหลายคนที่มาเยือนเมืองคินาบาลูต่างก็มีความประทับใจและความทรงจำที่งดงามทั้งธรรมชาติและวิถีชีวิตของคนท้องถิ่นซึ่งล้วนเป็นสิ่งที่ทำให้เมืองแห่งนี้มีเสน่ห์ที่ทำให้นักท่องเที่ยวอยากกลับมาเยือนอีก./.

 Minh Ngọc