ประชาสัมพันธ์มรดกภาคเหนือให้แก่บริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย

(VOVworld) – เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของอินโดนีเซีย 15 แห่ง เช่น Rex Tour Korea Indonesia Agency และ Cipta Tour & Travel เป็นต้น พร้อมสื่อมวลชนของอินโดนีเซียได้เดินทางมาเยือน 4 จังหวัดและนครในภาคเหนือเวียดนามเป็นเวลา 6 วัน 5 คืน ประกอบด้วย ฟู้เถาะ ซาปา ฮานอยและนิงบิ่ง นี่คือการเยือนที่อยู่ภายใต้โครงการศึกษาตลาดการท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า “มรดกภาคเหนือเวียดนาม-จุดหมายปลายทางใหม่ 2016-2017” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย โดยเฉพาะการแนะนำมรดกภาคเหนือเวียดนาม

(VOVworld) – เมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมา บริษัทนำเที่ยวชั้นนำของอินโดนีเซีย 15 แห่ง เช่น Rex Tour Korea Indonesia Agency และ Cipta Tour & Travel เป็นต้น พร้อมสื่อมวลชนของอินโดนีเซียได้เดินทางมาเยือน 4 จังหวัดและนครในภาคเหนือเวียดนามเป็นเวลา 6 วัน 5 คืน ประกอบด้วย ฟู้เถาะ ซาปา ฮานอยและนิงบิ่ง นี่คือการเยือนที่อยู่ภายใต้โครงการศึกษาตลาดการท่องเที่ยวที่มีชื่อว่า “มรดกภาคเหนือเวียดนาม-จุดหมายปลายทางใหม่ 2016-2017” ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมเพื่อผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย โดยเฉพาะการแนะนำมรดกภาคเหนือเวียดนาม

ประชาสัมพันธ์มรดกภาคเหนือให้แก่บริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย - ảnh 1
คณะผู้แทนของ Famtrip Indonesia (vtr.org.vn)

เมื่อเช้าวันที่ 21 ตุลาคม คณะผู้แทนของ Famtrip Indonesia ได้นั่งรถยนต์จากสนามบินนานาชาติโหน่ยบ่ายไปยังตำบลฮีเกือง เมืองเวียดจี่ จังหวัดฟู้เถาะ ผ่านทางด่วนโหน่ยบ่าย-ลาวกาย ซึ่งใช้เวลา 1 ชั่วโมง โดยคณะฯได้ไปเยือนและจุดธูปที่วิหารหุ่ง เยือนวิหารโบราณหุ่งโลและชมการร้องเพลงซวาน ที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาติจากองค์การยูเนสโก นาง เหงียน ฮวา เล ผู้อำนวยการศูนย์ประชาสัมพันธ์ส่งเสริมการท่องเที่ยวฟู้เถาะได้เผยว่า “โครงการ Famtrip ได้อำนวยความสะดวกให้สถานประกอบการนำเที่ยวสามารถเข้าถึงทรัพยากร ผลิตภัณฑ์และการบริการด้านการท่องเที่ยวของฟู้เถาะ รวมทั้งเห็นถึงจุดแข็งและเอกลักษณ์ของจุดหมายปลายทางเพื่อเชื่อมโยงทัวร์ที่มีความผูกพันกับจังหวัดฟู้เถาะ นี่คือโอกาสที่ดีเพื่อขยายความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่ใกล้ชิดและมีประสิทธิภาพมากขึ้นในเวลาที่จะถึงระหว่างจังหวัดฟู้เถาะกับท้องถิ่นต่างๆเพื่อผลักดันการท่องเที่ยวของจังหวัด”
หลังจากเดินทางออกจากจังหวัดฟู้เถาะ คณะ Famtrip Indonesia ได้เดินทางไปยังเมืองซาปา จังหวัดลาวกายในเขตเขาภาคเหนือเวียดนาม โดยบนเส้นทางไปยังหมู่บ้านลาวจ๋ายและต๋าวาน คณะได้สัมผัสกับความงามของนาขั้นบันได ซึ่งสร้างความประทับใจเป็นอย่างมากต่อคณะ และคณะยังมีโอกาสศึกษาวิธีชีวิตของชนเผ่าเย้าแดงและไย้ นาง Herlinah Djono ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารของบริษัทนำเที่ยว Pangsud ของอินโดนีเซียได้แสดงความเห็นว่า“พวกเราได้ศึกษาในสิ่งที่น่าประทับใจ โดยได้เดินชมหมู่บ้านต่างๆของซาปา พบปะกับชนเผ่าต่างๆที่ขายสินค้าศิลปะหัตถกรรมและนั่งกระเช้าขึ้นยอดเขาฟานซีปัง การเยือนได้ช่วยให้พวกเรามีความรู้มากขึ้นและปัจจุบัน พวกเราคิดว่า พวกเราไม่เพียงแต่ขายทัวร์ไปยังฮานอย ไซ่ง่อนและดานังให้แก่นักท่องเที่ยวเท่านั้น หากพวกเรายังมีจุดหมายปลายทางอื่นๆเพื่อขายให้แก่นักท่องเที่ยว เช่นซาปา”
ประชาสัมพันธ์มรดกภาคเหนือให้แก่บริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย - ảnh 2
คณะเยือนวิหารหุ่งโล (vtr.org.vn)

และเมื่อเดินทางกลับมาถึงกรุงฮานอย คณะได้นั่งรถสามล้อมเที่ยวรอบๆกรุงฮานอยและเยือนสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียง เช่นทะเลสาบคืนดาบ ถนนโบราณ 36 สาย และเดินทางไปเยือนจังหวัดนิงบิ่ง โดยคณะได้เข้าร่วมทัวร์เชิงนิเวศ ศาสนาและประวัติศาสตร์ผ่านการนั่งเรือเพื่อสัมผัสกับความงามของแหล่งทัศนียภาพ จ่างอาน ที่ได้รับการรับรองเป็นมรดกวัฒนธรรมและธรรมชาติของโลกปี 2010 ความสง่างามของภูเขาลำเลาได้สร้างความประทับใจเป็นอย่างมากต่อนักท่องเที่ยว นาย Baban Ganda Purnama นักข่าวของหนังสือพิมพ์ Detik.com สมาชิกของคณะฯได้เผยว่า“สถานที่ท่องเที่ยวทุกแห่งมีเอกลักษณ์เฉพาะ ในช่วงที่เดินทางไปทัวร์กับคณะ Famtrip Indo ผมได้พยายามบรรยายบรรยากาศของสถานที่ท่องเที่ยวและเขียนเป็นบทความสารคดี ภายในเวลา 3 วัน ผมได้เขียน 3 บทความเกี่ยวกับสาวร้องเพลงซวานที่วิหารหุ่ง เด็กๆของชนเผ่า ประสบการณ์นั่งกระเช้าขึ้นยอดเขาฟานซีปัง และยังมีหลายสิ่งหลายอย่างที่น่าสนใจที่ผมอยากเขียน”
ตามรายงานของทบวงการท่องเที่ยว ทุกปีมีนักท่องเที่ยวอินโดนีเซียประมาณ 8 หมื่นคนเดินทางมาเยือนเวียดนามและมีนักท่องเที่ยวเวียดนาม 5 หมื่นคนเดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย ซึ่งเปิดด้านร่วมมือที่มีประสิทธิภาพระหว่างสองประเทศ ผลักดันโอกาสการแลกเปลี่ยนระดับประชาชนและมีส่วนร่วมเข้าร่วมประชาคมอาเซียนอย่างเข้มแข็ง แต่จำนวนนักท่องเที่ยวในหลายปีที่ผ่านมายังไม่ทัดเทียมกับศักยภาพด้านการท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ นาย ห่าวันเซียว รองอธิบดีทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามได้เผยว่า“อินโดนีเซียเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดในอาเซียน ในหลายปีที่ผ่านมา การท่องเที่ยวและความร่วมมือระหว่างสองประเทศได้มีการเปลี่ยนแปลง ถึงแม้จำนวนนักท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศเดินทางมาเยือนระหว่างกันยังมีข้อจำกัด ดังนั้นรัฐบาลของทั้งสองประเทศ ตลอดจนทบวงการท่องเที่ยวต้องผลักดันกิจกรรมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวระหว่างสองประเทศให้มากขึ้น เช่นการจัดโครงการ Famtrip”

ประชาสัมพันธ์มรดกภาคเหนือให้แก่บริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย - ảnh 3
ตำบล ต๋าวาน ในเมืองซาปา เป็นจุดหมายปลายทางที่คณะมาเยือน (vtr.org.vn)

ในกรอบของโครงการยังมีการจัดการเสวนาด้านการท่องเที่ยวระหว่างบริษัทนำเที่ยวเวียดนามกับอินโดนีเซียโดยมีการเข้าร่วมของทบวงการท่องเที่ยวและสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามเพื่อแลกเปลี่ยนผลการศึกษาและแสวงหามาตรการผลักดันความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเวียดนาม-อินโดนีเซี
คาดว่าในเวลาที่จะถึง ทบวงการท่องเที่ยวเวียดนามจะประสานกับสายการบินและบริษัทนำเที่ยวต่างๆของอินโดนีเซียจัดทำจุดหมายปลายทางใหม่ในภาคเหนือและจัด Roadshow ที่อินโดนีเซียให้แก่บริษัทนำเที่ยวเวียดนามในเดือนธันวาคมนี้.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด