สถานทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาอยู่เคียงข้างพลเมืองเวียดนามและชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Văn Đỗ -  
(VOVWORLD) - ประเทศกัมพูชากำลังประสบความยากลำบากมากมายจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระลอกใหม่ที่เกิดขึ้นตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลกระทบในทางลบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนกัมพูชา รวมทั้งชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนาม เพื่อร่วมกับรัฐบาลกัมพูชาในการควบคุมการแพร่ระบาด ทางสถานทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาได้ผลักดันการช่วยเหลือ รวมทั้งแนะนำการปฏิบัติระเบียบการต่างๆและประชาสัมพันธ์ให้พลเมืองเวียดนามและชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามปฏิบัติมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของรัฐบาลกัมพูชาอย่างเคร่งครัด สำหรับประเด็นนี้ นักข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์นาย หวูกวางมิง เอกอัครราชทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชา ในรายการชายคาอาเซียนวันนี้ ขอเชิญท่านฟังสาระสำคัญในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว
เอกอัครราชทูตหวูกวางมิงพบปะกับชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามในจังหวัดกำปงชนัง |
หลังจากพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อต้นปี 2020จนถึงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กัมพูชาได้ประสบความสำเร็จในการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นหนึ่งในไม่กี่ประเทศที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อต่ำที่สุดและไม่มีผู้เสียชีวิต แต่การแพร่ระบาดระลอกใหม่ตั้งแต่วันที่ 20 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งตรวจพบเชื้อโรคโควิด-19 กลายพันธุ์ที่ระบาดอย่างรวดเร็วเป็นวงกว้าง ซึ่งทำให้รัฐบาลกัมพูชาต้องประกาศใช้มาตรการต่างๆอย่างเคร่งครัดเป็นครั้งแรก เช่น ทำการล็อกดาวน์กรุงพนมเปญและเมืองตาคเมา ประกาศให้บางเขตของเมืองหลวงเป็นพื้นที่สีแดง และห้ามประชาชนออกจากบ้านหากไม่จำเป็น
จนถึงขณะนี้ กัมพูชามีผู้ติดเชื้อสะสมกว่า 18,179 รายและมีผู้เสียชีวิต 114 ราย โดยในช่วง 1เดือนที่ผ่านมา ได้พบผู้ติดเชื้อรายใหม่ 4,700 ราย เอกอัครราชทูตหวูกวางมิงได้เผยว่า“สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือมีผู้ติดเชื้อที่เป็นพนักงานจากโรงงานทอผ้า บริษัทตัดเย็บเสื้อผ้า รองเท้า พ่อค้าแม่ค้าในตลาดต่างๆในกรุงพนมเปญและจังหวัดต่างๆ รวมถึงชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามและพลเมืองเวียดนามที่มาเที่ยวและทำงานในกัมพูชาประมาณกว่า 100ราย ส่วนท้องถิ่นที่มีชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามอาศัยเป็นจำนวนมาก รวม 8 หมื่นคน เช่น จังหวัดกันดาล จังหวัดสวายเรียง จังหวัดพระสีหนุและกรุงพนมเปญ ก็เป็นท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาด”
ในสภาวการณ์ดังกล่าว สถานทูตเวียดนาม ณ กรุงพนมเปญได้ประชาสัมพันธ์และแนะนำให้ประชาชนยกระดับความรู้และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรับมือการแพร่ระบาดของทางการท้องถิ่น เฝ้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดเพื่อสนับสนุนอาหารให้แก่ประชาชนและรณรงค์ให้ประชาชนไม่ออกนอกพื้นที่หรือลักลอบเข้าประเทศเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย เอกอัครราชทูตหวูกวางมิง ได้เผยว่า“ในเวลาที่ผ่านมา สถานทูตและสถานกงสุลใหญ่เวียดนาม ที่ จังหวัดสีหนุวิลล์และจังหวัดพระตะบองได้ประสานงานกับสมาคมกัมพูชา-เวียดนามและสมาคมฯสาขาต่างๆในการช่วยเหลือชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามที่ประสบผลกระทบจากการแพร่ระบาดผ่านการขอสนับสนุนการช่วยเหลือและการสนับสนุนเงิน สิ่งของที่จำเป็น อุปกรณ์การแพทย์จากหน่วยงาน องค์กร สถานประกอบการ ท้องถิ่นและผู้มีใจกุศลทั้งในเวียดนามและกัมพูชา”
สถานทูตเวียดนามประจำประเทศกัมพูชาช่วยเหลือนักศึกษาเวียดนามในกัมพูชา |
ส่วนรัฐบาลกัมพูชากำลังพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อควบคุมการแพร่ระบาด โดยได้ทำการฉีดวัคซีนให้แก่ประชาชนไปแล้วกว่า 1 ล้านโดสจากจำนวนประชากร 16ล้านคน ซึ่งทำให้กัมพูชาเป็นหนึ่งในประเทศที่มีอัตราผู้ที่ได้รับวัคซีนป้องกันโรคโควิด -19สูงที่สุดในโลก สำหรับมาตรการช่วยเหลือชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของทางการท้องถิ่น เอกอัครราชทูตหวูกวางมิงได้เผยว่า“ทางการกัมพูชาได้อนุญาตให้ชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามในกว่า 10จังหวัดและนครลงทะเบียนฉีดวัคซีน โดยจังหวัดกันดาลได้ทำการฉีดวัคซีนครั้งแรกให้แก่ชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามเกือบ 200คนที่ตำบล Xam Pau Pun ปัจจุบัน ทางการท้องถิ่นกำลังมีกิจกรรมช่วยเหลือด้านอาหารให้แก่ผู้ที่มีฐานะยากจน สำหรับพลเมืองเวียดนามและชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามต้องปฏิบัติมาตรการล็อกดาวน์อย่างเคร่งครัด ไม่เดินทางออกนอกบ้านถ้าหากไม่จำเป็น ไม่ลักลอบเข้าประเทศเวียดนามอย่างผิดกฎหมาย”
ทั้งนี้และทั้งนั้น แสดงให้เห็นว่า การร่วมแรงร่วมใจในการปฏิบัติมาตรการต่างๆจะช่วยฟันฝ่าช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ สถานทูตเวียดนามและสมาคมกัมพูชาเวียดนามทุกระดับจะอยู่เคียงบ่าเคียงไหล่และช่วยเหลือพลเมืองเวียดนามและชาวกัมพูชาเชื้อสายเวียดนามอยู่เสมอ.
Văn Đỗ