สานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซีย

(VOVworld) นาย Ibnu Hadi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามวาระตั้งแต่ต้นปี 2016 เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-อินโดนีเซีย ตามความเห็นของนาย Ibnu Hadi ทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน และสามารถให้การช่วยเหลือกันในภูมิภาค เพื่อค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสองฝ่ายและภูมิภาค ในโอกาสครบรอบ 71 ปีวันชาติอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 17 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์ท่านเอกอัครราชทูต Ibnu Hadi เกี่ยวกับการสานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

(VOVworld) นาย Ibnu Hadi เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามที่มาปฏิบัติหน้าที่ตามวาระตั้งแต่ต้นปี 2016 เป็นผู้ที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-อินโดนีเซีย ตามความเห็นของนาย Ibnu Hadi ทั้งสองประเทศมีความคล้ายคลึงกันในหลายด้าน และสามารถให้การช่วยเหลือกันในภูมิภาค เพื่อค้ำประกันสิทธิผลประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์ของทั้งสองฝ่ายและภูมิภาค ในโอกาสครบรอบ 71 ปีวันชาติอินโดนีเซีย ซึ่งตรงกับวันที่ 17 สิงหาคม ผู้สื่อข่าวของสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์ท่านเอกอัครราชทูต Ibnu Hadi เกี่ยวกับการสานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศ

  สานต่อและส่งเสริมความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์เวียดนาม-อินโดนีเซีย - ảnh 1
นาย Ibnu Hadi เอก อัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนาม (ภาพของสถานทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนาม)

“ในทางเป็นจริง สมบัติอันล้ำค่าที่สุดของทั้งสองประเทศคือความสัมพันธ์ที่ยาวนาน เวียดนามเป็นหนึ่งในประเทศอาเซียนแรกๆที่อินโดนีเซียสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต เป็นประเทศแรกที่เปิดสถานทูต และส่งทูตทหารไปประจำการในสถานทูต พวกเราหวังว่า ความสัมพันธ์นี้จะมีความใกล้ชิดมากขึ้น เพื่อร่วมกันพัฒนาและรักษาความมั่นคงในภูมิภาค”
นี่คือคำยืนยันของเอกอัครราชทูต Ibnu Hadi เกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซีย ถ้าหวนมองในอดีต เมื่อวันที่ 30 ธันวาคมปี 1955 ประธานาธิบดี สุการ์โน และประธานโฮจิมินห์ได้วางรากฐานให้แก่ความสัมพันธ์ทางการทูตเวียดนาม-อินโดนีเซีย ทั้งสองประเทศได้อยู่เคียงข้างกันในการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชประชาชาติ โดยอินโดนีเซียสามารถช่วงชิงเอกราชเมื่อวันที่ 17 สิงหาคมปี 1945 และหลังจากนั้น 15 วัน คือวันที่ 2 กันยายนปี 1945 ประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามก็ได้รับการเปิดตัว นับตั้งแต่ช่วงนั้นมาจนถึงปัจจุบัน ความสัมพันธ์ร่วมมือระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียได้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่อย่างไม่หยุดยั้ง
โดยเฉพาะในการเยือนอินโดนีเซียของประธานประเทศ เจืองเติ๊นซาง เมื่อเดือนมิถุนายนปี 2013ทั้งสองประเทศได้ยกระดับความสัมพันธ์ขึ้นเป็นความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์ ซึ่งเหตุการณ์นี้ได้มีส่วนร่วมนำบรรยากาศใหม่มาให้แก่ความสัมพันธ์ทวิภาคีในทุกด้าน โดยเฉพาะเศรษฐกิจ ปัจจุบัน ศักยภาพความร่วมมือด้านเศรษฐกิจระหว่างเวียดนามกับอินโดนีเซียยังมีอยู่มากมาย ทั้งสองประเทศได้ตั้งเป้าไว้ว่า มูลค่าการค้าต่างตอบแทนจะบรรลุ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2018 สำหรับปัญหานี้ เอกอัครราชทูต Ibnu Hadi ได้เผยว่า “เศรษฐกิจเวียดนามและอินโดนีเซียได้พัฒนามากขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงก่อนๆ เมื่อปี 2010 มูลค่าการค้าต่างตอบแทนได้บรรลุเกือบ 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อปี 2015 คือ 5.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเพิ่มขึ้น 2 เท่า เมื่อเทียบกับประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ผมเห็นว่า ความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะการดึงดูดการลงทุนจะได้รับการยกระดับมากขึ้น ปัจจุบัน เวียดนามพัฒนาอย่างรวดเร็ว และโอกาสการลงทุนในเวียดนามยังมีอีกมาก ผมมีความประทับใจต่อการส่งออกข้าว สัตว์น้ำ สิ่งทอเสื้อผ้าสำเร็จรูปและอุตสาหกรรมที่กำลังพัฒนาของเวียดนาม”
สำหรับความร่วมมือด้านความมั่นคง-กลาโหม ทั้งสองประเทศกำลังร่วมมืออย่างใกล้ชิดในฟอรั่มอาเซียน การประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียนและการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนขยายวง เมื่อเร็วๆนี้ นอกรอบการประชุมสุดยอดเอเชีย-แอฟริกา ณ ประเทศอินโดนีเซียเมื่อเดือนเมษายนปี 2015 ประธานประเทศเวียดนาม เจืองเติ๊นซางและประธานาธิบดีอินโดนีเซีย โจโก วิโดโด ได้หารือเกี่ยวกับมาตรการผลักดันความร่วมมือด้านกลาโหม เช่นการซ้อมรบร่วม การถ่ายทอดเทคโนโลยีด้านกลาโหมและการลาดตระเวน  สำหรับปัญหานี้ เอกอัครราชทูต Ibnu Hadi ได้เผยว่า“ผมเห็นว่า ความร่วมมือด้านความมั่นคงทางทะเลระหว่างสองประเทศต้องมีแผนการที่เป็นรูปธรรมมากขึ้น โดยเฉพาะการซ้อมรบร่วมและการลาดตระเวนทางทะเลระหว่างสองประเทศ เมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการจับชาวประมงเวียดนามที่รุกล้ำเขตน่านน้ำของอินโดนีเซีย ซึ่งเป็นสิ่งที่พวกเราไม่ต้องการให้เกิดขึ้น เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีทะเลอินโดนีเซียได้พบปะกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการเกษตรและพัฒนาชนบทเวียดนามที่ดูแลปัญหาสัตว์น้ำ และได้ลงนามบันทึกช่วยจำเพื่อความร่วมมือระหว่างสองประเทศ”
เอกอัครราชทูต Ibnu Hadi ได้แสดงความเห็นว่า หน้าที่ของเขาในวาระนี้ไม่เพียงแต่เป็นการสานต่อความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับเวียดนามเท่านั้น หากต้องพัฒนามากขึ้นให้ทัดเทียมกับศักยภาพของทั้งสองประเทศ ในปีนี้ ทางสถานทูตอินโดนีเซียจะปฏิบัติหลายแผนการ เช่น จัดงานแสดงสินค้าและการท่องเที่ยวในนครโฮจิมินห์และกรุงจาการ์ตา รายการศิลปะในโอกาสฉลองวันชาติอินโดนีเซียและการก่อตั้งประชาคมอาเซียน เป็นต้น“พวกเราจะส่งนักข่าวเวียดนามไปยังอินโดนีเซียในปลายเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งที่ 3 ที่พวกเราส่งนักข่าวไปศึกษาและผลักดันการแนะนำเพื่อช่วยให้ชาวเวียดนามทราบเกี่ยวกับประเทศอินโดนีเซีย นอกจากนั้น รัฐบาลอินโดนีเซียยังมอบทุนการศึกษาหลายทุนให้แก่นักเรียน นักศึกษาและเจ้าหน้าที่เวียดนามที่อยากศึกษาเกี่ยวกับวัฒนธรรม สังคมและเทคนิคระหว่างประเทศพัฒนา พวกเรากำลังจัดทำโครงการทุนการศึกษาระยะยาวมากขึ้น”
ข่าวที่น่ายินดีสำหรับประชาชนทั้งสองประเทศก็คือ เอกอัครราชทูต Ibnu Hadi กำลังพยายามผลักดันแผนการเปิดเส้นทางบินตรงฮานอย-กรุงจาการ์ตา นอกเหนือจากเส้นทางบินตรงนครโฮจิมินห์-กรุงจาการ์ตา หวังว่า ด้วยความพยายามและความทุ่มเทของตน เอกอัครราชทูต Ibnu Hadi จะประสบความสำเร็จในการปฏิบัติหน้าที่ตามวาระในเวียดนามและมีส่วนร่วมผลักดันความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศและภูมิภาค.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด