(VOVworld) – อนุสาวรีย์พันธมิตสู้รบเวียดนาม-ลาวถูกก่อสร้างในเขตที่ราบสูง โบโลเวนส์ อำเภอ ปากซ่อง แขวงจำปาสัก ภาคใต้ประเทศลาวซึ่งเป็นหนึ่งใน 4 อนุสาวรีย์ที่ถูกก่อสร้าง ณ ประเทศลาวเพื่อรำลึกถึงวีรชนและทหารพลีชีพเพื่อชาติเวียดนาม-ลาวที่ได้เสียชีวิตในช่วงต่อสู้เพื่อปลดปล่อยประชาชาติทั้งสองประเทศ โครงการปฏิสังขรณ์อนุสาวรีย์พันธมิตรสู้รบเวียดนาม-ลาวที่เพิ่งถูกเปิดใช้เมื่อเร็วๆนี้ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีที่ใกล้ชิดและยาวนานระหว่างประชาชาติทั้งสองประเทศและจะคงอยู่ตลอดไป

อนุสาวรีย์พันธมิตรสู้รบเวียดนาม-ลาว สัญลักษณ์ที่มีความหมายของประชาชนทั้งสองประเทศ

โครงการพัฒนาและปฏิสังขรณ์อนุสาวรีย์พันธมิตรสู้รบเวียดนาม-ลาวได้เริ่มขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2014 ในพื้นที่กว่า 4 เฮกต้าร์ โดยมี 13 กิจการย่อย รวมทั้ง ภาพแกะสลักสูง 4.5 เมตร กว้าง 9 เมตร ห้องจัดแสดง โดยเฉพาะรูปปั้นทหารเวียดนามและลาว 2 นายที่มือกำลังชูปืนขึ้นที่ตั้งข้างหน้าภาพแกะสลัก พลโท จันสะหมอน จันยาลาด รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมลาวได้กล่าวแสดงความตื้นตันใจว่า ในช่วงทำการต่อสู้เพื่อรวมประเทศเป็นเอกภาพ ประชาชาติลาวและเวียดนามยังคงสามัคคีและเคียงบ่าเคียงไหล่กันเพื่อต่อต้านศัตรู“กิจการอนุสาวรีย์ในปากซ่องมีความหมายสำคัญต่อประวัติศาสตร์ของความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาวเพราะแสดงให้เห็นถึงความสำนึกในบุญคุณของรัฐ รัฐบาลและประชาชนลาวต่อทหารอาสาและผู้เชี่ยวชาญเวียดนามที่ได้ให้การช่วยเหลือลาว ส่วนร่วมของบรรดาสหายในช่วงต่อสู้ ปลดปล่อยประชาชาติเพื่อต่อต้านจักรวรรดินิยมอเมริกาและนักล่าเมืองขึ้น ตลอดจนในภารกิจแห่งการสร้างสรรค์และพิทักษ์รักษาประเทศในปัจจุบัน กองทัพและประชาชนทั้งสองประเทศได้อยู่เคียงข้างกันในการต่อสู้ การแบ่งเบาความยากลำบากเพื่อสามารถช่วงชิงชัยชนะครั้งสุดท้ายให้แก่ประเทศลาวในวันที่ 2 ธันวาคมปี 1975 ทุกชัยชนะของการปฏิวัติลาวมีส่วนร่วมจากการช่วยเหลือของเวียดนาม อนุสาวรีย์นี้จะเป็นสัญลักษณ์แห่งความสามัคคีและความผูกพันระหว่างสองประเทศตลอดไป”
ในโอกาสกลับมาเยือนสมรภูมิที่เคยเข้าร่วมการสู้รบเมื่อ 44 ปีก่อน พันเอก เหงียนดึ๊กเจวี๋ยน วีรชนกองกำลังติดอาวุธและอดีตหัวหน้ากองร้อยทหารสอดแนมที่ทำการโจมตีใส่อำเภอ ปากซ่องได้แสดงความตื้นตันใจเมื่อได้มีโอกาสเข้าชมกิจการก่อสร้างที่แสดงความสำนึกในบุญคุณต่อทหารและสหายของตน ตลอดจนทหารพลีชีพเพื่อชาติที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อช่วงชิงเอกราชให้แก่ทั้งสองประเทศ“ยุทธนาการปลดปล่อยปากซ่องมีความหมายสำคัญเพราะเป็นการสู้รบที่ดุดเดือด ทหารของทั้งสองประเทศได้ร่วมมือกันต่อสู้ สหายหลายท่านได้เสียชีวิตบนผืนแผ่นดินปากซอง อนุสาวรีย์นี้เป็นสิ่งที่แสดงความสำนึกในบุญคุณของสหาย ทหารและประชาชนลาวที่ได้เสียชีวิต สร้างน้ำใจแห่งพันธมิตรต่อสู้ระหว่างกองทัพทั้งสองประเทศและนิมิตหมายให้แก่ชนรุ่นหลังของประชาชาติเวียดนาม-ลาว”

นักเรียนลาวที่เข้าร่วมพิธี

สำหรับประชาชนทั้งสองประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างพรรค รัฐ ประชาชนและกองทัพเวียดนาม-ลาวยังคงได้รับการเสริมสร้างและกลายเป็นความสัมพันธ์พิเศษ นำพลังที่เข้มแข็งและยิ่งใหญ่มาให้แก่ทั้งสองประชาชาติจนได้รับชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ นี่ก็คือความเห็นของคุณ พรธิดา นักเรียนจากโรงเรียนประถมศึกษาตอนปลายปากซ่อง คุณ พรธิดา เผยว่า เมื่อมาที่นี่ เธอมีความเข้าใจมากขึ้นและสำนึกในบุญคุณต่อส่วนอุทิศที่ยิ่งใหญ่ของทหารพลีชีพเพื่อชาติ ทหารทุพพลภาพ ทหารผ่านศึกของทั้งสองประเทศที่ได้สร้างชัยชนะที่รุ่งโรจน์ เขียนประวัติศาสตร์เกี่ยวกับความสามัคคีพิเศษและซื่อสัตย์ระหว่างเวียดนามกับลาว“หนูมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับความสัมพันธ์เวียดนาม-ลาว หนูได้เรียนและทราบว่า ลาวและเวียดนามมีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด ช่วยเหลือจุนเจือกันและการเดินทางมาที่นี่ ได้ช่วยให้หนูเข้าใจเกี่ยวกับความสัมพันธ์มากขึ้น”
อนุสาวรีย์พันธมิตรสู้รบเวียดนาม-ลาวในอำเภอ ปากซ่องไม่เพียงแต่มีความหมายในการให้การศึกษาแก่คนรุ่นใหม่เท่านั้น หากยังเป็นการแสดงให้เห็นถึงการสำนึกในบุญคุณและการตอบแทนบุญคุณต่อคนรุ่นก่อนๆที่ได้เสียสละเลือดเนื้อเพื่อเอกราชของเวียดนาม-ลาวอีกด้วยที่เสาซึ่งตั้งอยู่ที่สองข้างทางของอนุสาวรีย์ได้เขียนตัวอักษรว่า “ปิตุภูมิสำนึกในบุญคุณ” และ “ประชาชนลาวสำนึกในบุญคุณบรรดาสหาย ทหารอาสาเวียดนามที่ได้อุทิศตลอดชีวิตของตนให้แก่การปฏิวัติลาว”
ถ้าหากมีโอกาสเดินทางมาเยือนประเทศลาวที่สวยงามและเป็นมิตร ขอเชินท่านแวะมาเยือนอนุสาวรีย์นี้เพื่อสัมผัสกับน้ำใจที่ซื่อสัตย์ของประชาชนทั้งสองประเทศทั้งในช่วงสงครามและในยามสันติ./.