อินโดนีเซียพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนาม

(VOVworld) ในหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นด้านที่ดึงดูดเงินเข้างบประมาณแผ่นดินของ อินโดนีเซียมากเป็นอันดับที่ 4 โดยในปี 2016 ในขณะที่ราคาสินค้าส่งออกหลักของอินโดนีเซีย เช่น ปิโตรเลี่ยม น้ำมันมะพร้าวและยางพารากำลงลดลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นหน่วยงานพัฒนาหลักและเป็นแนวโน้มพัฒนาใหม่ ในจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพอันดับต้นๆของบริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย
(
VOVworld) ในหลายปีที่ผ่านมา อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเป็นด้านที่ดึงดูดเงินเข้างบประมาณแผ่นดินของอินโดนีเซียมากเป็นอันดับที่ 4 โดยในปี 2016 ในขณะที่ราคาสินค้าส่งออกหลักของอินโดนีเซีย เช่น ปิโตรเลี่ยม น้ำมันมะพร้าวและยางพารากำลงลดลง อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นหน่วยงานพัฒนาหลักและเป็นแนวโน้มพัฒนาใหม่ ในจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนอินโดนีเซีย เวียดนามเป็นประเทศที่มีศักยภาพอันดับต้นๆของบริษัทนำเที่ยวอินโดนีเซีย

อินโดนีเซียพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนาม - ảnh 1
เกาะบาหลี

อินโดนีเซียมีพื้นที่กว่า 1.9 ล้านตารางเมตรและเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวเนื่องจากเป็นประเทศที่มีหมู่เกาะมากที่สุดในโลก การท่องเที่ยวทางทะเลจึงเป็นจุดแข็งของอินโดนีเซียโดยมีทัวร์ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงระดับโลก เช่น บาหลี ราชาอัมพัตและเกาะโคโมโด นอกจากนั้น อินโดนีเซียยังมีกลุ่มชาติพันธ์เกือบ 300 กลุ่ม ทำให้ทัวร์ท่องเที่ยวศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมเป็นหนึ่งในจุดแข็งเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ในโอกาสเดินทางมาเยือนเวียดนามเมื่อเร็วๆนี้ นาย Firnandi Gufron อธิบดีกรมส่งเสริมการท่องเที่ยวสังกัดกระทรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซียได้เผยว่า เวียดนามเป็นหนึ่งในตลาดการท่องเที่ยวหลักที่ได้รับความสนใจจากอินโดนีเซียในปี 2016 “ปัจจุบัน พวกเรากำลังปฏิบัติ 3 ยุทธศาสตร์ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวอินโดนีเซียในต่างประเทศ โดยเฉพาะในเวียดนาม ยุทธศาสตร์แรกคือสร้างเครื่องหมายการค้า โดยพวกเราจะแนะนำโครงการ “Wonderful Indonesia” ในเวียดนาม เพราะอินโดนีเซียมีทุกรูปแบบการท่องเที่ยวคือมีทะเล เกาะและหิมะในเขต Pupua ยุทธศาสตร์ที่ 2 คือ พวกเราประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวผ่านสื่อต่างๆทั้งผ่านหนังสือพิมพ์และหนังสือพิมพ์ออนไลน์ และยุทธศาสตร์สุดท้ายคือ พวกเราอำนวยความสะดวกเพื่อให้บริษัทท่องเที่ยวและผู้บริหารของอินโดนีเซียสามารถบพปะกับหุ้นส่วนต่างๆในเวียดนามและนครโฮจิมินห์ ซึ่งทั้ง 3 ยุทธศาสตร์นี้จะช่วยให้ชาวเวียดนามมีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในอินโดนีเซีย”
ตามรายงานสถิติของกระทรรวงการท่องเที่ยวอินโดนีเซีย จำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามที่เดินทางไปเยือนอินโดนีเซียเมื่อปี 2015 อยู่ที่เกือบ 5 หมื่นคนซึ่งตัวเลขนี้ยังไม่เป็นที่พอใจและนักท่องเที่ยวเวียดนามส่วนใหญ่เดินทางไปเที่ยวเกาะบาหลีและกรุงจาการ์ตาเป็นหลัก ในขณะที่อินโดนีเซียยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม เช่นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงศาสนาและสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ เช่นเมืองบันดุงที่ประธานโฮจิมินห์เคยเดินทางไปเยือน นาย Fernando ตัวแทนบริษัทนำเที่ยว MG Destination ของอินโดนีเซียได้เผยว่า สาเหตุที่จำนวนนักท่องเที่ยวเวียดนามยังเดินทางไปเที่ยวอินโดนีเซียไม่มากเนื่องจากชาวเวียดนามยังไม่รู้จักอินโดนีเซียเป็นอย่างดี และเส้นทางบินตรงนครโฮจิมินห์-กรุงจาการ์ตาก็มีวันละ 1 เที่ยวเท่านั้น แถมค่าตั๋วเครื่องบินก็ค่อนข้างแพงโดยราคาอยู่ที่กว่า 500 ดอลลาร์สหรัฐ นาย Fernando ได้เผยว่า “ตามความเห็นของหุ้นส่วนของบริษัท ค่าตั๋วเครื่องบินไปอินโดนีเซียแพงกว่าไปญี่ปุ่นซึ่งเป็นปัญหาหลัก ถ้าหากไม่รวมค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าทัวร์ในอินโดนีเซียถือว่า ค่อนข้างถูก อยู่ที่ประมาณ 200 ดอลลาร์สหรัฐสำหรับทัวร์ 4 วัน 3 คืน อาหารในอินโดนีเซียก็ถูกปากนักท่องเที่ยวเวียดนาม โดยเฉพาะพวกเราก็มีอาหารเวียดนาม ไทยและจีนด้วย”
อินโดนีเซียพยายามดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนาม - ảnh 2
อินโดนีเซียมีพื้นที่กว่า 1.9 ล้านตารางเมตรและเป็นประเทศที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว

เพื่อแก้ไขอุปสรรคดังกล่าว ปัจจุบัน รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังหาโอกาสร่วมมือและให้การช่วยเหลือสายการบินในภูมิภาค โดยสายการบินสิงคโปร์แอร์ไลน์ได้เห็นพ้องที่จะศึกษาการเปิดเที่ยวบินตรงจากเวียดนามไปยังสถานที่ท่องเที่ยวเด่นๆของอินโดนีเซีย นาย Firnandi Gufron ได้แสดงความเห็นว่า“เส้นทางบินจากเวียดนามไปยังอินโดนีเซียยังมีข้อจำกัด ปัจจุบัน สิงคโปร์แอร์ไลน์ได้ขอเปิดเที่ยวบินตรงจากกรุงฮานอย นครดานังและนครโฮจิมินห์ไปยังเมืองท่องเที่ยว 12 แห่งของอินโดนีเซียซึ่งทำให้ค่าเดินทางถูกลง พวกเราจะศึกษาเส้นทางบินและสถานที่ท่องเที่ยวที่เหมาะสมที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม”
นอกจากการอำนวยความสะดวกให้แก่นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปเยือนอินโดนีเซียแล้ว รัฐบาลอินโดนีเซียยังปฏิบัติแผนฝึกอบรมแหล่งบุคลากรเพื่อให้บริการด้านการท่องเที่ยวที่ดีที่สุดแก่นักท่องเที่ยวเวียดนาม นาย Firnandi Gufron เผยต่อไปว่า“ปัจจุบัน รัฐบาลอินโดนีเซียกำลังร่วมมือกับศูนย์ภาษาและมหาวิทยาลัยต่างๆเพื่อสอนภาษาเวียดนาม ซึ่งเป็นสิ่งที่ทำได้ไม่ง่ายนัก แต่พวกเราเชื่อมั่นว่า จะสามารถฝึกอบรมพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินและไกด์ภาษาเวียดนามได้”
ถ้าหากอุปสรรคและความท้าทายดังกล่าวได้รับการแก้ไข อินโดนีเซียจะกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวเวียดนาม เป้าหมายของอินโดนีเซียในปี 2016 คือ สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวเวียดนามได้ประมาณ 5 หมื่น 5 พันคน เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 เมื่อเทียบกับปี 2015 และจากความพยายามของรัฐบาลอินโดนีเซียและบริษัทนำเที่ยวของทั้งสองประเทศ เป้าหมายนี้จะกลายเป็นความจริง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด