นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม

ในโอกาสรำลึกครบรอบ 43ปีการลงนามสนธิสัญญามิตรภาพและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาว ซึ่งตรงกับวันที่ 18 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามได้สัมภาษณ์นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามเกี่ยวกับส่วนร่วมที่ยิ่งใหญ่ของเวียดนามในการดำรงสองตำแหน่งดังกล่าวและความร่วมมือระหว่างเวียดนามกับลาวในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ขอเชิญท่านฟังสาระสำคัญในบทสัมภาษณ์ดังกล่าว

ในฐานะประธานอาเซียน 2020 และสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติวาระปี 2020-2021 เวียดนามได้พยายามผลักดันความสามัคคีภายในภูมิภาคเพื่อบรรลุเป้าหมายร่วมกัน เกี่ยวกับบทบาทของเวียดนามในการดำรงสองตำแหน่งสำคัญดังกล่าวในเวลาที่ผ่านมา นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง เอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนามได้แสดงความคิดเห็นว่า “ตั้งแต่ต้นปี 2020 เวียดนามได้เตรียมพร้อมให้แก่การดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน 2020 โดยประสบความสำเร็จในการจัดการประชุมอาเซียนนครั้งต่างๆตั้งแต่ต้นปี ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ภูมิภาคและโลกต่างให้ความสำคัญถึงบทบาทของเวียดนาม การที่เวียดนามได้รับเลือกเป็นสมาชิกไม่ถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติถือเป็นการพิสุจน์ให้เห็นถึงบทบาทของเวียดนามที่นับวันสูงเด่นมากขึ้นบนฟอรั่มระดับภูมิภาคและโลก เนื่องจากไม่มีประเทศใดได้รับเสียงสนับสนุนเท่ากับเวียดนามในการโหวตเลือกสมาชิกไม่ถาวรของคณะฯวาระปี 2020-2021 แน่นอนว่า เวียดนามจะประสบความสำเร็จต่อไปในอนาคต”

สำหรับบทบาทและการช่วยเหลือของเวียดนามในการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ในภูมิภาคและโลก นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง ได้ประเมินว่า เวียดนามได้ออกมาตรการต่างๆอย่างทันการณ์และมีประสิทธิภาพ ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชาคมระหว่างประเทศ “การป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 คือความท้าทายที่ยิ่งใหญ่สำหรับมนุษย์ในทั่วโลก สิ่งที่สำคัญคือ เวียดนามไม่เพียงแต่ประกาศนโยบายและปฏิบัติมาตรการที่ถูกต้องเท่านั้น หากยังมีนักวิทยาศาสตร์และแพทย์ที่มีทักษะความสามารถในการรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด -19 อีกด้วย ซึ่งได้รับคำชื่นชมจากประชาโลก ตามปรกติ ประเทศที่พัฒนาแล้วจะให้การช่วยเหลือประเทศที่กำลังพัฒนา แต่ในวิกฤตนี้ เวียดนามได้สนับสนุนอุปกรณ์การแพทย์ให้แก่ประเทศพัฒนา เช่น อังกฤษ ฝรั่งเศส อิตาลี สเปน ซึ่งแสดงให้เห็นว่า การร่วมใจของเวียดนามมีความหมายเป็นอย่างมากต่อโลกและบทบาทของเวียดนามนับวันสูงเด่นมากขึ้นบนเวทีระดับภูมิภาคและโลก”

ส่วนการช่วยเหลือของเวียดนามต่อประเทศลาว นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง ถือว่า “รัฐบาลทั้งสองประเทศได้มีมาตรการร่วมกันในเบื้องต้น ซึ่งสามารถควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 ได้ ในขณะที่เวียดนามยังคงต้องรับมือการแพร่ระบาดของโรคโควิด – 19 แต่ก็ให้การช่วยเหลือประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะประเทศลาวและกัมพูชา ซึ่งการช่วยเหลือของเวียดนามมีความหมายสำคัญเป็นอย่างมาก ทั้งการช่วยเหลือจากพรรค รัฐ รัฐบาล กระทรวง หน่วยงานและประชาชน”

จากประวัติศาสตร์แห่งความสามัคคีในอดีตที่ร่วมกันต่อสู้ศัตรู ปัจจุบัน เวียดนามและลาวได้สามัคคีเพื่อรับมือความท้าทายจากภูมิภาคและโลก โดยในเวลาข้างหน้า สถานทูตลาวประจำเวียดนามจะวางแผนเพื่อผลักดันความสามัคคีพิเศษนี้ต่อไป นาย แสงเพชร หุ่งบุญญวง ยืนยันว่า “ปัจจุบันนี้  พรรค รัฐและประชาชนของทั้งสองประเทศกำลังเสริมสร้างความสามัคคีพิเศษ ความโปร่งใสและคุณค่าที่ได้รับการทำนุบำรุงจากคนรุ่นก่อน บนเจตนารมณ์ดังกล่าว ทั้งสองฝ่ายได้ให้การช่วยเหลือจุนเจือกันในภารกิจการปกป้องและพัฒนาประเทศ ร่วมกันบรรลุผลสำเร็จที่น่ายินดีต่างๆและก้าวเดินอย่างมั่นคงบนเส้นที่ทั้งสองพรรคได้เลือกเฟ้น ในฐานะเอกอัครราชทูตลาวประจำเวียดนาม ผมมีความรับผิดชอบสูงในการขยายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้นับวันขยายมากขึ้น สิ่งที่สำคัญคือ การให้การศึกษาเกียรติประวัติความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศแก่คนรุ่นหลัง เพราะว่า เวียดนามและลาวมีความสัมพันธ์ที่ดีงาม มีความสามัคคีพิเศษและความร่วมมืออย่างรอบด้าน ซึ่งเป็นความสัมพันธ์เฉพาะระหว่างเวียดนามกับลาวเท่านั้น ดังนั้น เจ้าหน้าที่สถานทูตลาวทุกคนจะพยายามอย่างสุดความสามารถในการร่วมมือกับฝ่ายเวียดนาม ทั้งในระดับกระทรวงการต่างประเทศ คณะกรรมการวิเทศสัมพันธ์ส่วนกลางของพรรค กระทรวง หน่วยงานและท้องถิ่นต่างๆ เพื่อรณรงค์และประชาสัมพันธ์ความสามัคคีพิเศษนี้ให้คนรุ่นหลังทำนุบำรุงต่อไป”.