(VOVworld) –  ภายหลังกว่า๑ปีที่ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคีเวียดนาม– อินโดนีเซีย(เมื่อวันที่๒๘มิถุนายนปี๒๐๑๓) ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศได้รับการผลักดันในทุกระดับและในด้านต่างๆ ในโอกาสงานฉลองครบรอบ๖๙ปีวันชาติอินโดนีเซียซึ่งตรงกับวันที่๑๗สิงหาคมที่สถานทูตอินโดนีเซียจัดขึ้น ในกรุงฮานอย ผู้สื่อข่าวสถานีวิทยุเวียดนามและท่านเอช อี มาเยอฟาส เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามขอประมวลความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศดังนี้

ท่านมาเยอฟาส เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนาม(Photo: VOV)

เวียดนามและอินโดนีเซียมีความสัมพันธ์กันมาช้านานและยั่งยืนจากการสร้างขึ้นของอดีตประธานาธิบดีอินโดนีเซียท่านซูการ์โนและประธานโฮจิมินห์ของเวียดนามเมื่อปี๑๙๕๔ ใน๖๐ปีที่ผ่านมา สัมพันธไมตรีที่มีมาช้านานนี้ได้รับการธำรงรักษาและผลักดันในด้านต่างๆจากผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศ นอกจากนี้ จากประวัติศาสตร์ที่คล้ายกัน ทั้งสองประเทศได้สนับสนุนและช่วยเหลือกันในสงครามเพื่อช่วงชิงเอกราชของชาติเสมอ

            วันที่๒๘มิถุนายนปี๒๐๑๓เป็นนิมิตรหมายของจุดเปลี่ยนทางประวัติศาสตร์และเป็นหลักหมายทองในความสัมพันธ์ทวิภาคีระหว่างสองประเทศโดยท่านเจืองเติ๊นซางประธานประเทศเวียดนามและท่านซูซีโล บัมบัง ยูโดโยโนประธานาธิบดีอินโดนีเซียได้ลงนามในข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ทวิภาคีที่นำความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศให้พัฒนาขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่อีกทั้งแสดงให้เห็นถึงความสำคัญและสถานะของอินโดนีเซียซึ่งเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดทางทิศใต้ภูมิภาคและเวียดนามที่กำลังเจริญเข้มแข็งทางทิศเหนือของภูมิภาคพร้อมทั้งพิสูจน์ให้เห็นถึงสัมพันธไมตรีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศที่ให้ความช่วยเหลือจุนเจือกันอยู่เสมอ ท่านมาเยอฟาส เอกอัครราชทูตอินโดนีเซียประจำเวียดนามกล่าวว่า“พวกเราลงนามข้อตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับประเทศที่มีความสัมพันธ์ทวิภาคีอันดีเท่านั้น ปัจจุบัน อินโดนีเซียมีความสัมพันธ์หุ้นส่วนยุทธศาสตร์กับ๑๔ประเทศ รวมทั้งเวียดนามซึ่งเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งเป็นผลสำเร็จที่น่ายินดี”

เอกอัคราชทูตมาเยอฟาสกล่าวว่า ข้อตกลงฉบับนี้เป็นพื้นฐานให้แก่ข้อตกลงฉบับอื่นๆในอนาคตและมีส่วนร่วมเสริมสร้างและผลักดันสัมพันธไมตรีและความร่วมมือในทุกด้านระหว่างสองประเทศ“ข้อตกลงฉบับนี้เป็นเงื่อนไขล่วงหน้าและแนวทางของความร่วมมือก็ได้รับการสานต่อด้วยการลงนามแผนปฏิบัติการร่วมซึ่งสิ่งนี้มีส่วนร่วมผลักดันความร่วมมือทวิภาคีโดยทั้งสองประเทศจะผลักดันการพบปะทุกระดับระหว่างรัฐสภา และรัฐบาลหรือระหว่างนักธุรกิจและประชาชนและนอกจากความพยายามเพื่อนำมาซึ่งผลประโยชน์ร่วมแล้ว พวกเรายังสนับสนุนให้แก่กันในด้านต่างๆด้วย”

อาจกล่าวได้ว่า ข้อตกลงนี้แสดงให้เห็นถึงความสนใจเป็นพิเศษของผู้นำทั้งสองประเทศ ช่วยให้ผู้นำและประชาชนทั้งสองประเทศเข้าใจกันและร่วมกันแก้ไขปัญหาทวิภาคี อีกทั้งอำนวยความสะดวกให้ข้อตกลงฉบับอื่นๆได้รับการลงนามอย่างรวดเร็ว เช่น ข้อตกลงส่งผู้ร้ายข้ามแดน และข้อตกลงช่วยเหลือด้านตุลาการทวิภาคีหรือเอ็มแอลเอซึ่งนับเป็นพื้นฐานทางนิตินัยที่เอื้อให้แก่การแก้ไขปัญหาความมั่นคงทวิภาคีระหว่างสองประเทศนอกจากนี้ เวียดนามและอินโดนีเซียกำลังหารือและมุ่งสู่ข้อตกลงร่วมมือฉบับอื่นๆ รวมทั้งข้อตกลงเกี่ยวกับอธิปไตยเหนือน่านน้ำระหว่างสองประเทศ“มีข้อตกลงอีกฉบับที่พวกเรากำลังพยายามบรรลุคือข้อตกลงเกี่ยวกับเขตเศรษฐกิจจำเพาะหรือแซดอีอีที่ยังมีปัญหาทางเทคนิคที่ต้องหารืออย่างละเอียด พวกเราหวังว่า ในปลายปีนี้หรือต้นปีหน้า จะสามารถลงนามข้อตกลงฉบับนี้ได้ อย่างไรก็ดี นี่คือข้อตกลงกับเวียดนม ดังนั้นหลักการของพวกเราคือ เมื่อเวียดนามตกลง พวกเราก็พร้อมที่จะลงนามข้อตกลงฉบับนี้”

เกี่ยวกับความสัมพันธ์พหุภาคี ทั้งสองประเทศได้ประสานและร่วมมือกันเป็นอย่างดีในฟอรั่มภูมิภาคและโลกซึ่งสิ่งนี้แสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนของอินโดนีเซียต่อแถลงการณ์และข้อเสนอของเวียดนามและเวียดนามก็สนับสนุนแถลงการณ์และข้อเสนอของอินโดนีเซีย เอกอัครราชทูตมาเยอฟาสย้ำว่า การสนับสนุนในทุกด้านนี้อยู่บนพื้นฐานของความสัมพันธ์ที่มีมาช้านานและยั่งยืน รวมทั้งสัมพันธไมตรีอันดีงามระหว่างรัฐบาลและประชาชนทั้งสองประเทศ เพราะเวียดนามเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เดียวของอินโดนีเซียในภูมิภาค ./.