คณะ สส.ไทยที่เข้าร่วมการประชุม (ภาพจากแฟนเพจเฟสบุ๊ค พนิดา มงคลสวัสดิ์ - Phanida Mongkolsawat)

การประชุม สส.รุ่นใหม่โลกครั้งที่  9 ในหัวข้อ “บทบาทของคนรุ่นใหม่ในการส่งเสริมการปฏิบัติเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนผ่านการปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลและนวัตกรรม” ซึ่งเป็นประเด็นที่ได้รับความสนใจจากบรรดา สส.ไทยเป็นอย่างมากเพราะสอดคล้องกับแนวโน้มการพัฒนาในการปฏิวัติอุตสาหกรรม 4.0 ในทั่วโลก นางสาวขัตติยา สวัสดิผล สมาชิกสภาผู้เเทนราษฎร เเบบบัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ได้ให้ข้อสังเกตว่า

“เรากำลังอยู่ในยุคของเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งทุกประเทศต้องปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของยุคสมัย โดยเฉพาะเทคโนโลยีดิจิทัลกำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว สำหรับคนรุ่นใหม่สามารถปรับตัวและเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่เร็วมาก ซึ่งคนรุ่นใหม่ต้องมีส่วนร่วมในการปรับปรุงและแก้ไขปัญหาต่างๆของประเทศ”

คณะ สส.ไทยเข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “ขยายทักษะด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชน” ซึ่งจัดโดยกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลาง ณ อาคารสภาแห่งชาติ (ภาพจากแฟนเพจเฟสบุ๊ค พนิดา มงคลสวัสดิ์ - Phanida Mongkolsawat)

ในกรอบของการประชุม สส.รุ่นใหม่โลกครั้งที่  9 บรรดาผู้แทนได้เข้าร่วมการเสวนาในหัวข้อ “ขยายทักษะด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชน” ซึ่งจัดโดยกองเยาวชนคอมมิวนิสต์โฮจิมินห์ส่วนกลาง ณ อาคารสภาแห่งชาติ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยให้บรรดา สส.รุ่นใหม่มีความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับบทบาทและการขยายทักษะด้านดิจิทัลให้แก่เยาวชนเวียดนาม นางสาว พนิดา มงคลสวัสดิ์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบแบ่งเขต สมุทรปราการ เขต1 พรรคก้าวไกล ได้เผยว่า

“ถ้าพูดถึงเวียดนามโดยตรง จะเห็นชัดเจนที่สุดจากกิจกรรมที่สภาของเวียดนาม ได้ฟังจากหลายๆหน่วยงานทั้งตัวแทนของภาคเอกชนและภาครัฐต่างๆที่นำเสนอความที่จะเป็นดิจิทัลสำหรับคนรุ่นใหม่ ก็เก่งมาก ก็เลยทำให้เข้าใจมากขึ้น ทำไมเศรษฐกิจของเวียดนามถึงเติบโตได้ไวขนาดนี้และพัฒนาอย่างก้าวกระโดดได้ขนาดนี้”

ส่วนนาย วรภพ วิริยะโรจน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้ประเมินเกี่ยวกับการนำเสนอความคิดเห็นของผู้แทนสภาแห่งชาติเวียดนามว่า

 “แต่ละท่านดูมีความรู้ ความสามารถ แล้วก็ดูจากการมีความมั่นใจในการเล่าเรื่องต่างๆ ก็ดีใจ แล้วก็ยินดีที่ได้เห็นคนรุ่นใหม่มีบทบาทในประเทศเวียดนาม แล้วก็ยินดีสนับสนุน”

คณะ สส.ไทยเที่ยวชมบริเวณใจกลางกรุงฮานอย (ภาพจากแฟนเพจเฟสบุ๊ค พนิดา มงคลสวัสดิ์ - Phanida Mongkolsawat)

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่นาย วรภพ วิริยะโรจน์ มาเวียดนาม ทำให้เข้าสามารถมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของประเทศเวียดนาม

“ในฐานะ สส.ครั้งแรก แต่เคยมาเที่ยวแล้ว เวียดนาม ตอนนี้ก็คือเศรษฐกิจเจริญเติบโตเร็วมาก ก็มีการเปลี่ยนแปลง ก็ตื่นเต้นมาก มาตรการของประเทศเวียดนาม ก็อย่างงานแสดงสินค้า OCOP ของเวียดนาม คิดว่า มีหนทางการตลาดที่ทำให้สินค้าท้องถิ่นได้มีการยกระดับและได้รับการสนับสนุน ก็เป็นเรื่องที่น่าสนใจ วันนี้ก็ซื้อกาแฟเผือก กาแฟมะพร้าว ก็ได้ทดลองและติดใจ จึงซื้อกลับมาเลย”

นาย วรภพ วิริยะโรจน์ ยังได้แสดงความยินดีและสนับสนุนโครงการร่วมมือระหว่างไทยกับเวียดนามและกล่าวว่า

“ไทยกับเวียดนามเราก็อยู่ในอาเซียน มีโครงการร่วมมือกัน อย่างเช่น มีการจัดไอป้าคือเฉพาะอาเซียน สส.รุ่นใหม่ก็มีการนัดเจอกัน ก็ยังไงเราก็เชื่อว่า ด้วยความที่เราจะอยู่ใกล้กัน แล้วก็มีหลายๆอย่างคล้ายๆกัน เราก็สามารถทำขับเคลื่อนอาเซียนไปด้วยกัน และยังเชื่อว่า ยิ่งอาเซียนเราร่วมมือกันมากเท่าไหร่ อำนาจต่อรองของอาเซียนกับนานาประเทศ ไม่ว่าจะเป็นประเทศมหาอำนาจต่างๆ เราจะมีบทบาทมากขึ้นถ้าเราร่วมมือกัน ซึ่งไทยกับเวียดนามก็หนีไม่พ้น ก็ต้องร่วมมือกันมากขึ้นเพื่อเพิ่มอำนาจต่อรองเพื่อผลประโยชน์ของทั้งสองประเทศด้วย”

บรรดา สส.รุ่นใหม่ไทยได้แสดงความยินดีและกล่าวขอบคุณเวียดนามที่จัดการประชุม สส.รุ่นใหม่โลกครั้งที่ 9 ซึ่งเป็นโอกาสให้รัฐสภาสมาชิกและบรรดา สส.รุ่นใหม่ได้พบปะสังสรรค์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในด้านต่างๆ  รวมถึงงานด้านนิติบัญญัติเพื่อนำไปประยุกต์ใช้ในกิจกรรมต่างๆของรัฐสภาและเพิ่มบทบาทของคนรุ่นใหม่ในทุกด้านของชีวิตสังคม เช่น การเมือง เศรษฐกิจ วัฒนธรรมและสังคม เป็นต้น.