ตลาดมาเลเซียใจกลางนครไซง่อน

ร้านขายผ้าและชุดแต่งกายของชาวมุสลิมที่มีชื่อว่า Basiroh เลขที่35 ถนนเหงวียนอานนิงมีลูกค้ามาอุดหนุนเป็นจำนวนมาก  โดยมีทั้งมาซื้อเพื่อเป็นของฝากและมาซื้อเพื่อนำไปขายต่อ     นาง Basiroh เจ้าของร้าน ซึ่งมีผิวขาวและหน้าตาดีกำลังพูดคุยกับลูกค้าด้วยภาษามาเลเซียเหมือนเจ้าของภาษาแท้ๆนั้น จริงๆแล้วเป็นคนชนเผ่าจามและเป็นผู้ที่ริเริ่มก่อตั้งถนนสายนี้ “เมื่อก่อน ฉันเคยเจอกลุ่มชาวมาเลเซียที่มาเวียดนามทำงานและหาชุดแต่งกายของชาวมุสลิมแต่ไม่มีที่ใดขาย ฉันคิดว่า ฉันเป็นชาวมุสลิมและชนเผ่าจาม ทำไมฉันไม่ขายชุดแต่งกายของชาวมุสลิม  ตอนแรก ฉันเย็บชุดแต่งกายหลายชุดเพื่อขาย  ปัจจุบันนี้ ชื่อเสียงของฉันเป็นที่รู้จักในประเทศมาเลเซียเพราะฉันเป็นคนแรกที่เปิดร้านขายชุดแต่งกายมาเลเซียในเวียดนาม”

ซึ่งนาง Basirohเป็นคนแรกที่เปิดร้านเสื้อผ้าในถนนเหงวียนอานนิงเมื่อปี2011  จนถึงขณะนี้  มี100ครอบครัวที่เปิดร้านตามนางBasiroh  ลูกค้าส่วนใหญ่มาที่นี่เป็นชาวมาเลเซีย อินโดนีเซียและบรูไนที่มาเลือกซื้อชุดบาจูกุรุง ซึ่งชุดบาจูกุรุงที่ขายที่นี่มีหลากหลายแบบ    มีราคาถูกและคุณภาพดี ทำให้ดึงดูดนักท่องเที่ยวและพ่อค้าแม่ค้าจากมาเลเซีย อินโดนีเซียและบรูไนมาซื้อเพื่อนำไปขายต่อ นาง Ro Sama แม่ค้าชาวมาเลเซียที่เดินทางมาเวียดนามเพื่อซื้อสินค้าจากร้านนี้7ปีเพื่อนำไปขายต่อได้เผยว่า

“มาที่นี่ ฉันรู้สึกสบายมาก สินค้าที่นี่ถูกว่าที่มาเลเซียและยังสามารภจ่ายเป็นเงินริงกิตของมาเลเซียได้ด้วย ทำให้การซื้อขายมีความสะดวก  เมื่อ6-7ปีก่อน ฉันมาเวียดนาม หาอาหารมาเลเซียยากมากที่พอหาทานได้ก็ไม่อร่อยแต่ตอนนี้อร่อยมากๆ ชาวเวียดนามเป็นมิตรและพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกเรา”

ร้านอาหารมาเลเซีย

มาเที่ยวตลาดแห่งนี้  นักท่องเที่ยวยังมีโอกาสลิ้มลองอาหารมาเลเซียนับร้อยเมนู  นาง Basirohก็เป็นคนเดินหน้าในการเปิดร้านอาหารมาเลเซียที่นี่ ความต้องการในการช็อบปิ้งและอาหารของชาวมุสลิมนับวันเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น จำนวนร้านอาหารก็เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเจ้าของร้านอาหารส่วนใหญ่เป็นชาวจามเนื่องจากพวกเขานับถือศาสนาอิสลาม ดังนั้น จึงมีความเข้าใจเกี่ยวกับรสชาติและข้อกำหนดของอาหารฮาลาล   ซึ่งอาหารต่างๆของมาเลเซียที่ถูกขายที่นี่มีทั้ง Nasi Lemak โรตี ไอศครีมมาเลเซีย   โดยครอบครัวเชื้อสายมาเลเซียหลายรุ่นที่เปิดร้านขายที่นี่ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อรักษารสชาติของอาหารพื้นเมืองเพื่อดึงดูดความสนใจไม่เพียงแต่ของชาวมุสลิมเท่านั้นหากยังของลูกค้าเวียดนามอีกด้วย นาง Chau Sali Kin ชาวเวียดนามเชื้อสายมาเลเซีย เจ้าของร้าน Haji Osmanได้เผยว่า

“พ่อค้าที่นี่ส่วนใหญ่เป็นชาวเวียดนามเชื้อสายมาเลเซีย ดังนั้น พวกเราร่วมกันอย่างมีความสุข พวกเราอยากแนะนำอาหารและวัฒนธรรมของชาวมาเลเซียให้แก่ชาวเวียดนาม ฉันมีความประสงค์ว่า ชาวมาเลเซียจะมีโอกาสได้ทานอาหารของพวกเขาในนครโฮจิมินห์และชาวเวียดนามที่มาทานอาหารมาเลเซียจะเพิ่มมากขึ้น”

  ตลาดมาเลเซียเปิดให้บริการทุกวัน โดยจะคึกคักที่สุดในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดต่างๆ อาจกล่าวได้ว่า ร้านเสื้อผ้าและร้านอาหารสำหรับชาวมาเลเซียในบริเวณโดยรอบตลาดเบ๊นแถ่ง นครโฮจิมินห์ได้มีส่วนร่วมไม่น้อยต่อการสร้างภาพลักษณ์ของเวียดนามต่อเพื่อนมิตรชาวต่างชาติ.