แขวงเชียงขวาง ประเทศลาวกับการปฏิบัติหน้าที่ของทหารเวียดนาม

(VOVWORLD) - ในตลอดกว่า 12ปีที่เข้าร่วมการสู้รบในสมรภูมิ นาย บุ่ย มิง เซิน อายุ 70ปี ทหารช่างเวียดนามได้ใช้เวลาส่วนใหญ่ที่สมรภูมิทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวางประเทศลาว ซึ่งเป็นหนึ่งในสมรภูมิที่สำคัญในสงครามต่อต้านนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและสหรัฐอเมริกาเพื่อปลดปล่อยอินโดจีน โดยนาย บุ่ย มิง เซินและเพื่อสหายได้ปฏิบัติหน้าที่ตรวจกู้กับระเบิดและสร้างถนนข้ามภูเขาและป่าเพื่อเตรียมให้แก่การปฏิบัติยุทธนาการต่างๆที่ทุ่งไหหิน
แขวงเชียงขวาง ประเทศลาวกับการปฏิบัติหน้าที่ของทหารเวียดนาม - ảnh 1นาย บุ่ย มิง เซินเยือนทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวาง
 
 

เมื่อปี 1968 นาย บุ่ย มิง เซิน ชาวกรุงฮานอยตอนนั้นอายุ 17ปีได้สมัครเข้าเป็นทหารตามคำเรียกร้องของปิตุภูมิ หลังจากนั้น 2 เดือน นาย บุ่ย มิง เซินได้รับหน้าที่ไปช่วยเหลือประเทศลาวในการต่อต้านศัตรูที่ทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวาง นาย บุ่ย มิง เซินเล่าให้ฟังว่า“สมรภูมิพงสาลีซำเหนือ และเชียงขวางมีกับระเบิดจำนวนมาก ซึ่งทหารช่างอย่างพวกเราต้องตรวจกู้กับระเบิดและมีเพื่อนสหายหลายคนได้เสียชีวิตในการปฏิบัติหน้าที่ที่ความเป็นความตายอยู่ห่างกันแค่เสี้ยวนาที”

แม้จะต้องเผชิญกับอันตรายและความยากลำบากมากมาย แต่ทหารช่างเวียดนามที่ปฏิบัติหน้าที่เช่นเดียวกับนาย บุ่ย มิง เซิน ต่างก็รู้สึกภาคภูมิใจที่ได้อุทิศเลือดเนื้อเพื่อภารกิจการปฏิวัติของเวียดนามและประเทศลาว นอกจากการตรวจกู้กับระเบิดและสร้างถนนแล้ว นาย บุ่ย มิง เซินยังชอบการเขียนบทความ แต่งกลอนและศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมของประเทศลาว โดยได้พยายามหาเวลาเพื่อเรียนรู้วิถีชีวิตของคนลาวเพื่อมีความเข้าใจวัฒนธรรมและคนลาวมากขึ้น ซึ่งนี่เป็นวิธีการที่ดีเพื่อเรียนภาษาลาวอย่างรวดเร็ว โดยเขาได้เขียนคำศัพท์ สำนวนและสุภาษิตต่างๆไว้ในสมุดบันทึกที่ทำจากกระดาษห่อระเบิด“นอกจากความคล้ายคลึงกันด้านวัฒนธรรมระหว่างสองประชาชาติแล้ว การปฏิบัติต่อกันของชาวลาวได้สร้างความประทับใจให้กับผมเป็นอย่างมาก ชาวลาวมีอัธยาศัยดี ใจดีและเป็นมิตร พร้อมช่วยเหลือพวกเราเหมือนสมาชิกในครอบครัว โดยน้ำใจไมตรีของคนลาวได้ช่วยคลายความคิดถึงบ้านเกิดและทำให้ประเทศลาวกลายเป็นบ้านเกิดแห่งที่ 2”

ด้วยความจริงใจและสามารถพูดภาษาลาวได้อย่างคล่องแคล่วทำให้นาย บุ่ย มิง เซิน ได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ให้การศึกษา ประชาสัมพันธ์และบรรยายภาพยนตร์ซึ่งเป็นงานที่หนักไม่น้อยไปกว่าการเป็นทหารช่าง โดยทุกวัน เขาต้องสะพายไดนาโมปั่นไฟหนักเกือบ 40 กิโลกรัมและช่วยสหายขนเครื่องฉายภาพยนตร์หนักกว่า 300 กิโลกรัมข้ามป่าข้ามภูเขา แม้กระทั่งต้องพิชิตภูเขาสูง 2,257 เมตรเพื่อฉายภาพยนตร์ให้แก่ทหารเวียดนามและลาว รวมถึงประชาชนลาวในท้องถิ่น“ทหารและชาวบ้านชอบดูภาพยนตร์และรู้สึกประทับใจมากเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่พวกเขาได้ดูหนังกลางแปลง ตอนมีการเผยแพร่ภาพประธานโฮจิมินห์ ทหารและประชาชนทุกคนต่างลุกขึ้นยืนปรบมือ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเคารพรักต่อประธานโฮจิมินห์”

นาย บุ่ย มิง เซิน ได้เผยว่า แม้จะได้รับความเสียหายจากการทิ้งระเบิดของศัตรู แต่แขวงเชียงขวางก็มีทิวทัศน์ที่สวยงาม โดยเฉพาะในฤดูแล้งที่ดอกบัวตองบานสะพรั่งเหมือนปูด้วยพรมสีเหลือง ซึ่งเปรียบเสมือนความสามัคคีและพันธมิตรในการต่อสู้ระหว่างทหารเวียดนามและทหารลาว คนลาวที่ทรหดอดทนและสีเหลืองของดอกบัวตองยังสื่อถึงสีจีวรของพระภิกษุในศาสนาพุทธ ซึ่งเป็นศาสนาประจำชาติของลาว และเมื่อครั้งที่ได้เดินทางไปเยือนแขวงเชียงขวางอีกครั้ง นาย บุ่ย มิง เซินรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างบอกไม่ถูก“ตอนที่เพิ่งเดินทางถึงดินแดนของลาว ผมรู้สึกตื่นเต้นมาก แขวงเชียงขวางถือเป็นบ้านเกิดแห่งที่ 2 ของผม โดยมีเพื่อนสหายหลายคนได้สละชีพที่สมรภูมิเชียงขวาง ส่วนเพื่อนสหายและประชาชนลาวได้ให้การต้อนรับผมและสวมกอดอย่างอบอุ่น”

แม้ปีนี้ อายุมากแล้ว แต่นาย บุ่ย มิง เซินก็มีความประสงค์ที่จะเดินทางไปเยือนประเทศลาวอีกครั้งเพื่อไปเยี่ยมเพื่อนสหายและเพื่อชาวลาวที่ทุ่งไหหินในแขวงเชียงขวาง.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด