ค้นหาสถาปัตยกรรมที่งดงามของโบถส์ดึ๊กบ่านครโฮจิมินห์
To Tuan-VOV5 -  
( VOVworld )-โบสถ์ดึ๊กบ่านครโฮจิมินห์เป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่ได้รับการก่อสร้างตามสไตล์สถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของนครโฮจิมินห์ที่มีขนาดใหญ่ โบสถ์ดึ๊กบ่าฯเป็นจุดนัดพบของท่องเที่ยวเที่ยวทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ
( VOVworld )-
โบสถ์ดึ๊กบ่านครโฮจิมินห์เป็นสิ่งปลูกสร้างทางศาสนาที่ได้รับการก่อสร้างตามสไตล์สถาปัตยกรรมฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่งดงามและเป็นเอกลักษณ์ของนครโฮจิมินห์ที่มีขนาดใหญ่ โบสถ์ดึ๊กบ่าฯเป็นจุดนัดพบของท่องเที่ยวเที่ยวทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติ
โบสถ์ดึ๊กบ่าเลขที่ ๑ ตั้งอยู่ในบริเวณจัตุรัสกงซ้าปารี เขต ๑ นครโฮจิมินห์เป็นสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่ได้รับการก่อสร้างมาหลายสิบปีต่อจากโบสถ์หญ่าเถ่อเลิ้นในกรุงฮานอยโดยฝีมือของคนฝรั่งเศสเมื่อปีค.ศ.๑๘๗๗เพื่อเป็นสถานที่สวดมนต์ของชาวฝรั่งเศสที่นับถือศาสนาคริสต์ อาคารโบสถ์ดึ๊กบ่ามีสถาปัตยกรรมทางศาสนาที่คลาสิกของยุโรป สถาปนิกเหงวียนฮิวท้ายที่ศึกษาประวัติศาสตร์อาคารสถาปัตยกรรมของฝรั่งเศส ณ นครโฮจิมินห์เปิดเผยว่า สถาปัตยกรรมของฝรั่งเศสที่ทิ้งไว้ให้แก่นครโฮจิมินห์มีหลายระยะและอาคารโบสถ์ดึ๊กบ่าได้รับการก่อสร้างในระยะแรก ซึ่งเป็นระยะที่พลเรือเอกของฝรั่งเศสเข้าม ดังนั้นสถาปัตยกรรมตามสไตล์ทหารที่มีเส้นตรง มีการก่อสร้างสิ่งปลูกสร้างต่างๆที่สี่แยกหรือหกแยกเพื่อเป็นไฮไลท์ สิ่งปลูกสร้างแห่งแรกคือทำเนียบท้งเญิ้นหรือเอกภาพและอาคารโบสถส์ดึ๊กบ่า
โบสถ์ดึ๊กบ่าถูกก่อสร้างโดยการออกแบบของสถาปนิกบูราร์ด ซึ่งเชี่ยวชาญด้านการออกแบบสถาปัตยกรรมทางศาสนา โบสถ์ฯจึงมีสไตล์โรมันและโกธิกจำลองจากมหาวิหารน็อทร์-ดามแห่งปารีสของฝรั่งเศส ซึ่งเป็นสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดในจำนวนโบสถ์ในประเทศเมืองขึ้นของฝรั่งเศสศตวรรษที่ ๑๙ อาคารโบสถ์ถูกก่อสร้างด้วยอิฐสีแดงทำให้ตัวอาคารดูโดดเด่นสง่างามในใจกลางของนครที่ทันสมัย สถาปนิกเหงวียนฮิวท้ายเปิดเผยต่อไปว่า “ สมัยนั้นยังไม่มีอุตสาหกรรมผลิตวัสดุก่อสร้างในเวียดนาม ดังนั้นต้องนำเข้าวัสดุต่างๆจากฝรั่งเศสเช่น ปูนซีเมนท์ เหล็กกล้าและควง โดยเฉพาะอิฐที่ก่อสร้างโบสถ์ดึ๊กบ่า ซึ่งเป็นอิฐสีแดงของเขตมาร์เซลล์ของฝรั่งเศส อิฐสีแดงเหล่านี้เป็นชนิดพิเศษเพราะไม่มีตะไคร้จับและทนกับกาลเวลา สีไม่เปลี่ยนแม้ถูกก่อสร้างมากว่าหนึ่งศตวรรษก็ตามแม้ผ่านมากว่าหนึ่งศตวรรษ แต่อาคารโบสถ์ดึ๊กบ่ายังคงความเป็นโบราณเดิม โดยอาคารใหญ่ถูกก่อสร้างตามสไตล์โรมันยาว ๙๐ เมตร กว้าง ๓๕เมตรและหลังคาโค้งสูง๒๑เมตร มีหอระฆังสองแห่ง แต่ละหอมีระฆัง ๖ ใบที่เรียกตามโน้ตซอล ลา ซี โด เร มี โดยระฆังซอลเป็นระฆังขนาดใหญ่สุด ระฆังจะกังวาลขึ้นปีละหนึ่งครั้งในคืนวันส่งท้ายปีเก่าตามทันทรคติ เสียงระฆังดังไกลถึง ๑๐ กิโลเมตร
โบสถ์ถูกก่อสร้างด้วยอิฐสีแดง
ภายในอาคารโบสถ์มีเสาสองแถวรูปทรงตันที่มีผิวหน้าทั้งหกด้านรวม ๑๒ เสา แต่ละแถวมี ๖ เสาที่เป็นสัญลักษณ์ของบริวาร ๑๒ รูป ต่อจากนั้นคือระเบียงยาวและห้องสวดมนต์พร้อมหิ้งขาวบูชากับรูปปั้นเทพเจ้าหินอ่อนเล็กๆที่ทำอย่างประณีต ส่วนหิ้งบูชาในอาคารใหญ่เป็นแผ่นหินอ่อนขนาดใหญ่ที่สลักทูตสวรรค์นูนต่ำ ๖ รูปที่กำลังรองแผ่นศิลา ส่วนฐานรองนั้นแบ่งเป็น ๓ ส่วนแต่ละส่วนเป็นผลงานประติมากรรมเกี่ยวกับเรื่องราวของเทพเจ้า ผลงานประติมากรรมเหล่านี้เป็นสไตล์โรมันและโกธิกที่ลงตัวกับการตบแต่เพดานโค้งของโบสถ์จึงสร้างความสวยงามและความศักดิ์สิทธิ์ให้แก่โบสถ์เป็นอย่างยิ่ง ด้านหน้าโบสถ์ดึ๊กบ่ามีสวนดอกไม้และมีถนนสี่สายตัดกันเป็นรูปไม้กางเขน มีรูปปั้นพระแม่หว่าบิ่นหหรือพระแม่แห่งสันติภาพสูง ๔.๖เมตรที่ทำจากหินอ่อนสีขาวโดยนักประติมากรรมชาวอิตาลีนายซีโอเชตตี้ทำเมื่อปีค.ศ.๑๙๕๙ รูปปั้นพระแม่แห่สันติภาพยืนตรงอย่างสง่างาม มือหนึ่งถือลูกโลกที่มีไม้กางเขนติดไว้ที่ในที่สูวสุด ดวงตามองไปทางท้องฟ้าเพื่ออธิษฐานให้เวียดนามและโลกมีสันติภาพ
ห้องสวดมนต์
โบสถ์ดึ๊กบ่านครโฮจิมินห์เป็นสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์ของแผ่นดินไซ่ง่อนมากว่า ๓๐๐ ปี ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวเวียดนามและชาวต่างชาติไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวนครโฮจิมินห์ ./.
To Tuan-VOV5