จตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่จารึกประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญของประชาชาติเวียดนาม
Bui Hang-VOV5 -  
(VOVWORLD) - จัตุรัสบาดิ่งห์เป็นจตุรัสที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ตั้งอยู่ที่ถนนหุ่งเวืองด้านหน้าสุสานประธานโฮจิมินห์ จตุรัสแห่งนี้ได้เป็นพยานของเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์สำคัญต่างๆของประเทศ โดยเฉพาะเมื่อวันที่๒กันยายนปี๑๙๔๕ ณ สถานที่แห่งนี้ประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฎิญญาเอกราช สถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม
จตุรัสบาดิ่งห์ในสมัยฝรั่งเศส |
จัตุรัสบาดิ่งห์ (Ba Dinh) ตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกของซุ้มประตูกำแพงเก่าฮานอย และเดิมทีนั้นเป็นแค่พื้นที่ว่างเปล่าถึงช่วงต้นศตวรรษที่ ๒๐ ชาวฝรั่งเศสได้มาก่อสร้างเป็นสวนสาธารณะแล้วตั้งชื่อว่า รอนด์ พ้อยท์ ปูกีเนอร์ (Rond Point Puginier) หรือ จัตุรัสกลม รอบๆบริเวณนี้มีการก่อสร้างสำนักงานและวิลลาไตล์ฝรั่งเศส รวมถึงทำเนียบข้าหลวงใหญ่หรือทำเนียบประธานประเทศในปัจจุบันและโรงเรียนอาลเบอร์ต ซาร์โรท์ (Albert Sarraunt) ซึ่งปัจจุบันคือสำนักงานกระทรวงการต่างประเทศ โดยชื่อของจตุรัสบาดิ่งห์ถูกตั้งโดยนายแพทย์เจิ่นวันลาย ซึ่งดำรงตำแหน่งผู้ว่าการเมืองในระหว่างวันที่20กรกฎาคม-19สิงหาคม ปี๑๙๔๕ เนื่องจากเขามีความศรัทธาต่อการต่อสู้ที่กล้าหาญต่อนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสของกองทัพดิงกงจ้าง ณ ฐานที่มั่นบาดิ่งห์ ที่อ.งาเซิน จังหวัดแทงฮว้าในช่วงปลายศตวรรษที่๑๙
เมื่อเดือนสิงหาคมปี๑๙๔๕ การลุกขึ้นสู้ทั่วประเทศเพื่อยึดคืนอำนาจรัฐกลับสู่ประชาชนได้ประสบชัยชนะที่สมบูรณ์ ทำลายระบอบศักดินาและความเป็นทาสของประชาชาติเวียดนามที่ยาวนานหลายพันปี ยุติแอกปกครองของนักล่าเมืองขึ้นฝรั่งเศสและฟัสซิสญี่ปุ่น ประชาชาติเวียดนามได้ลุกขึ้นเป็นเจ้าของประเทศและมีสิทธิ์ตัดสินชะตากรรมของชาติตนภายใต้การนำของพรรคคอมมิวนิสต์เวียดนามและประธานโฮจิมินห์ นักประวัติศาสตร์เยืองจูงก๊วกได้กล่าวถึงการเลือกสถานที่เพื่ออ่านปฏิญญาเอกราชในครั้งนั้นว่า“ประธานโฮจิมินห์เลือกจตุรัสบาดิ่งห์เป็นสถานที่เพื่อประกาศเอกราชเพราะท่านอยากบอกกล่าวให้ทั่วโลกรับรู้สาส์นจากประชาชาติหนึ่งในขณะที่โลกกำลังเปลี่ยนแปลงภายหลังลัทธิฟัสซิสถูกขจัด ซึ่งในช่วงท้ายของปฏิญญาเอกราชนั้นประธานโฮจิมินห์ได้ยืนยันว่าสิทธิแห่งเอกราชของประชาชาติเวียดนามโดยชาวเวียดนามชวงชิงมาได้และสอดคล้องกับหลักปฏิบัติของมนุษยชาติและนั่นคือความจริงที่ไม่อาจพลิกผันได้”
พิธีเคารพธงชาติตอน6.00นทุกวัน ณ จตุรัสบาดิ่งห์ |
วันที่๒กันยายนปี๑๙๔๕ ถนนทุกสายในกรุงฮานอยถูกตกแต่งอย่างสวยงามด้วยธงทิวดอกไม้และป้ายคำขวัญต้อนรับเหตุการณ์ครั้งประวัติศาสตร์ของประชาชาติและใครที่มีโอกาสได้ร่วมอยู่ในเหตุการณ์อันศักดิ์สิทธิ์วันนั้นก็จะไม่มีวันลืมบรรยากาศที่ฮึกเหิมชื่นมื่นและตื่นเต้นกันทั่วหน้าขณะตั้งตารอประธานโฮจิมินห์ขึ้นเวที โดยเวลา ๑๔.๐๐นของวันที่ ๒ กันยายน ประธานโฮจิมินห์ได้ก้าวขึ้นเวทีในนามประธานรัฐบาลเฉพาะกาลอ่านปฏิญญาเอกราชอันเป็นการให้กำเนิดประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนาม พร้อมทั้งยืนยันว่า “ประเทศเวียดนามมีสิทธิ์ได้รับเอกราชและเสรีภาพและในความเป็นจริงก็ได้กลายเป็นประเทศที่มีเสรีภาพและเอกราชแล้ว ประชาชาติเวียดนามทั้งมวลมีความมุ่งมั่นตั้งใจยืนหยัดปกป้องรักษาเอกราชและเสรีภาพนั้นอย่างเด็ดเดี่ยวแม้จะต้องเสียสละชีวิตและทรัพสินเงินทองมากแค่ไหนก็ตาม” นักประวัติศาสตร์เยืองจูงก๊วกได้เผยต่อไปว่า“การสำแดงกำลังครั้งนั้นไม่เพียงแต่ได้สะท้อนให้เห็นถึงจิตใจแห่งความมุ่งมั่นอย่างเด็ดเดี่ยวของความเป็นผู้นำประเทศเท่านั้นหากยังสามารถเรียกความเห็นพ้องเป็นเอกฉันท์จากประชาชนทุกหมู่เหล่า ท่านเลือกประกาศสถาปนาประเทศเวียดนามในวันที่๒กันยายนเพราะเป็นวันอาทิตย์ซึ่งประชาชนสามารถมาร่วมได้อย่างสะดวก บรรยากาศที่จตุรัสบาดิ่งห์วันนั้นมีความศักดิ์สิทธิ์มาก”
ปัจจุบันจตุรัสบาดิ่งห์มีพื้นที่กว้างร้อยตารางเมตร ยาว320เมตร มีสนามหญ้าที่ถูกตัดแต่งอย่างสวยงาม ตรงกลางจตุรัสมีเสาธงสูง๒๕เมตร ที่นี่มีสุสานประธานโฮจิมินห์ ด้านหน้าของจตุรัสบาดิ่งคืออนุสาวรีย์ทหารนิรนามพลีชีพเพื่อชาติและอาคารสภาแห่งชาติ จตุรัสบาดิ่งยังเป็นสถานที่จัดพิธีเชิญธงชาติขึ้นสู่ยอดเสาเทุกๆ ๖ โมงเช้าและเวลา ๓ ทุ่มจะมีพิธีเชิญธงชาติลงจากยอดเสา ซึ่งดึงดูดความสนใจของชาวฮานอยและนักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก “ดิฉันและครอบครัวมักจะมาที่นี่โดยเฉพาะในโอกาสวันชาติทุกปี ซึ่งเราก็หวนรำลึกถึงช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์เมื่อท่านประธานโฮจิมินห์ได้อ่านปฏิญญาเอกราช นอกจากเป็นสถานที่ที่สวยงามแห่งหนึ่งแล้ว ที่นี่ยังเป็นจุดสำคัญเพื่อให้การศึกษาเกียรติประวัติแห่งความรักชาติและการต่อสู้ที่รุ่งโรจน์ของบรรพบุรุษแก่ลูกหลานของเรา”
แม้เวลาได้ผ่านไปกว่า๗๐ปีนับตั้งแต่วันประกาศเอกราชสถาปนาประเทศเวียดนาม แต่จตุรัสบาดิ่งห์ก็ยังคงคุณค่าแห่งประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม เป็นหัวใจของกรุงฮานอย เป็นสถานที่จัดกิจกรรมสำคัญของประเทศและเป็นเขตที่มีภูมิทัศน์พร้อมสถาปัตยกรรมที่สวยงามที่สุดของฮานอย./.
Bui Hang-VOV5