รายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น”

(VOVWORLD) -ขอต้อนรับท่านในรายการเที่ยวเวียดนามชื่อว่า “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” ของสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งในรายการเดือนก่อนๆเราก็ได้พาท่านขึ้นเขาชมทัศนียภาพและศึกษาค้นคว้าวัฒนธรรมของชนกลุ่มน้อยต่างๆไปแล้วอย่างการเที่ยวจังหวัดห่ายาง จังหวัดลาวกาย เป็นต้น วันนี้เรามาเปลี่ยนบรรยากาศกันบ้างกับการไปเที่ยวกรุงเก่าเว้ ในภาคกลางเวียดนามที่มีแม่น้ำเฮืองหรือคนไทย  รู้จักกันในชื่อแม่น้ำหอม ศิลปะการแสดงดนตรีชาววังและเขตพระราชวังต่างๆของราชวงศ์เหงวียน แต่เราเชื่อว่าคงมีน้อยคนที่ทราบว่าเว้ได้รับการยกย่องว่าเป็นเมืองแห่งงานเฟสติวัลของเวียดนาม โดยที่มาที่ไปของเรื่องนี้เป็นอย่างไรเราจะแนะนำในรายการวันนี้
รายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” - ảnh 1 ภาพพระราชวังกรุงเก่าเว้ที่อลังการ

จุดเริ่มต้นของการจัดงานเฟสติวัลเว้คืองานพบปะสังสรรค์ระหว่างนครเว้และนคร โคดีว์ของฝรั่งเศสเมื่อปี1992 ต่อมาเมื่อปี2000ได้มีการเปิดงานเฟสติวัลเว้เป็นครั้งแรกและนับตั้งแต่นั้นมาจนถึงปัจจุบัน งานเฟสติวัลเว้ได้ถูกจัดขึ้นเป็นประจำทุกๆ2ปี ทำให้เว้ได้เป็นที่รู้จักมากขึ้นในฐานะเป็นนครแห่งงานเฟสติวัลของเวียดนาม

งานเฟสติวัลเว้ครั้งแรกเมื่อปี2000มีคณะศิลปะกว่า30คณะของทั้งเวียดนามและฝรั่งเศส โดยมีศิลปิน นักแสดงกว่า1พันคนและผู้ร่วมงานกว่า4แสนคนเข้าร่วม งานเฟสติวัลเว้ครั้งที่2ปี2002ได้พัฒนาหัวข้อ “ค้นคว้าศิลปะการดำรงชีวิตของกรุงเก่าเว้” ผ่านการแสดงศิลปะของ33คณะจากหลายประเทศเช่น ฝรั่งเศส จีน ญี่ปุ่น สาธารณรัฐเกาหลี อินโดนีเซีย ไทย ลาว กพช. เป็นต้น พร้อมศิลปินกว่า1500คนและมีผู้สนใจเข้าร่วมกว่า1ล้านคน ซึ่งทำให้งานเฟสติวัลเว้กลายเป็นกิจกรรมเชิงวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงทั้งในระดับประเทศและต่างประเทศ จนถึงปัจจุบันนี้ผ่านการจัดงานมา10ครั้ง เฟสติวัลเว้ได้กลายเป็นจุดมุ่งหมายของคณะศิลปะที่มีชื่อเสียงของกว่า50ชาติทั่วโลก นางเหงวียนทูถวี รองหัวหน้าคณะการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยสังคมศาสตร์และมนุษยศาสตร์ฮานอยประเมินว่า“สำหรับการจัดงานเฟสติวัลต่างๆในเวียดนาม งานเฟสติวัลเว้ถือว่ามีชื่อเสียงยาวนานที่สุด นอกจากนั้นการจัดงานเฟสติวัลของเว้ยังมีลักษณะแบบผสมผสานเนื่องจากได้ศึกษาเรียนรู้ประสบการณ์การจัดงานของฝรั่งเศส อังกฤษ ออสเตรเลีย ตลอดจนการลงทุนด้านเทคโนโลยีใหม่เพื่อให้งานเฟสติวัลเว้มีความอลังกาลยิ่งขึ้น”

รายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” - ảnh 2สะพานจ่างเตี่ยนข้ามแม่น้ำหอม 

นครเว้ถือเป็นเมืองที่มีความได้เปรียบในทุกด้านในการจัดกิจกรรมศิลปะวัฒนธรรมระหว่างประเทศเพราะมีสภาพภูมิอากาศและระบบนิเวศที่หลากหลาย อยู่ห่างจากกรุงฮานอยไปทางทิศเหนือ675กิโลเมตร นครโฮจิมินห์ไปทางทิศใต้ราว1พันกิโลเมตร ซึ่งเอื้อให้แก่การเชื่อมโยงด้านทรัพยากรวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์น่าสนใจเพื่อพัฒนาการท่องเที่ยวที่มีน้อยนครในเวียดนามสามารถทำได้

ในเวลาเกือบ400ปีคือตั้งแต่ปี1558-1945 เว้คือเมืองเอกของเจ้าเขตตระกูลเหงวียนถึง9รุ่น เป็นราชธานีของยุคเตยเซินและต่อมาได้เป็นราชธานีของราชวงศ์เหงวียน13รัชกาล จนถึงปัจจุบันเว้ยังเก็บรักษาไว้มรดกวัฒนธรรมทั้งรูปธรรมและนามธรรมต่างๆที่ถือเป็นสัญลักษณ์แห่งภูมิปัญญาและจิตวิญญาณของชาวเวียดนามได้อย่างหลากหลายและสมบูรณ์ โดยเฉพาะโบราณสถานพระราชวังในกรุงเก่าเว้ที่องค์การยูเนสโก้ได้ให้การรับรองให้ระบุในบัญชีมรดกวัฒนธรรมโลกที่มีชื่อเสียงต่างๆ ซึ่งเมื่อมาเที่ยวกรุงเก่าเว้ นอกจากจะได้เยี่ยมชมพระราชวังที่อลังกาลในประวัติศาสตร์ยุคหนึ่งของเวียดนาม นักท่องเที่ยวยังได้สัมผัสกับบรรยากาศแห่งพุทธศาสนาของเมืองที่เคยเป็นศูนย์กลางการเผยแผ่พุทธศาสนาในเวียดนามผ่านวัดวาอารามที่เก่าแก่ ผ่านวิถีชีวิตที่เรียบง่ายและจิตใจของผู้คนที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตนและเปี่ยมด้วยความเมตตาอารีเหมือนหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้า  นาย เลแทงหาย ชาวเว้ได้กล่าวว่า“เว้คือกรุงเก่าในยุคราชวงศ์เหงวียน ซึ่งจากพื้นฐานการเป็นเมืองแห่งมรดก เราได้พัฒนาให้เว้กลายเป็นนครแห่งเฟสติวัลที่ยังคงสามารถอนุรักษ์คุณค่าวัฒนธรรมของชาติ ผสมผสานให้เข้ากับอารยธรรมของมนุษยชาติ ช่วยให้ชาวเว้ได้รับประโยชน์มากขึ้นจากมรดกในท้องถิ่นก็ถือเป็นเรื่องที่เราทุกคนต่างปรารถนา”

รายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” - ảnh 3ทางเข้าพระตำหนักชั้นใน 

“เที่ยวกรุงเก่าเว้ที่แสนโรแมนติกทุกครั้ง ฉันก็ยิ่งหลงรักเมืองที่มีเสน่ห์อันหวานซึ้ง ความงามที่สุขุมนุ่มลึกของเมืองโบราณนี้ได้ทำให้คนที่มาแล้วต้องหลงเสน่ห์ เพราะไม่มีที่ไหนที่ความสวยงามความโรแมนติกนั้นได้สร้างเป็นอารมณ์สุนทรีมากเหมือนเว้”  นี่คือใจความท่อนหนึ่งของเพลง เว้เมืองที่ฉันรัก ประพันธ์โดยเจืองเตวียดมาย ขับร้องโดย แทงเหวี่ยน ที่เรากำลังเปิดให้ฟัง ซึ่งจากเกียรติประวัติความเป็นมาที่ยาวนานหลายร้อยปีพร้อมจุดเด่นที่น่าสนใจทั้งด้านวัฒนธรรมและศิลปะเว้ เมืองเว้จึงมีความโดดเด่นทั้งเรื่องสถาปัตยกรรม พระราชวัง ป้อมปราการ เจดีย์ สุสานริมแม่น้ำ รวมไปถึงอาหารพื้นเมือง ซึ่งเชื่อว่าผู้ที่ยังไม่ได้มาเที่ยวเว้ก็อยากรู้ว่าเมืองนี้มีอะไรน่าเที่ยว ซึ่งนอกจากเป็นเมืองแห่งงานเฟสติวัลเว้แล้ว เมื่อมาเที่ยวเว้ก็ต้องไปเที่ยว พระราชวังเมืองเว้ ตั้งอยู่ทางเหนือของแม่น้ำหอม มาเที่ยวที่นี่ก็จะพบกับสถาปัตยกรรมของพระราชวัง จักรพรรดิ วัด ซากปรักหักพัง และประวัติศาสตร์ ราชวงศ์เก่า ของเวียดนามจุดหมายอันดับสองคือเจดีย์เทียนหมุ อีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดโดดเด่นของเมืองเว้ เป็นวัดพุทธมหายาน ตั้งอยู่ริมแม่น้ำหอม เป็นอาคารทรงเจดีย์แปดเหลี่ยม 7 ชั้น สูง 21 เมตร คำว่า เทียนหมุ แปลว่า เทพธิดา ดังนั้น นักท่องเที่ยวชาวไทยส่วนใหญ่มาเยือนจึงตั้งชื่อภาษาไทยให้ว่า “วัดเทพธิดาราม” ชมพลับพลาขนาดเล็ก สักการะองค์พระพุทธรูป เดินชมสวนและยังมีหอคอยชมวิวอีกด้วย ซึ่งหากใครชอบธรรมชาติมาเที่ยวที่นี่ก็อาจจะลองเช่าจักรยานปั่นตามทางริมน้ำหรือนั่งเรือมังกรล่องชมวิวก็จะเป็นประสบการณ์ที่น่าประทับใจ  นอกจากนั้นไฮไลท์อันดับ3ของเว้ก็มีสุสานอันโดดเด่นของราชวงศ์เหงียน เช่นสุสานจักรพรรดิไคดิงห์ซึ่งเป็นเพียงสุสานเดียวที่มีการผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมตะวันออกร่วมกับสถาปัตยกรรมตะวันตก สุสานแห่งนี้ถูกสร้างในสมัยจักรพรรดิไคดิงห์ เพื่อใช้เป็นสุสานของพระองค์ แต่แล้วสุสานไม่ทันสร้างเสร็จก็ทรงสวรรคตไปเสียก่อน ภารกิจสร้างสุสานแห่งนี้ต่อให้แล้วเสร็จจึงตกเป็นของ บ๋าวได่ ซึ่งเป็นพระราชโอรส จึงสร้างแล้วเสร็จ

และเมื่อพูดถึงความโรแมนติกของเว้ก็ต้องเอ่ยถึงบรรยากาศธรรมชาติและความงามของสองฝั่งแม่น้ำเฮืองหรือแม่น้ำหอม ซึ่งเป็นสายน้ำที่เปรียบเสมือนสายไหมไหลกลางกรุงเก่าเว้ นั่งเรือล่องแม่น้ำหอมท่านจะได้ชมทิวทัศน์บ้านสวนที่เขียวสดชื่นสองฟากฝั่งของหมู่บ้านชนบทต่างๆไม่ว่าจะเป็น หมู่บ้านกิมลอง หวียะ ดงบา ยาโหย เป็นต้น พร้อมทั้งได้ฟังเพลงพื้นเมือง กาเว้ ที่หวานซึ้งจับใจเชื่อว่าจะทำให้คนที่ได้สัมผัสจะต้องประทับใจไปอีกนาน

รายการเที่ยวเวียดนาม “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” - ảnh 4เว้ยามค่ำคืน 

“คิดถึงลีลาเพลงพื้นเมืองของเว้ คำนามอายนามบั่งที่ใกล้ชิดคุ้นเคย ติดอยู่ในใจเสียงร้องที่หวานซึ้งของสาวเว้ ช่างน่ารักเหลือที่จะกล่าว ฉันคิดถึงเธอคิดถึงเว้ยามบ่ายคล้อย กลีบดอกไม้ร่วงหล่นเหมือนพรมสีแดงแห่งความใฝ่ฝัน ฉันไปตามหาเธออยู่กลางเมืองเว้ ตามหาเสน่ห์ของเว้ในงอบบ่ายเทอที่อยากปล่อยลงในสายน้ำเพื่อฝากรักนั้นถึงเธอ เว้ที่แสนโรแมนติก” คุณผู้ฟังคะ นี่คือใจความของเพลง เว้ที่แสนโรแมนติก ที่ท่านกำลังได้ฟัง ซึ่งแม้ว่า เมืองเว้ จะได้รับความเสียหายจากภัยพิบัติสงครามรวมชาติเวียดนามไปบ้าง แต่ก็ยังคงหลงเหลือร่องรอยแห่งความเจริญรุ่งเรืองของนครจักรพรรดิอยู่อีกไม่น้อย แต่ละแห่งล้วนมีเรื่องราวน่าสนใจมากมายให้นักท่องเที่ยวเดินทางได้เข้าไปเยี่ยมชม ตั้งแต่พระราชวัง สุสานจักรพรรดิ ตลอดจนแม่น้ำหอม แม่น้ำสายสำ คัญไหลผ่านใจกลางเมือง และด้วยความเจริญรุ่งเรืองในอดีต โบราณสถานอันงดงามและทรงคุณค่า วัฒนธรรมที่มีแบบฉบับของตนเอง เว้ จึงได้รับการรับรองเป็นมรดกโลกจาก องค์การยูเนสโก และสิ่งเหล่านี้เองที่เป็นมนต์เสน่ห์ดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกให้มาเยี่ยมเยือนเมืองมรดกโลกริมแม่น้ำหอมที่ยังคงได้รับการอนุรักษ์พัฒนาพร้อมกับกาลเวลาแห่งนี้ สำหรับรายการเที่ยวเวียดนามชื่อว่า “เวียดนาม มนต์เสน่ห์ที่ซ่อนเร้น” ของสถานีวิทยุเวียดนามวันนี้ก็ได้หมดเวลาลงแล้วพบกันใหม่ในรายการต่อไปโดยเราจะพาท่านไปเที่ยวจังหวัดลายโจว์และศึกษาค้นคว้าเอกลักษณ์ความเลื่อมใสของชนเผ่าห่าญี่ในท้องถิ่น.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด