สถานที่ที่ประธานโฮจิมินห์เขียนปฏิญาเอกราชสถาปนาประเทศเวียดนาม
Le Phuong/VOV5 -  
(VOVWORLD) -บ้านเลขที่48ถนนห่างงางตั้งอยู่ในใจกลางย่านโบราณฮานอย ซึ่งเป็นย่านค้าขายที่คึกคักที่สุดของเมืองหลวงมาตั้งแต่อดีต ซึ่งในช่วงปลายเดือนสิงหาคมปี1945 ณ บ้านหลังนี้ ประธานโฮจิมินห์ได้เริ่มเขียนร่างปฏิญญาเอกราช สถาปนาประเทศเวียดนาม และจนถึงปัจจุบันนี้ สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นแหล่งอนุสรณ์สถานที่เก็บรักษาร่องรอยแห่งประวัติศาสตร์ที่ผูกพันกับประธานโฮจิมินห์
บ้านเลขที่48ถนนห่างงาง |
ในช่วงปี40ของศตวรรษก่อน บ้านเลขที่48ถนนห่างงางนี้เป็นร้านขายผ้าไหมหวานฟุกของครอบครัวนาย ตริงวันโบและนางหว่างถิโห่ ซึ่งเป็นหนึ่งในพ่อค้าผ้าไหมรายใหญ่ของฮานอยในสมัยนั้น บ้านหลังนี้ก่อสร้างแบบสถาปัตยกรรมฝรั่งเศสในพื้นที่400ตารางเมตร หน้าบ้านคือเลขที่48ถนนห่างงาง หลังบ้านคือเลขที่35ถนนห่างเกิน ในช่วงเวลาแห่งการปฏิวัตินั้น สถานที่แห่งนี้ถือเป็นที่มั่นที่น่าไว้วางใจและปลอดภัยสำหรับทำการเคลื่อนไหวจึงได้เลือกเป็นสถานที่ทำงานของประธานโฮจิมินห์ตั้งแต่วันที่ 25สิงหาคม-2กันยายนปี1945 ซึ่งเป็นช่วงที่ประธานโฮจิมินห์กับเจ้าหน้าที่พรรคส่วนกลางได้หารือและเห็นชอบ3ประเด็นสำคัญคือ ปฏิญญาเอกราช การจัดงานวันชาติ และสมาชิกคณะรัฐบาลเฉพาะกาล คุณเหงวียนบิ๊กแหง เจ้าหน้าที่ของคณะบริหารเขตโบราณสถานและแหล่งทัศนียภาพฮานอยเผยว่า“คณะกรรมการกลางพรรคได้เลือกบ้านหลังนี้ให้เป็นที่ทำงานของประธานโฮจิมินห์เมื่อกลับจากฐานที่มั่นเวียดบั๊กเพราะนี่เป็นบ้านที่มีประตูสองด้าน ปกติก็มีลูกค้าเข้าออกอย่างคับคั่งแล้วและอีกอย่างคือที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยที่สุด บ้านมี4ชั้น ชั้นล่างเป็นร้านขายผ้า ชั้นสองเป็นส่วนใช้สอยของครอบครัวเจ้าของบ้าน ชั้น3และ4เป็นคลังเก็บสินค้า ประธานโฮจิมินห์ได้มาอยู่และทำงานที่ชั้นสอง หากมีปัญหาอะไรก็สามารถหลบหนีไปทางดาดฟ้าเพื่อทะลุไปบ้านอื่นโดยไม่ต้องออกทางประตูหลัก”
ปฏิญญาเอกราช |
ผ่านช่วงเวลาผันผวนต่างๆของประวัติศาสตร์ แต่บ้านเลขที่48ถนนห่างงางนี้ยังคงได้รับการรักษาไว้อย่างสมบูรณ์และตั้งแต่ปี1970ที่นี่ได้กลายเป็นสถานที่จัดแสดงสิ่งของเอกสารต่างๆเกี่ยวกับการปฏิวัติเดือนสิงหาคม รวมทั้งเป็นสถานที่จัดงานนิทรรศการในโอกาสสำคัญต่างๆเช่น รำลึกวันชาติ2กันยายน วันปลดปล่อยภาคใต้รวมประเทศเป็นเอกภาพ30เมษายน วันปลดปล่อยนครหลวง10ตุลาคม ชั้นสองของบ้านเป็นที่จัดแสดงบรรยากาศห้องพักห้องทำงานที่ประธานโฮจิมินห์นั่งเขียนปฏิญญาเอกราชและประชุมหารือกับคณะกรรมการกลางพรรค“ที่นี่มีชุดโต๊ะเก้าอี้ที่ท่านนั่งเขียนปฏิญญาเอกราช ซึ่งในตอนนั้นเจ้าของบ้านเองก็ไม่รู้คนที่มาพักในบ้านของเขาคือใครจนเห็นท่านยืนบนเวทีอ่านปฏิญญาเอกราช ณ จตุรัสบาดิ่งห์พวกเขาถึงรู้ว่าท่านคือประธานโฮจิมินห์”
สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศที่มาเยี่ยมชมบ้านหลังนี้โดยเฉพาะส่วนจัดแสดงบนชั้นสองต่างก็รู้สึกแปลกใจและซาบซึ้งใจมากเมื่อได้มาเห็นสถานที่ที่มีความหมายนี้กับตาอย่างนาย โทมาส บาเยอร์ นักท่องเที่ยวอังกฤษและคุณถวี่จีจากจังหวัดหว่ายบิ่งห์ได้กล่าวว่า“ผมรู้สึกแปลกใจมากเมื่อทราบว่าปฏิญญาเอกราชของเวียดนามได้ถูกเขียนในสถานที่แห่งนี้ ซึ่งห้องทำงานของประธานโฮจิมินห์นั้นเรียบง่ายมาก มีแค่ตู้เอกสารเล็กๆ เตียงเดี่ยวผ้าใบและชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆ แต่ ณ ที่นี่ท่านได้เขียนเอกสารที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งสำหรับประเทศเวียดนาม”
“เมื่อมาชมสถานที่แห่งนี้ดิฉันก็ยิ่งเข้าใจความหมายที่ลึกซึ้งของคำว่า งานที่ง่ายแต่ไม่มีประชาชนช่วยก็ไม่สำเร็จ แต่แม้งานจะยากแค่ไหนแต่ถ้ามีการสนับสนุนของประชาชนก็ย่อมลุล่วงไปด้วยดี ซึ่งการสนับสนุนกระบวนการปฏิวัติของครอบครัวคุณโบนั้นก็ได้มีส่วนร่วมต่อความสำเร็จของกระบวนการต่อสู้เพื่อช่วงชิงเอกราชมาให้แก่ประชาชาติเวียดนาม ซึ่งคนรุ่นใหม่อย่างเราจะต้องตระหนักถึงสิ่งนี้เพื่อพยายามมากขึ้นในการมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศให้เข้มแข็งมั่นคง”
|
บนชั้นสองของบ้านเลขที่48ถนนห่างงางนี้ ยังมีห้องข้างๆห้องทำงานที่ประธานโฮจิมินห์ใช้เป็นห้องรับแขกและห้องประชุมกับสมาชิกคณะกรรมการกลางพรรคที่สำคัญๆ ซึ่งคุณ เหงวียนบิ๊กแหง เจ้าหน้าที่ของคณะบริหารเขตโบราณสถานและแหล่งทัศนียภาพฮานอยเผยอีกว่า“ณ ที่แห่งนี้ยังเกิดเหตุการณ์พิเศษคือ วันที่26สิงหาคมปี1945ก่อนที่ประธานโฮจิมินห์ได้ประกาศปฏิญญาเอกราช ท่านได้ต้อนรับแขกต่างชาติพิเศษคือ พันตรี อาร์จีมีเดส ปาตตี หัวหน้าหน่วยโอเอสเอส ซึ่งเป็นสำนักงานเชิงยุทธศาสตร์สหรัฐ ซึ่งเขาก็เป็นชาวต่างชาติคนแรกและคนเดียวที่ได้อ่านปฏิญญาเอกราชก่อนประกาศอย่างเป็นทางการและยังได้รับเชิญเข้าร่วมงานวันชาติสถาปนาประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยเวียดนามในวันที่2กันยายนปี1945ด้วย”
ปี1979 บ้านเลขที่48ถนนห่างงางได้รับการรับรองเป็นโบราณสถานประวัติศาสตร์แห่งชาติและได้กลายเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความหมายผูกพันกับชีวิตการเคลื่อนไหวปฏิวัติระยะหนึ่งของประธานโฮจิมินห์ที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเดินทางมาเยือนเมื่อมาเที่ยวกรุงฮานอย.
Le Phuong/VOV5