( VOVworld )-เส้นทางไปยังหมู่บ้านแทงหว่านได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางหมู่บ้านที่สวยแห่งหนึ่งในกรุงเก่าเว้  นักท่องเที่ยวที่ขี่รถจักรยานบนเส้นทางนี้จะไม่รู้สึกเหนื่อยจากแดดแรงกล้า หากกลับได้กลิ่นหอมที่โชยมาจากทุ่งนาเขียวขจีและสวนผลไม้ที่กำลังออกผลสุกพอดีสองข้างทางเข้าหมู่บ้าน ที่หมู่บ้านแทงตว่านมีสะพานไม้หลังคามุงกระเบื้องเก่าแก่ที่มีอายุหลายร้อยปีที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาดเมื่อมีโอกาสไปเที่ยวกรุงเก่าเว้

หมู่บ้านแทงตว่านที่มีสะพานหลังคามุงกระเบื้องข้ามคลองขนาดเล็กระหว่างหมู่บ้านแทงตว่านกับหมู่บ้านแทงถุ่ย อยู่ห่างจากใจกลางกรุงเก่าเว้ไปทางทิศตะวันออกประมาณ ๘ กิโลเมตร  เนื่องจากระยะทางไปยังหมู่บ้านแทงตว่านไม่ไกลนักดังนั้นเราสามารถขี่รถจักรยานไปยังหมู่บ้านได้อย่างสะดวกสบายอีกทั้งเป็นการออกกำลังด้วย  นายเหงวียนแถ่งตรูงที่ประกอบธุรกิจการท่องเที่ยวในกรุงเก่าเว้เปิดเผยว่า แรงดึงดูดใจนักท่องเที่ยวของหมู่บ้านแทงตว่านไม่ใช่เฉพาะทัศนียภาพ สะพานไม้เก่าแก่ ศาลเจ้าและอาคารบูชาตระกูลเท่านั้น หากยังมีคุณค่าด้านการท่องเที่ยวที่น่าค้นหาเช่น งานเทศกาลพื้นบ้าน การผลิตเกษตรและวิถีชีวิตในชนบท นายตรูงกล่าวว่า  “ เส้นทางไปยังหมู่บ้านไม่ไกลนักจึงสามารถไปเที่ยวได้ทุกเวลา ถนนหมู่บ้านโล่ง ส่วนการเดินทางไปยังหมู่บ้านต้องผ่านทุ่งนาและทิวทัศน์ชนบทที่สวยงาม นักท่องเที่ยวจะพบเห็นภาพชีวิตในชนบทที่คุ้นตาและคุ้นเคยเช่น การเกี่ยวข้าวและเลี้ยงเป็ดไล่ทุ่ง หมู่บ้านแทงตว่านยังคงอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามต่างๆมาจนถึงทุกวันนี้ แม้จะอยู่ห่างจากตัวเมืองไม่ไกลนักแต่หมู่บ้านแทงตว่านยังไม่ถูกกระแสพัฒนาเป็นตัวเมืองกลืนหายไป ”

สะพานไม้หลังคามุงกระเบื้องของหมู่บ้านแทงตว่านยาว ๑๗ เมตร กว้าง ๔ เมตร สองด้านของสะพานมีระเบียงแวะพักสำหรับผู้เดินเท้าผ่านสะพาน สะพานแทงต่วานหลังคามุงกระเบื้องท่อเคลือบเซรามิก บนหลังคามีรูปมังกรสองตัวหันหน้าเข้าหาชมพระอาทิตย์  สะพานได้รับการสลักรูปวงกลมและสี่เหลี่ยมจัตุรัสเพื่อเติมแต่งความสวยงาม  นายเหงวียนวันแทงชาวเว้เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับสะพานหลังคามุงกระเบื้องว่า  “ สะพานได้รับการก่อสร้างในสมัยที่เกษตริย์เลครองราชสมบัติเมื่อปีค.ศ.๑๗๗๖ โดยพระนางเจ้าเจิ่นถิ่ด๋าวในกษัตริย์เล  เมื่อพระนางเจ้าเจิ่นถิ่ด๋าวเสด็จมาได้ทอดพระเนตรเห็นคลอง ซึ่งทำให้ชาวบ้านมีความลำบากในการเดินทาง อีกทั้งแม้อายุมากแล้วแต่ก็ยังไม่มีบุตร ท่านจึงพระราชทานเงินให้ก่อสร้างสะพานเพื่ออธิษฐานขอให้เทวดาบันดาลให้ตนมีบุตรและทำบุญให้แก่กาชาวบ้าน  เมื่อสะพานก่อสร้างเสร็จพระนางเจ้าเจิ่นถิ่ด๋าวได้รับหนังสือพระราชโองการชมเชยจากกษัตริย์เล  ท่านได้รับการยกย่องบูชาจากชาวบ้าน โดยมีการสร้างศาลเจ้าบูชาท่านอยู่ตรงกลางสะพาน นับเป็นสะพานเก่าแก่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรม   ”

ใกล้กับสะพานไม้หลังคามุงกระเบื้องมีตลาดชนบท แม้ว่าตลาดไม่พลุกพล่านเหมือนตลาดในตัวเมืองแต่เมื่อย่างเท้าเข้าไปในตลาด นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับหมู่บ้านชนบทเวียดนามที่เรียบง่าย  ภายในตลาดมีแผงขายสินค้าชนบทที่จัดอย่างเป็นระเบียบและแม่ค้าเป็นสตรีของหมู่บ้าน เดินเที่ยวชมรอบๆตลาดเราจะพบเห็นอาหารพื้นบ้านเว้ที่ปรุงโดยฝีมือของชาวบ้านไม่ว่าจะเป็นขนมเผือกกับปลากิ่ง ขนมจีนกับหอยพอกและก๋วยจั๊บถุ่ยเซือง

พอเดินไปจนสุดสะพานจะพบอาคารจัดแสดงสิ่งของวัตถุต่างๆของหมู่บ้านแทงถุ่ยไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือทำการเกษตรและกิจกรรมต่างๆเกี่ยวกับการปลูกข้าวนาดำเช่น คันไถ คราด เคียว จอบและครกกระเดื่อง ตลอดจนเครื่องมือจับปลาในนาเช่นแห สุ่มจับปลาและของที่ระลึกที่ทำจากไม้ไผ่และหวาย  นายเหงวียนแถ่งตรูงเล่าว่า  “ ที่นี่มีการบรรยายขั้นตอนการผลิตข้าวตั้งแต่การหว่านข้าวไปจนถึงการเกี่ยวข้าวและตำข้าว  เด็กๆชอบกิจกรรมนี้มาก  มาที่นี่ผู้ใหญ่จะได้ลิ้มลองอาหารอร่อยๆของหมู่บ้าน ส่วนเด็กๆจะได้เข้าร่วมกิจกรรมที่สนุกในชีวิตประจำวันของหมู่บ้าน ”

ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่ขณะนี้คือเพลงโห่เว้ ขับร้องโดยสตรีของหมู่บ้าน  พวกเขาเป็นผู้บรรยายของอาคารจัดแสดง  จากความรู้เกี่ยวกับอาชีพเกษตรกรรม สตรีของหมู่บ้านแทงตว่านสามารถถ่ายทอดให้นักท่องเที่ยวเข้าใจเกี่ยวกับวัฒนธรรมเกษตรกรรมของเวียดนาม .