ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนาม – การเชิดชูคุณค่าแห่งวัฒนธรรมประชาชาติ

(VOVWorld)-ความเป็นมาของการปฏิบัติความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเป็นการบูชาเทพธิดาที่ดูแลโลกเบื้องบน สายน้ำและป่าเขา การที่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกได้ประกาศรับรองความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาตินั้นถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับคนเวียดนามและเป็นการยืนยันถึงคุณค่าและพลังชีวิตที่ยั่งยืนของความเลื่อมใสรูปแบบหนึ่งที่ปรากฎในชีวิตวัฒนธรรมของชาวเวียดนามมาแต่เนิ่นนาน


(VOVWorld)-ความเป็นมาของการปฏิบัติความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามมีขึ้นตั้งแต่ศตวรรษที่ 16 โดยเป็นการบูชาเทพธิดาที่ดูแลโลกเบื้องบน สายน้ำและป่าเขา การที่เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม องค์การศึกษาวิทยาศาสตร์และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติหรือยูเนสโกได้ประกาศรับรองความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามเป็นมรดกวัฒนธรรมนามธรรมของมนุษยชาตินั้นถือเป็นความภาคภูมิใจสำหรับคนเวียดนามและเป็นการยืนยันถึงคุณค่าและพลังชีวิตที่ยั่งยืนของความเลื่อมใสรูปแบบหนึ่งที่ปรากฎในชีวิตวัฒนธรรมของชาวเวียดนามมาแต่เนิ่นนาน
ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนาม – การเชิดชูคุณค่าแห่งวัฒนธรรมประชาชาติ - ảnh 1
การเข้าทรงมี 36 ชุดที่เป็นตัวแทนให้แก่เทพเจ้าองค์ต่างๆ

ท่านกำลังฟังการร้องเพลงในการแสดงชุด “โกโดยเถืองหง่าน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในพิธีทรงเข้าเพื่อบูชาเทพารักษ์ เสียงดนตรีที่คึกครึ้นและการแสดงท่ารำที่อ่อนช้อยของผู้เข้าทรงได้ช่วยให้พิธีกรรมแห่งความเลื่อมใสนี้มีความศักดิ์สิทธิ์และน่าสนใจมากขึ้น ศ.โงดึ๊กถิง ผู้เชี่ยวชาญชั้นนำในการวิจัยความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามเผยว่า การเข้าทรงคือการเชื่อมโยงเทพเจ้ากับมนุษย์ ซึ่งผู้เข้าทรงทำหน้าที่เป็นสื่อกลาง ดังนั้นพิธีเข้าทรงจึงเป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการบูชาเจ้าแม่ตามความเลื่อมใสของชาวเวียดนาม  “ ในเดือนที่ 3 และเดือนที่ 8 ตามจันทรคติ มักจะมีการจัดพิธีเข้าทรงที่เรียกในภาษาเวียดนามว่า “เห่าด่งหรือเห่าบ๊อง” โดยบรรดาเทพธิดาจะเข้าร่างทรง มีการร้องเพลงเข้าทรง มีดนตรีและมีการเต้นรำ การเข้าทรงมี 36 ชุดที่เป็นตัวแทนให้แก่เทพเจ้าองค์ต่างๆโดยมีวัตถุประสงค์ให้ผู้เข้าร่วมในพิธีขอพรจากเทพเจ้า”

ตามข้อมูลการวิจัย ความเลื่อมใสในการบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามนั้นบูชาเทพธิดา 3 องค์คือ องค์ที่ดูแลสวรรค์ องค์ที่ดูแลป่าไม้และองค์ที่ดูแลแม่น้ำลำธาร นอกจากนี้ยังมีการเชิดชูบูชาเทพเจ้าที่เป็นวีรสตรีและวีรบุรุษในประวัติศาตร์หรือในตำนานที่มีคุณูปการต่อชาติบ้านเมือง ความเลื่อมใสในการบูชาเจ้าแม่ของเวียดนามคือการผสมผสานระหว่างความเลื่อมใสบูชาของชาวท้องถิ่นกับศาสนาที่มาจากประเทศอื่นๆ เช่น พุทธศาสนาและลัทธิเต๋า โดยบรรดาเทพเจ้าที่บูชานั้นไม่เพียงแต่เป็นเทพของชนชาติกิงเท่านั้น หากยังมีเทพของชนกลุ่มน้อยด้วย เช่น เหมื่อง ไต หนุ่งและเย้า ซึ่งสะท้อนการแลกเปลี่ยนทางวัฒนธรรม ความสัมพันธ์ที่เท่าเทียมกันและความผูกพันที่แน่นแฟ้นระหว่างประชาชาติในเวียดนาม ศ.โงดึ๊กถิงเผยว่า “ต้นกำเนิดของความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่เริ่มขึ้นในเขตที่ราบลุ่มภาคเหนือ โดยเฉพาะปรากฎที่จังหวัดนามดิ๋ง แทงฮว้าและนิงบิ่งห์ ซึ่งเทพเจ้าคือเจ้าแม่เหลียวแหงได้ลงมาที่พื้นดินสามครั้งในท้องถิ่นแห่งนี้ ต่อจากนั้น ประชาชนได้ก่อสร้างวิหารเพื่อบูชาเจ้าแม่เหลียวแหงในท้องถิ่น เช่น วิหารใหญ่และวิหารเลิ๊บที่จังหวัดนามดิ๋ง”

ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนาม – การเชิดชูคุณค่าแห่งวัฒนธรรมประชาชาติ - ảnh 2
ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามสอนให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างมีคุณธรรมและเมตตาธรรม

นายเหงียนวันเตี๊ยน ผู้เข้าร่วมพิธีเข้าทรงเผยว่า ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่เป็นพิธีกรรมศาสนาที่มีมุมมองเกี่ยวกับชีวิตอย่างเป็นเอกลักษณ์และก้าวหน้า โดยพลังชีวิตและความหมายของความเลื่อมใสนี้ก็เพื่อตอบสนองความต้องการและความปรารถนาในการขอพรจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของมนุษย์ในชีวิตประจำวัน “ความเลื่อมใสบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนามสอนให้มนุษย์ใช้ชีวิตอย่างมีความเมตตาธรรม มีความเคารพต่อบรรพบุรุษ เชิดชูบูชาวีรชนของประชาชาติ ซึ่งเป็นผู้ที่ได้ปฏิบัติและสละชีพเพื่อประชาชนและประเทศ ความเลื่อมใสนี้ตอบสนองความต้องการของมนุษย์คือการขอพร ขอให้มีสุขภาพดี ร่ำรวยและประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน เป็นต้น”

ตามความเชื่อของชาวเวียดนาม ทุกสิ่งทุกอย่างในธรรมชาติ เช่น แดดจัด น้ำท่วม ความแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ พืชและสัตว์ที่เติบโตหรือตายก็อยู่ภายใต้อำนาจของเจ้าแม่ที่เป็นเทพธิดาทั้งหลาย ถ้าหากได้รับการปกป้องจากเจ้าแม่ ชีวิตความเป็นอยู่ของมนุษย์จะดีขึ้น นี่คือคุณค่าที่เป็นเอกลักษณ์ของความเลื่อมใสในการบูชาเจ้าแม่ของชาวเวียดนาม นายเหงียนเตี๊ยนหยุง นักวิจัยวัฒนธรรมความเลื่อมใสเผยว่า “ถ้าหากได้ชมพิธีการเข้าทรงเราก็สามารถรู้เห็นคุณค่าด้านศิลปะในหลากหลายรูปแบบทั้งการเต้นรำ การร้องเพลง การจัดดอกไม้ ศิลปะการป้องกันตัว ประติมากรรม การพับกระดาษ อาหารและการแต่งกาย ความเลื่อมใสนี้เป็นที่พึ่งทางจิตวิญญาณของชาวเวียดนาม ซึ่งช่วยให้ทุกคนทำดี มีน้ำใจและอยู่ใกล้ชิดกันมากขึ้น ขอให้ฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาล ประชาชนมั่งคั่งและประเทศสงบสุข”.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด