สำหรับชาวเผ่า เคอมู้ ตรุษเต๊ตตามประเพณีถือเป็นเทศกาลที่ใหญ่เป็นอันดับ2ของปีรองจากเทศกาลบุญข้าวใหม่ดังนั้นทุกคนต่างเตรียมพร้อมข้าวของไว้เพื่อต้อนรับแขกเหรื่อในช่วงตรุษเต๊ต โดยเฉพาะเหล้าอุต้องเตรียมไว้ประมาณ3-4ไห และที่สำคัญที่สุดคือต้องมีไก่ตอนซึ่งเป็นสิ่งสำคัญที่ขาดมิได้ในการฉลองตรุษเต๊ตของชนเผ่านี้
            ประเพณีการต้อนรับปีใหม่ของชนเผ่าเคอมู้ในตำบลเหมื่องพังจังหวัดเดียนเบียนทางตอนบนของเวียดนามนั้นถือว่ามีเอกลักษณ์เฉพาะไม่เหมือนไคร โดยในคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ทุกบ้านจะเชือดไก่ตอนเพื่อนำขาไก่ไปใช้ดูดวงให้แก่ครอบครัวในวันปีใหม่ โดยหน้าที่นี้มอบให้ผู้สูงอายุในบ้านเพื่อขอพรให้ปีใหม่ครอบครัวได้อยู่ดีมีความสุข ส่วนเลือดไก่ต้องเก็บไว้เป็นอย่างดีเพราะต้องใช้เซ่นไหว้บรรพชนและใช้แต้มที่ขาของเจ้าของบ้านเพื่อเป็นการสะเดาะเคราะห์และขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์คุ้มครองให้ทั้งครอบครัวมีสุขภาพแข็งแรงและมีความสุข และเมื่อมีแขกมาอวยพรที่บ้าน เจ้าของบ้านก็จะแต้มเลือดไก่เพิ่มอีกขีดบนขาของตนด้วยความเชื่อว่ายิ่งมีหลายขีดก็ยิ่งมีความสุข

            การอวยพรปีใหม่ของชนเผ่าเคอมู้ถือว่ามีความพิเศษน่าสนใจ โดยในตลอดช่วงวันขึ้นปีใหม่นั้น ชาวเคอมู้จะร่วมร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนานและอวยพรให้แก่กันผ่านเสียงเพลง ร้องโต้ตอบระหว่างชายหญิงเหมือนจะไม่มีการจากลากันเพราะในวันปีใหม่ทุกคนต่างก็อยากฝากความรักความปรารถนาดีให้แก่กัน นาย Quang Van Muon เลขาธิการพรรคสาขาหมู่บ้าน เตน เผยว่า ถึงแม้ชีวิตยังลำบากแต่เมื่อปีใหม่เวียนมาชาวบ้านก็พยายามสร้างสรรค์บรรยากาศที่สนุกสนานรื่นเริง วันที่30เดือน12นั้นเป็นวันส่งท้ายปีเก่าทุกคนจะอยู่ที่บ้านต้อนรับปีใหม่กับครอบครัว ถึงวันตรูษเต๊ตที่1ก็เริ่มออกไปเยี่ยมเยือนอวยพรกัน แม้จะไม่มีการฉลองอย่างใหญ่โตแต่ก็มีการพบปะพูดคุยกันท่ามกลางบรรยากาศที่สุขสันและ ร่วมร้องรำทำเพลงกันอย่างสนุกสนาน.

            วันตรุษเต๊ตที่1เป็นวันสำหรับครอบครัวและญาติพี่น้อง ลูกหลานจะมาอวยพรพ่อแม่และร่วมรับประทานอาหารกัน  ส่วนวันที่สองเป็นวันที่ทุกคนพร้อมกับคณะร้องเพลงของหมู่บ้านไปเยี่ยมเยือนทุกครอบครัวและอวยพรปีใหม่ คุณ Lu Thi Nen สมาชิกในคณะนักร้องของหมู่บ้านเผยว่า เราร้องเพลงอวยพรให้เจ้าของบ้านมีสุขภาพแข็งแรง มีข้าวของเต็มบ้านและมีความผาสุข ทุกคนเพลิดเพลินกับเสียงเพลงและบรรยากาศอันชื่นมื่นของปีใหม่และทั้งคณะจะได้รับเชิญให้ดื่มเหล้า ส่วนคุณ Luong Thi Nun ชาวบ้านอีกคนบอกว่า การไปอวยพรปีใหม่กันนั้นจะต้องใช้เวลา2วันเต็มเพราะพวกเราอยากนำความสุขมาสู่ทุกบ้านในช่วงตรุษเต๊ตทุกคนร้องเพลงตลอดสองวันจนเสียงแหบไปหมดแต่ก็ไม่มีใครอยากหยุด แม้ว่าปกติก็ได้พบกันทุกวันแต่การพบปะในช่วงปีใหม่ถือว่ามีความอบอุ่นและใกล้ชิดกันมากเป็นพิเศษ.

            เสียงเพลง เสียงฆ้องดังกังวาลไปทั่วหมู่บ้าน ดูเหมือนเร่งเร้าให้ดอกท้อป่าและดอกไม้อื่นๆบานสะพรั่ง อวดโฉมปะโลมบรรยากาศแห่งวสันต์ อากาศหนาวก็ไม่ทำให้บรรยากาศชื่นมื่นในการต้อนรับปีใหม่ของชาวบ้านลดน้อยลง โดยหนุ่มสาวในชุดแต่งกายที่มีสีสันสดใสได้ร่วมร้องรำทำเพลงพร้อมเสียงขลุ่ยเสียงฆ้องด้วยใบหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสและอิ่มเอิบไปด้วยความสุขสัน ซึ่งการละเล่นพื้นเมืองและงานเทศกาลต่างๆดูเหมือนได้เพิ่มพลังชีวิตให้ชาวบ้านเพื่อเตรียมเข้าสู่ฤดูการทำนาใหม่ที่จะเริ่มขึ้นหลังวันขึ้น15ค่ำเดือนอ้ายตามจันทรคติ   วันนั้นทุกครอบครัวจะจัดพิธีเส้นไหว้บรรพชนครั้งใหญ่และปรารถนาว่าในปีใหม่การเก็บเกี่ยวจะได้ผลดีและชีวิตมีแต่ความผาสุข./.

                                                                                                                                     Lan Anh-VOV5