มังกรในจิตสำนึกของชาวเวียดนาม
ในจิตสำนึกของชาวเวียดนาม มังกรเป็นสัตว์สูงส่งในจินตนาการแต่ภาพลักษณ์ของมังกรกลับมีให้เห็นทั่วไปในชีวิตสังคม ตามความนึกคิดที่มีมาแต่เดิมนานนั้น ชาวเวียดนามถือว่า มังกรเป็นสัตว์นำโชคและฉลาดที่สุดใน 12 นักษัตร มังกรเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรี อำนาจและความปรีชาสามารถ ฉนั้นในตรุษเต๊ตปีมะโรง 2012 นี้ชาวเวียดนามเชื่อว่าเป็นปีนำโชค
ในจิตสำนึกของชาวเวียดนาม มังกรเป็นสัตว์สูงส่งในจินตนาการแต่ภาพลักษณ์ของมังกรกลับมีให้เห็นทั่วไปในชีวิตสังคม ตามความนึกคิดที่มีมาแต่เดิมนานนั้น ชาวเวียดนามถือว่า มังกรเป็นสัตว์นำโชคและฉลาดที่สุดใน 12 นักษัตร มังกรเป็นสัญลักษณ์ของศักดิ์ศรี อำนาจและความปรีชาสามารถ ฉนั้นในตรุษเต๊ตปีมะโรง 2012 นี้ชาวเวียดนามเชื่อว่าเป็นปีนำโชค
|
รูปมังกรในสวนน้ำ DamSen |
ตั้งแต่โบราณกาลนานมาแล้ว ในวัฒนธรรมและความเชื่อของชาวเวียดนาม มังกรเป็นสัตว์ที่มีความสำคัญเป็นพิเศษเพราะถือกันว่า มังกรเป็นสัตว์แห่งสัญลักษณ์ของอำนาจสูงสุดของกษัตริย์ ดังนั้น ในพระราชวังของกษัตริย์สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆจะมีคำนำหน้าว่า ลองคือชื่อเรียกมังกรอีกชื่อหนึ่งอย่างเช่นคำว่า “ลองส่าง” หมายความว่า พระแท่นบรรทม “ลองบ่าว” หมายความว่าฉลองพระองค์ “ลองซา” หมายความว่า รถพระที่นั่ง เป็นต้น ในชีวิตทางจิตวิญญาณของชาวเวียดนาม มังกรได้รับจัดอยู่ในอันดับหนึ่งในสัตว์สูงส่ง 4 ตัวคือ “มังกร กิเลน เต่า หงส์” สำหรับชาวเวียดนามมังกรคือต้นกำเนิดของประชาชาติที่ผูกพันธ์กับตำนานที่เล่าสืบกันมาตั้งแต่โบราณจนถึงปัจจุบันว่า ในสมัยดึกดำบรรพ์ เทพเจ้า LạcLongQuân (คือมังกร) แต่งงานกับเทพธิดา ÂuCơ (คือนางฟ้า) คลอดออกมาเป็นไข่ 100 ฟองแล้วแตกออกมาเป็นโอรส 100 องค์และประชาชาติเวียดนามจึงมีมาตั้งแต่นั้นโดยถือว่า ตนเป็นลูกหลานของมังกรและนางฟ้า ในช่วงนั้น ภาพลักษณ์ของมังกรได้รับการล่าวถึงในวัฒนธรรม ĐôngSơn และ ÂuLạc ด้วยการตกแต่งรูปมังกรคล้ายตัว S และการบูชาเทพต่างๆเพื่อขอพรให้บ้านเมืองมีความอุดมสมบุรณ์และรุ่งเรือง ผ่านช่วงต่างๆของประวัติศาสตร์มังกรยังคงได้รับการถือว่า เป็นสัญลักษณ์แห่งพลังเข้มแข็งและความรุ่งเรืองของประชาชาติ แห่งอำนาจของรัฐศักดินา
|
แต่จะเด่นชัดที่สุดในสมัยรัชกาล Lý ก่อนหน้านี้ประมาณ 1000 ปีโดยในพระราชโองการของกษัตริย์ LýTháiTổ ให้ย้ายราชธานีจาก HoaLư (NinhBình) ไปยังเมือง ĐạiLa ได้กล่าวถึงพระสุบินของพระองค์ที่เห็น “มังกรเหาะเหินขึ้นสู่ท้องฟ้า” จึงตั้งชื่อให้ราชธานีใหม่ว่า “ThăngLong” หมายความว่า มังกร “เหินฟ้า” แสดงให้เห็นความใฝ่ฝันในการที่จะพัฒนขึ้นสู่ขั้นสูงของประชาชาติเวียดนาม ผ่านยุคสมัยของรัชกาล Lý-Trần-Lê จนถึงรัชกาล Nguyễn ในสถาปัตยกรรมต่างๆก็จะมีการตกแต่งด้วยรูปมังกรพ่นน้ำ มังกรผงาด เป็นต้น ในโอกาสงานสมโภชกรุง ThăngLong-ฮานอย 1000 ปีที่จัดขึ้นในเดือนตุลาคมปี 2010 นักถ่ายทำภาพยนต์เวียดนามได้ทำการถ่ายทำภาพยนต์สารคดี 3 มิติให้ชื่อว่า “มังกรเวียดนาม” แม้จะมีความยาวเพียง 3 นาทีแต่ถือได้ว่าเป็นสาส์นพิเศษเกี่ยวกับประเทศเวียดนามที่มีรูปมังกรม้วนตัวคล้ายอักษร S ซึ่งได้สร้างความประทับใจอย่างสุดซึ้งต่อชาวเวียดนามนับสิบล้านคน ด.TrầnVănKhê นักศึกษาวิจัยวัฒนธรรมที่มีชื่อเสียงคนหนึ่งของเวียดนามมีความเห็นว่า "ผมได้ดูหนังเรื่อง “มังกรเวียดนาม”แล้ว ผมตื้นตันใจและประทับใจมากเมื่อเห็นมังกรเหาะเหินบนท้องฟ้า แล้วร่อนลงสู่ประเทศเวียดนาม ทำให้เรานึกถึงภูมิศาสตร์ประเทศเวียดนามบนพื้นพิภพที่มีรูปร่างคล้ายตัวอักษร S แต่อันที่จริงนั่นคือ รูปมังกร หัวมังกรอยู่ภาคเหนือ หางมังกรอยู่ที่แหลม CàMau ที่หางมังกรมีหลายซีกแยกออกมาทำให้เรานึกถึงภาคใต้ที่มีที่ราบลุ่มแม่น้ำ CửuLong (หมายความว่า แม่น้ำ 9 มังกร) ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า มังกรมีความผูกพันธ์อย่างใกล้ชิดกับคนเวียดนาม ในทางเชื้อชาติ คนเวียดนามคิดอยู่เสมอว่า ตนเป็นลูกหลานของพญามังกรและนางฟ้าเพราะฉนั้น มังกรตัวนั้นจึงเป็นมังกรพิเศษของประเทศเวียดนาม”
ในชีวิตสังคม ภาพลักษ์ของมังกรปรากฏให้เห็นมากมายหลายแบบ เช่นการรำเชิดมังกรในศาลาหมู่บ้าน การแข่งเรือมังกร งานเทศกาลแม่น้ำ งานด้านศิลปะ งานแกะสลัก สถาปัตยกรรมวัดวาอารามและราชวัง ในแทบทุกยุคทุกสมัย มังกรจะเป็นสัตว์ในจินตนาการของชาวเวียดนามเสมอและภาพที่โดดเด่นที่สุดก็คือ มังกรขดตัวเป็นวงหัวเชิดขึ้นอ้าปากกว้างหยอกล้อกับมรกต นอกจากนั้นแล้วยังมีภาพมังกรขดตัว 12 วงเป็นสัญลักษณ์ของ 12 เดือนในปีที่มีอากาศเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล สรุปแล้วถ้ามองในภาพรวม มังกรเวียดนามเป็นสัตว์ที่งดงามและมีคุณค่าทางด้านวิจิตรศิลป์และจะปรากฏให้เห็นจากการรำเชิดมังกรในงานเทศกาลพื้นเมืองทั่วไปของชาวเวียดนาม
|
มังกรในสมัยราชวงค์ Nguyen |
ก็โดยที่ถือมังกรเป็นสัตว์แห่งสัญญาลักษณ์ของการนำโชคของอำนาจและความเฉลียวฉลาดที่สุดใน 12 นักษัตร ฉนั้นในโอกาสตรุษเต๊ตปีะมะโรง 2012 เวียนมา ชาวเวียดนามส่วนใหญ่ปรารถนาจะได้ลูกเกิดปีมะโรงเพื่อหวังให้ลูกมีพลังเข้มแข็ง มีความเก่งกาจสามารถและเจริญก้าวหน้าในอนาคต./.
TôTuấn - VOV5