ผลงานที่ใช้เทคนิกของละครเงาและการฟ้อนรำร่วมสมัย (baovanhoa)

“ศิลปินที่เข้าร่วมโครงการล้วนเป็นศิลปินที่มีความสามารถสูง มีมุมมองที่เปิดกว้างโดยเฉพาะอนาคตของศิลปะพื้นเมือง ศิลปะพื้นเมืองเป็นสิ่งที่มีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยมีมานับพันปีและพัฒนาอย่างต่อเนื่องให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน”

นี่คือคำกล่าวของนักดนตรีโด๊ะซวนเซิน ที่ปรึกษาทางวิชาการของโครงการ “อนาคตของศิลปะพื้นเมือง” โดยเขาชื่นชอบงานดนตรีสร้างสรรค์และมีความคิดว่า ศิลปะพื้นเมืองไม่ใช่แค่สิ่งที่ต้องอนุรักษ์เท่านั้น หากต้องปรับเปลี่ยนและมีการพัฒนาสิ่งใหม่ๆให้สอดคล้องกับชีวิตในปัจจุบันอีกด้วย พร้อมทั้งเผยว่า คนรุ่นใหม่กำลังพยายามส่งเสริมศิลปะพื้นเมืองและสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆผ่านกิจกรรมที่เป็นรูปธรรม

ในอีกหนึ่งแง่มุม โงทูเฮืองคือศิลปินรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการวาดภาพและเคยเข้าร่วมงานนิทรรศการภาพวาดทั้งภายในและต่างประเทศในตลอด 6ปีที่ผ่านมา โดยผลงานการวาดบนผ้าไหมที่ชื่อ “การสนทนา”ของเธอที่จัดแสดงในงาน “เปิด workshop อย่ายืนดูเพียงอย่างเดียว”มีบทสนทนาบางส่วนที่นำมาจากผลงานวรรณกรรมเกี่ยวกับช่วงสงครามผสานกับการแสดงบทละครแจ่วโบราณกวานเอิมถิ่กิ๊ง ซึ่งจิตรกรโงทูเฮืองได้ประสบความสำเร็จในการสร้างบรรยากาศวัฒนธรรมที่มีการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมพื้นเมืองและศิลปะร่วมสมัยและการตั้งคำถามเกี่ยวกับความสุขจากมุมมองของสตรีในระยะต่างๆ“มุมมองของดิฉันเกี่ยวกับสตรีที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมมีการเปลี่ยนแปลงเป็นอย่างมาก โดยก่อนหน้านี้ ดิฉันคิดว่า ศิลปะแบบดั้งเดิมคือแนวคิดที่ไม่เปิดกว้างและเปลี่ยนแปลงได้ยาก แต่ดิฉันก็อยากปรับปรุงให้เป็นเอกลักษณ์ของตัวเองและยังคงความดั้งเดิมเอาไว้”

ส่วนการใช้จังหวะเพลงทำนองก๋ายเลืองผสานกับดนตรีร่วมสมัยของศิลปินต๊วนหนิที่กำลังเรียนคณะการประพันธ์เพลงได้สร้างผลงานเพลงทำนองก๋ายเลืองแบบร่วมสมัย โดยศิลปินต๊วนหนิมีความประสงค์ว่า อยากลองพยากรณ์อนาคตของการร้องเพลงทำนองก๋ายเลือง“ผมต้องการสร้างผลงานเพลงทำนองก๋ายเลืองแบบร่วมสมัยผ่านการผสมผสานเทคนิคการร้องเพลงทำนองก๋ายเลืองและดนตรีร่วมสมัย ซึ่งการใช้จังหวะเพลงซ้ำๆกันเป็นเวลา 5 วินาทีและปรับเปลี่ยนทาวดนตรีให้เหมาะสมจะช่วยสร้างผลงานเพลงทำนองก๋ายเลืองใหม่”

การแสดงผลงานที่ใช้ศิลปะการจัดแสง (baovanhoa)

ส่วนนาง ห่าทวี้หั่ง หัวหน้าโครงการ “อนาคตของศิลปะพื้นเมือง” ซึ่งเป็นผู้ที่หลงไหลในการพัฒนาศิลปะ ได้เผยว่า มีแต่คนที่ชื่นชอบศิลปะพื้นเมืองอย่างลึกซึ้งถึงจะสามารถสร้างสรรค์ผลงานใหม่ๆจากผลงานศิลปะพื้นเมืองและสามารถพัฒนาศิลปะพื้นเมืองให้ขึ้นสู่ขั้นสูงใหม่ได้“ดิฉันต้องการส่งเสริม ยกระดับและพัฒนาคุณค่าของศิลปะพื้นเมือง พวกเราจะสามารถสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานศิลปะได้ก็ต่อเมื่อสามารถเข้าใจเกี่ยวกับศิลปะพื้นเมือง วัฒนธรรมท้องถิ่นและรู้จักจุดแข็งและความสามารถของตนเอง”

ศิลปะพื้นเมืองเวียดนามกำลังมีพลังชีวิตใหม่ ซึ่งความสำเร็จดังกล่าวมาจากศิลปินรุ่นใหม่ที่พยายามสร้างสรรค์และพัฒนาผลงานศิลปะที่มีการผสมผสานระหว่างเอกลักษณ์ดั้งเดิมและความร่วมสมัย ทั้งนี้ แสดงให้เห็นว่า ศิลปะพื้นเมืองได้มีการเปลี่ยนแปลงและพัฒนามาโดยตลอดให้สอดคล้องกับการพัฒนาของมนุษย์และชีวิตในปัจจุบัน.