เพิ่มพลังชีวิตใหม่ให้แก่เพลงพื้นเมือง มุมมองจากงานมหกรรมการเล่นเครื่องดนตรีและร้องเพลงพื้นเมือง 3 ภาค
Vũ Miền -  
(VOVWORLD) - ในระหว่างวันที่ ๒๐ถึง๒๕ตุลาคม ณ เมืองฮาลอง จังหวัดกว๋างนิง ได้มีการจัดงานมหกรรมการเล่นเครื่องดนตรีและร้องเพลงพื้นเมือง 3 ภาคที่กระทรวงวัฒนธรรม กีฬาและการท่องเที่ยวและคณะกรรมการประชาชนจังหวัดกว๋างนิงเป็นผู้จัด โดยมีการนำเสนอเพลงพื้นเมืองโบราณที่กำลังได้รับการอนุรักษ์ผ่านการแสดงด้วยเครื่องดนตรีต่างๆและการเขียนเนื้อร้องใหม่ ซึ่งช่วยให้เพลงพื้นเมืองเวียดนามได้รับการฟื้นฟูและเผยแพร่อย่างกว้างขวางมากขึ้นในชีวิต
การแสดงในงาน (VNA) |
คุณผู้ฟังกำลังฟังการร้องเพลงทำนองเจ่าวันที่มีชื่อว่า “Hát về đất nước”หรือแปลว่า “ร้องเพลงสรรเสริญประเทศ”ซึ่งเป็นเพลงพื้นเมืองเว้ที่ถูกนำเสนอผ่านการแสดงรูปแบบใหม่ของคณะศิลปะจังหวัดเถื่อเทียนเว้ ถึงแม้การร้องเพลงทำนองเจ่าวันนั้นใช่ว่า ใครๆก็ฟังแล้วชอบได้ แต่การร้องเพลงพื้นเมืองเว้ในงานมหกรรมการเล่นเครื่องดนตรีและร้องเพลงพื้นเมือง3ภาคกลับได้รับความสนใจจากผู้ชมจำนวนมาก โดยเนื้อร้องและลีลาของเพลงทำให้ผู้ชมอย่างนาย เหงียนบั๊กเหวียด ที่กำลังอาศัยในเมืองฮาลองคิดถึงเมืองเว้และช่วงเวลาที่อยู่ในเมืองเว้เพื่อปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการสู้รบในช่วงสงคราม“การร้องเพลงพื้นเมืองเว้ไพเราะและน่าประทับใจ ซึ่งผมชอบไปชมการแสดงศิลปะพื้นบ้านต่างๆ โดยเฉพาะการร้องเพลงพื้นเมืองเว้ในงานมหกรรมลักษณะนี้ แม้การร้องเพลงพื้นเมืองเว้ในวันนี้จะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือลีลาเนื้อร้องยังสะท้อนวิถีชีวิตประจำวันที่มีความเรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์ของเมืองเว้ ซึ่งคุ้นเคยและซึ้งใจมากๆ”
ในกรอบของงาน มีการแสดงร้องเพลงพื้นเมือง รวมทั้งเพลงทำนองวี้หยัมและเพลงโบราณ รวมกว่า 100 ทำนองที่ได้รับการอนุรักษ์และฟื้นฟูเพื่อเพิ่มพลังชีวิตใหม่ให้แก่กิจกรรมวัฒนธรรมที่เริ่มสูญหายไปจากสังคมยุคใหม่ นาง เหงวียนถิมายเฮือง ผู้อำนวยการศูนย์วัฒนธรรมจังหวัดแทงฮว้าได้เผยว่า“นอกเหนือจากการร้องเพลงแบบต้นฉบับ พวกเราให้ความสนใจเป็นอันดับต้นๆและส่งเสริมการเขียนเนื้อร้องใหม่ให้แก่เพลงพื้นเมืองโบราณให้สอดคล้องกับยุคปัจจุบัน นอกเหนือจากเพลงพื้นเมือง พวกเรายังอนุรักษ์การฟ้อนรำพื้นเมือง หรือ สอดแทรกการฟ้อนรำร่วมสมัยเข้าประกอบในการร้องเพลงโบราณเพื่อดึงดูดความสนใจของเยาวชนมากขึ้น”
การมอบรางวัลให้แก่รายการแสดงที่ยอดเยี่ยม (VNA) |
การแสดงรอบแรกของงานมหกรรมการเล่นเครื่องดนตรีและร้องเพลงพื้นเมือง3ภาค ได้พาผู้ชมหลายพันคนดื่มด่ำกับอารมณ์ที่หลากหลาย เช่น รู้สึกประทับใจกับความสวยงามของธรรมชาติและความกล้าหาญของคนท้องถิ่นผ่านเพลงพื้นเมืองเขตที่ราบสูงเตยเงวียน ความทรงจำที่ลุ่มลึกเกี่ยวกับฮานอยในอดีตผ่านเพลงทำนองเจ่าวันและเสิ่ม หรือ ปล่อยอารมณ์ให้คล้อยตามไปกับจังหวะเพลงพื้นเมืองของสาวชนกลุ่มไทในเขตเขาตะวันตกเฉียงเหนือ ซึ่งทุกอย่างได้สะท้อนให้เห็นถึงความคงอยู่อย่างยั่งยืนของคุณค่าวัฒนธรรมที่โดดเด่นของประชาชาติที่ยังคงทรงคุณค่าและมีส่วนร่วมพัฒนาวัฒนธรรมเวียดนามให้รุ่งเรืองดั่งเช่นความเห็นของนักดนตรี ศิลปินยอดเยี่ยมเลืองเงวียน หัวหน้าคณะกรรมการตัดสินการประกวด“งานมหกรรมครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงการร้องเพลงพื้นเมืองแนวใหม่ เป็นเพลงพื้นเมืองที่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ซึ่งเป็นผลจากการผสมผสานและการเปลี่ยนแปลงด้านวัฒนธรรม เช่น การร้องเพลงทำนองกวานเหาะของประชาชนในช่วงปี 1940 แตกต่างกับในช่วงปี 1950 เพราะการเปลี่ยนแปลงของภาษา ส่วนการเปลี่ยนแปลงรูปแบบการร้องเพลงในงานมหกรรมครั้งนี้ถือเป็นวิธีการเพื่อเข้าถึงผู้ชมได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่น่ายินดีเพราะแสดงให้เห็นว่า ผู้ชมยังตระหนักถึงการอนุรักษ์และส่งเสริมการร้องเพลงพื้นเมืองแบบต้นฉบับและทำให้การร้องเพลงพื้นเมืองมีความผูกพันใกล้ชิดกับชีวิตในปัจจุบันมากขึ้น”
การอนุรักษ์ การกลั่นกรองและสืบทอดเพลงพื้นเมืองให้แก่คนรุ่นหลังคือสิ่งที่ต้องทำเพื่อให้สมบัติของชาติยังคงอยู่กับกาลเวลา ซึ่งงานมหกรรมการเล่นเครื่องดนตรีและร้องเพลงพื้นเมือง3ภาคได้สร้างอารมณ์สุนทรีย์ให้แก่ผู้ชมและเป็นโอกาสเพื่อยกย่องสดุดีศิลปินด้านวัฒนธรรมพื้นเมือง
การแต่งเพลงใหม่ที่อิงตามลีลาของเพลงพื้นเมืองพร้อมการใช้เสียงดนตรียุคใหม่ประกอบในเพลงก็ถือเป็นวิธีการนำดนตรีพื้นเมืองให้เข้าถึงผู้ชมและผู้ฟังทั้งชาวเวียดนามและชาวต่างชาติมากขึ้น อีกทั้งเป็นมาตรการที่เป็นรูปธรรมเพื่ออนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้านในยุคปัจจุบัน.
Vũ Miền