เพลงกล่อมเด็กกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองแขนงนี้ในคลังวัฒนธรรมเวียดนาม

( VOVworld )-เพลงกล่อมเด็กถือเป็นทรัพย์สมบัติและอาหารทางใจอันหาค่ามิได้สำหรับชาวเวียดนาม เนื้อร้องเป็นบทเรียนอันล้ำค่าบทแรกตั้งแต่เกิดช่วยสร้างบุคลิกและคุณธรรมของมนุษย์ ที่คนรุ่นก่อนๆได้ทิ้งไว้ให้คนรุ่นใหม่สืบทอดต่อไป

( VOVworld )-เพลงกล่อมเด็กถือเป็นทรัพย์สมบัติและอาหารทางใจอันหาค่ามิได้สำหรับชาวเวียดนาม เนื้อร้องเป็นบทเรียนอันล้ำค่าบทแรกตั้งแต่เกิดช่วยสร้างบุคลิกและคุณธรรมของมนุษย์ ที่คนรุ่นก่อนๆได้ทิ้งไว้ให้คนรุ่นใหม่สืบทอดต่อไป

เพลงกล่อมเด็กกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองแขนงนี้ในคลังวัฒนธรรมเวียดนาม - ảnh 1
ความอบอุ่นแม่ลูกยามร้องเพลงกล่อม (  อินเตอร์เน็ต )

เพลงกล่อมเด็กเป็นวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างหนึ่งที่สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อและค่านิยมของคนในท้องถิ่นต่างๆและได้ก่อเกิดขึ้นมาก่อนเพลงพื้นบ้านแขนงอื่นๆที่ชาวบ้านในอดีตมักร้องกันเนื่องจากได้ยินได้ฟังตั้งแต่เกิด คือได้ฟังพ่อแม่ร้องกล่อมตนเอง น้องๆและหลานๆ เมื่อมีลูกก็มักร้องกล่อมลูกจึงเป็นเพลงที่มักร้องกันได้เป็นส่วนมาก  เพลงกล่อมเด็กมักมีใจความแสดงถึงความรักใคร่ห่วงใยลูกของผู้เป็นแม่และคุณย่าคุณยาย เป็นเพลงกล่อมที่หวานซึ้ง ทำนองเป็นทำนองพื้นเมืองฟังสบาย ถ่ายทอดความรู้สึกต่างๆ และเรื่องราวเกี่ยวกับธรรมชาติ การดำเนินชีวิต การทำมาหากิน  การระบายอารมรณ์และความในใจของผู้ร้อง  เนื้อร้องเกี่ยวกับแม่น้ำ ดวงจันทร์ ทุ่งนา กอใผ่และทุ่งหญ้ากว้างสุดลูกหูลูกตา

เพลงกล่อมเด็กกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองแขนงนี้ในคลังวัฒนธรรมเวียดนาม - ảnh 2
เนิ้อร้องของเพลงกลุ่อมลูกภาคเหนือที่ผูกพันกับกอใผ่ ( อินเตอร์เน็ต )

ที่ท่านกำลังรับฟังอยู่นี้คือเพลงกล่อนเด็ก โดยมีเนื้อความในตอนหนึ่งว่า ลูกเอ๋ยจงหลับเถอะ แม่ลูกไปทำไร่ทำนายังไม่กลับเพื่อจับปลาดุกทำกับข้าวให้ลูก  เด็กที่ได้อยู่ในบรรยากาศแห่งเสียงเพลงกล่อมนั้นจะได้เข้าใจคุณค่าของวัฒนธรรมพื้นเมืองของประเทศ

ส่วนผู้ที่ร้องเพลงกล่อมเด็กนั้นได้ฝากความหวังไว้ว่า บุตรหลานเมื่อโตขึ้นจะกลายเป็นคนดี กตัญญูรู้คุณต่อปู่ย่าตายายและพ่อแม่ เป็นคนที่มีประโยชน์ต่อชาติบ้านเมือง  ส่วนเด็กนั้น เมื่อฟังก็เกิดความเพลิดเพลิน หลับง่ายและเกิดความอบอุ่นใจ ศิลปิน ฝ่ามห่งเฟือง อาจารย์มหาวิทยาลัยครูดนตรีและจิตรกรรมส่วนกลางเปิดเผยว่า   “ ยามประเทศเกิดสงคราม ผมต้องอพยพไปอาศัยอยู่ที่จังหวัดฟู้เถาะ  ฤดูร้อนไม่มีไฟดังนั้นแม่และยายมักจะกล่อมเด็กพร้อมพัดไล่ร้อน ร้องเพลงกล่อมไปพลางไกวเปลนอนตามจังหวะเพลง  พร้อมลูบหัวและหลังเด็กทำให้เด็กๆรู้สึกถึงความอบอุ่นและหลับสบาย  คุณยายและคุณแม่อาจจะไม่ใช่เป็นนักร้องหรือศิลปินแต่เสียงร้องของพวกเขามีความอบอุ่นและแสดงถึงความรักใคร่ต่อเด็กจึงทำให้เด็กเมื่อฟังแล้วก็นอนหลับดีเลย  ผมยังจดจำความรู้สึกที่อย่างมิรู้ลืม

ปัจจุบัน เพลงกล่อมเด็กค่อยๆหายไปตามกาลเวลา ศ.นักดนตรีเจิ่นวันเคที่ทุ่มเทตลอดชีวิตในการศึกษาวิจัดนตรีพื้นเมืองมีความคิดเห็นว่า  “ ปีค.ศ. ๑๙๗๖ ผมกลับประเทศภายหลังต้องห่างมา ๒๕ ปี  ผมได้เดินทางจากเหนือจรดใต้และได้พบว่าเพลงกล่อมเด็กกำลังถูกหลงลืม โดยคุณยายและคุณแม่ไม่ร้องอีกแล้ว ซึ่งสาเหตุมาจากสงคราม วิถีชีวิตสมัยใหม่และสภาพความเป็นอยู่  ผมรู้สึกห่วงมากเพราะเพลงกล่อมเด็กเป็นบนเรียนดนตรีพื้นเมืองบทแรกที่แม่สอนลูกพร้อมกับน้ำนมที่หล่อเลี้ยงชีวิตของเด็ก

เพลงกล่อมเด็กกับการอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นเมืองแขนงนี้ในคลังวัฒนธรรมเวียดนาม - ảnh 3
กล่อมลูกให้นอนหลับสบาย
( diendanbaclieu.net )

เพลงกล่อมเด็กได้รับการอนุรักษ์จากปากต่อปากโดยเพลงบทหนึ่งจะมีเนื้อร้องที่แตกต่างกัน  ในชีวิตทุกวันนี้  ผู้เป็นแม่ไม่ค่อยมีเวลากล่อมลูกดังนั้นจะไม่สามารถสอนเด็กเกี่ยวกับเพลงแขนงนี้ แต่กระทรวงวัฒนธรรม การกีฬาและท่องเที่ยวได้ร่วมมือกับทางการจังหวัดหลายแห่งเพื่อจัดงานมหกรรมเพลงกล่อมเด็ก  ศิลปินกาวถิ่เหี่ยนได้พยายามอนุรักษ์เพลงกล่อมเด็กเปิดเผยว่า   “ พวกเราได้ร่างโครงการสอนเพลงกล่อมลูกให้แก่คนรุ่นใหม่ที่กำลังเลี้ยงลูกไม่ว่าจะเป็นการสอนศิลปะการร้องเพลงกล่อม ซึ่งเป็นเพลงที่มีลักษณ์แห่งความเป็นมนุษย์ ให้การศึกษาแก่เด็กและสรรเสริญความสวยงามของประเทศ  ปัจจุบันเพลงกล่อมลูกถูกหลงลืมมาบ้างดังนั้นดิฉันกับประชาชนทุกคนกำลังพยายามฟื้นฟูมันให้ได้และอนุรักษ์ศิลปะพื้นเมืองแขนงหนึ่งนี้ของประเทศ  ”   เพลงกล่อมเด็กเป็นวัฒนธรรมพื้นเมืองที่สวยงามอย่างหนึ่งที่ต้องสืบทอด ได้รับการส่งเสริมและอนุรักษ์ให้ชนรุ่นหลังสืบไป./.


ข่าวที่เกี่ยวข้อง

คำติชม

ข่าวอื่นในหมวด