เพลงปฏิวัติในชีวิตจิตใจของชาวบ้านในลุ่มแม่น้ำโขง
Le Hoa - Vinh Phong - VOV -  
(VOVWORLD) -ถึงวันฉลองสำคัญๆของประเทศ ผู้ที่รักดนตรีในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขงมักจะได้ฟังเพลงปฏิวัติผ่านรายการศิลปะผ่านสื่อต่างๆ โดยเฉพาะจากรายการศิลปะของสถานีวิทยุเวียดนาม ซึ่งเพลงเหล่านี้ได้รับความนิยมจากผู้ฟังจำนวนมาก
นักร้อง นักดนตรีและนักข่าวหวิ่งเหิบ (กลาง) |
ศิลปินยอดเยี่ยมจุ๊กลิงห์จากนครเกิ่นเทอ เป็นศิลปินและผู้กำกับรายการแสดงเดิ่นกาต่ายตื๋อและอุปรากรแต่เธอก็เป็นผู้ที่ชื่นชอบเพลงปฏิวัติเป็นอย่างมากเพราะเพลงเหล่านี้ได้สร้างแรงบันดาลใจให้เธอและเพื่อนร่วมรบฟันฝ่าอุปสรรคและสละทุกอย่างเพื่อเอกราชและเสรีภาพของประเทศ เพลงปฏิวัติสะท้อนประวัติศาสตร์และความรับผิดชอบของพลเมืองต่อปิตุภูมิที่สันติภาพในวันนี้ สร้างความหลงไหลและปลุกเร้าจิตสำนึกให้แก่ประชาชนในการปกป้องและสร้างสรรค์ประเทศ ศิลปินจุ๊กลิงห์บอกว่า เธอชอบฟังรายการเพลงของสถานีวิทยุเวียดนาม โดยเฉพาะชอบเสียงของนักร้องชายจ่องเติ๊น “เราชอบเสียงของจ่องเติ๊นมากที่สุด เขาร้องดี การแต่งกายและบุคลิกภาพดูเรียบง่าย เมื่อเร็วๆนี้ ดิฉันได้ฟังจ่องเติ๊นร้องเพลง “เสิม” ดีมากเลย ไม่รู้ว่าจะใช้คำไหนเพื่อชื่นชม”
ในกิจกรรมการแสดงดนตรีศิลปะการร้องเพลงต่างๆ เช่น งานมหกรรมเพลงอมตะ การประกวดร้องเพลงของนักเรียนและนักศึกษา การประกวดร้องเพลงของกรรมกร พนักงานและแรงงานหรือการพบปะสังสรรค์ด้านศิลปะระหว่างสำนักงานต่างๆในเขตที่ราบลุ่มแม่น้ำโขง เพลงปฏิวัติมักจะได้รับความนิยมจากผู้ฟังทุกเพศทุกวัย ผู้ฟังวัยเยาว์คนหนึ่งจากจังหวัดเกียนยางแสดงความคิดเห็นว่า “เพลงปฏิวัติเป็นหัวใจของรายการแสดงศิลปะต่างๆในมหาวิทยาลัยของดิฉัน เมื่อฟังเพลงเหล่านี้ ดิฉันยิ่งรู้สึกภูมิใจมากเกี่ยวกับประชาชาติและประเทศเวียดนาม การที่ได้เกิดและใช้ชีวิตในช่วงที่ประเทศมีสันติทำให้พวกหนูมีความเข้าใจบรรยากาศและใจความของเพลงปฏิวัติเวียดนามได้ส่วนหนึ่งแต่เราก็ร้องด้วยความภาคภูมิใจและความกระตือรือร้นของเยาวชน เพลงปฏิวัติคุ้นเคยกับทุกคน ซึ่งในงานแต่งงานหรือในงานสำคัญต่างๆในชีวิตประจำวัน เมื่อได้ฟังเพลงปฏิวัติ ใครๆก็ชอบ เพลงปฏิวัติยังคงทรงคุณค่าถึงปัจจุบัน”
เพลง “ปิตุภูมิมองจากทะเล” |
เพลงปฏิวัติในสมัยใหม่มีการเพิ่มเติมเพลงสรรเสริญประเทศ ทหาร หมู่เกาะและทะเลอย่างผลงานต่างๆของนักร้อง นักดนตรีและนักข่าวหวิ่งเหิบ เพลง “ปิตุภูมิมองจากทะเล” “ฟังน้องร้องบนหมู่เกาะเจื่องซา” และ “ที่ฉันเขียนเพลงรัก” เป็นต้น ซึ่งล้วนได้รับคำชื่นชมจากผู้ฟัง นักดนตรีกวิ่งเหิบเผยว่า “เมื่อได้อยู่ในช่วงสงครามก็ทำให้เราเกิดอารมณ์ได้ง่ายในการประพันธ์เพลงปลูกใจปฏิวัติแต่ในยามสันติ เพื่อที่จะสามารถสร้างผลงานเพลงที่กินใจผู้ฟัง นักดนตรีต้องวิจัยและเกาะติดสถานการณ์มากขึ้น รวมทั้งต้องรักและทุ่มเทเป็นอย่างมากให้แก่การแต่งเพลง จริงๆแล้ว การแต่งเพลงก็เหมือนเราเล่าเรื่องส่วนตัวของคนบางคนแต่กลับสะท้อนภาพลักษณ์ของคนหลายคน เช่น ในบทเพลงต่างๆเกี่ยวกับทะเลของดิฉัน ดิฉันได้เล่าเรื่องของครอบครัวของความสัมพันธ์ระหว่างแนวหลังกับแนวหน้าคือทะเลและหมู่เกาะต่างๆแต่ก็เป็นเรื่องของทหารนับล้านคนที่มีภรรยารออยู่ในแนวหลัง ซึ่งก็เป็นความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ในยามสันติ”
ในกระบวนการพัฒนาวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายได้มีแนวดนตรีต่างๆเกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของคนทุกเพศทุกวัยแต่เพลงปฏิวัติยังคงเป็นที่ชื่นชอบของชาวเวียดนาม ทั้งคนรุ่นก่อนที่เคยผ่านช่วงสงครามมาแล้วและคนรุ่นใหม่ที่ได้มีชีวิตอยู่ในยามสันติเพราะเมื่อได้ฟังเพลงปฏิวัติก็รู้สึกรักประเทศเวียดนามมากขึ้น มีความเชื่อมั่นมากขึ้นในการมีส่วนร่วมสร้างสรรค์ประเทศให้นับวันเจริญรุ่งเรือง.
Le Hoa - Vinh Phong - VOV