เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ปี 2023 ได้เกิดเหตุแผ่นดินไหว 2 ครั้งขนาด 7.8 ริกเตอร์และ 7.5 ริกเตอร์ทางภาคใต้ของตุรกีและเขตชายแดนระหว่างตุรกีกับซีเรีย ซึ่งเป็นเหตุแผ่นดินไหวที่รุนแรงที่สุดในตุรกีในรอบเกือบ 1 ศตวรรษที่ผ่านมา ซึ่งทำลายบ้านเรือนนับแสนหลังและผู้เสียชีวิตกว่า 5 หมื่น 3 พันคน นี่คือข้อมูลสถิติของทางการตุรกีในขณะที่ยังมีผู้สูญหายอีกจำนวนมาก

ความทรงจำที่ปวดร้าว

ภายหลัง 1 ปีที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว ครอบครัวนับหมื่นครอบครัวในประเทศตุรกียังไม่สามารถฟันฝ่าความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียบ้าน สูญเสียญาติมิตรและต้องอยู่กับความวิตกกังวลตลอดเวลา ที่เมืองนาร์ลิกา จังหวัดหทัย ภาคใต้ของตุรกี หลายพันครอบครัวเลือกอยู่อาศัยในตู้คอนเทนเนอร์และเต็นท์ริมถนน โดยไม่ยอมกลับบ้านแม้บ้านหลายหลังยังสามารถพักได้ นาง Fatma Kirici ผู้รอดชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวเผยว่า เธอสูญเสียลูก 1 คน

“ดิฉันสูญเสียลูกสาวจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งนั้น ลูกสาวของดิฉันอายุ 20 ปีและเพิ่งแต่งงานได้ 45 วันเท่านั้น ดิฉันไม่กล้ากลับบ้านแม้บ้านของดิฉันจะได้รับความเสียหายไม่มากนั้น”

เหตุแผ่นดินไหวได้ทำลายความเชื่อมั่นของหลาย ๆ คนต่ออนาคต หลายครอบครัวยังไม่รู้ว่าจะใช้ชีวิตอย่างไรต่อไป นาย Cevdet Donmez ประชาชนในเมืองอันทาเคียเผยว่า 

“ผมไม่มีความเชื่อมั่นต่อชีวิตอีก พวกเราไม่รู้ว่าจะต้องฟันฝ่าอุปสรรคอย่างไรหรือต้องทำยังไงเพื่อค้ำประกันอนาคตที่ดีให้แก่ลูกหลาน”

ในหลายวันที่ผ่านมา ที่ประเทศตุรกี ได้มีการจัดกิจกรรมต่างๆเพื่อรำลึกถึงผู้เสียชีวิตและฟื้นฟูจิตใจของผู้ที่อยู่รอด เมื่อวันที่ 5 กุมภาพันธ์ ที่จังหวัดหทัย  ซึ่งเป็นหนึ่งในท้องถิ่นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ได้มีการจัดงานที่ชื่อว่า “วันที่สวยงามสุดท้ายของจังหวัดหทัย”เพื่อย้อนให้เห็นภาพที่สวยงามของจังหวัดหทัยและเมือง Antakya ในช่วงก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหว

รัฐบาลตุรกีมีแผนการจัดพิธีรำลึกในทั่วประเทศในวันที่ 6 กุมภาพันธ์  นาย เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน ประธานาธิบดีตุรกีได้ลงพื้นที่เมืองคาฮ์รามันมารัช ซึ่งเป็นศูนย์กลางแผ่นดินไหวเพื่อตรวจสอบการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ประชาชน และเป็นประธานในพิธีรำลึก ต่อจากนั้น ประธานาธิบดี  เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันจะลงพื้นที่ตรวจสอบเมืองและหมู่บ้านต่างๆในเขตที่เกิดเหตุแผ่นดินไหว พรรคฝ่ายค้านในตุรกีก็ได้เข้าร่วมพิธีรำลึกผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุแผ่นดินไหวในจังหวัดหทัย กาเซียนเท็ปและคาห์รามานมารัส ซึ่งจัดโดยรัฐบาล แต่อย่างไรก็ดี เนื่องจากเหตุผลด้านความมั่นคง ท้องถิ่นบางแห่ง เช่น มาลัตยา ได้จำกัดกิจกรรมรำลึกที่มีคนพลุกพลานในระหว่างวันที่ 5 -7 กุมภาพันธ์

ผลักดันการก่อสร้าง

นอกจากกิจกรรมรำลึกถึงผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุแผ่นดินไหว ปัญหาที่ได้รับความสนใจที่สุดในตุรกีปัจจุบันคือกระบวนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว ตามข้อมูลที่กระทรวงสิ่งแวดล้อมและตัวเมืองตุรกีประกาศเมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ มีบ้าน 6 แสน 8 หมื่นหลังถูกทำลายและได้รับความเสียหายอย่างหนักจากเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งทำให้ประชาชนนับแสนคนขาดแคลนที่อยู่อาศัย ตามข้อมูลจากสำนักงานรับมือภัยพิบัติและภาวะฉุกเฉินตุรกีหรือ AFAD   มีประชาชนกว่า 6 แสน 8 หมื่นคนกำลังพักอาศัยชั่วคราวในตู้คอนเทนเนอร์และเต็นท์

การก่อสร้างที่อยู่อาศัยใหม่กำลังต้องเผชิญกับความท้าทายด้านการเงินและมาตรฐานการก่อสร้างหลังจากที่ทางการตุรกีเพิ่มความเข้มงวดเกี่ยวกับความปลอดภัยในการก่อสร้างบ้านหลังเหตุแผ่นดินไหว แต่อย่างไรก็ดี ในการกล่าวปราศรัยในพิธีมอบบ้านหลังใหม่กว่า 7 พัน 2 ร้อยหลังให้แก่ประชาชนในจังหวัดหทัย ประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิบ เออร์โดกันประกาศว่า ทางการตุรกีจะปฏิบัติตามคำมั่นที่มีขึ้นหลังเหตุแผ่นดินไหวเมื่อปีที่แล้วคือจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ปี 2024 จะก่อสร้างบ้านกว่า 3 แสน 1 หมื่นหลังและจนถึงต้นปี 2025 จะก่อสร้าง 6 แสน 8 หมื่นหลัง

บรรดาผู้สังเกตการณ์ประเมินว่า กระบวนการก่อสร้างที่อยู่อาศัยให้แก่ครอบครัวผู้เคราะห์ร้ายจากเหตุแผ่นดินไหวในตุรกีจะได้รับการผลักดันในอีกหลายเดือนข้างหน้าในสภาวการณ์ที่ทางการตุรกีกำลังได้รับแรงกดดันก่อนการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นที่จะมีขึ้นในวันที่ 31 มีนาคม   นอกจากนี้ การดำเนินคดีผู้รับเหมาก่อสร้าง บริษัทอสังหาริมทรัพย์และสำนักงานดูแลตัวเมืองในเขตที่เกิดเหตุแผ่นดินไหวกำลังดำเนินไปเนื่องจากตุรกีกำหนดว่า 1 ในสาเหตุหลักที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเป็นจำนวนมากจากเหตุแผ่นดินไหวคือคุณภาพการก่อสร้างอาคารต่างๆอยู่ในระดับต่ำและไม่ได้มาตรฐานตามข้อกำหนด.